“บุญจง” ป้องนายสุดลิ่ม!! ปัด “ปู่จิ้น” คิดมิชอบ “ห้อยน้อย” ฟ้องกลับ ขรก.เป็นสิทธิ์

“สุรพงษ์” ตั้งกระทู้สดถามซื้อขายเก้าอี้ข้าราชการ ท้านายกฯ ขับคนผิดพ้นรัฐ “บุญจง” ลุกแจง ยัน “ปู่จิ้น” ไม่คิดทำสิ่งมิชอบ ชี้มีการสอบคุณสมบัติการโยกย้ายผู้ว่าฯครบถ้วนทุกประการ อ้าง 22 ผู้ว่าฯ แจงแล้ว สอบเข้าด้วยความสามารถ ยัน ป.ป.ช.สอบโกงนักเรียนนายอำเภอแล้ว พร้อมตั้งกรรมการสอบคู่ด้วย ป้อง “ศักดิ์สยาม” ชี้ถูกโจมตีต้องฟ้องกลับ “อภิสิทธิ์” ย้ำซื้อเก้าอี้ ภาค 2 ไม่มีนักการเมืองเกี่ยว ลั่นทุกเรื่องโกงชงสอบหมด ไม่มีปล่อยผ่าน

วันนี้ (25 ก.พ.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เรื่องการซื้อขายโยกย้ายตำแหน่งของข้าราชการว่า ข่าวการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีออกมาว่า มีการจ่ายเงินเพื่อซื้อตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย 300-400 ล้านบาท รวมทั้ง การที่อดีตรองปลัดกระทรวงเรียกข้าราชการผู้หญิงไปทำอนาจารที่ในกระทรวง มหาดไทย ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทยตกต่ำอย่างสุดขีด สถาบันนักปกครองเสื่อมถอยในพริบตา นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็มีการไปตรวจสอบที่กระทรวงมหาดไทยได้เจอความจริงและหลักฐานต่างๆ เช่น เรื่องการทุจริตในการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ในการสอบครั้งล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา ผลออกมาว่ามีผู้สอบได้เป็นข้าราชการจาก จ.บุรีรัมย์ ถึง 17 คน เรื่องข่าวการซื้อตำแหน่งสอบเข้าเป็นนักเรียนนายอำเภอเป็นที่รู้กันว่าจะสอบผ่านต้องจบเนติบัญฑิต และมีการซื้อขายราคาระหว่าง 8 แสนถึงหนึ่งล้านบาท

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า มีกระบวนการออกมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ออกมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย รมว.มหาดไทย รู้เห็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ ว่าหัวหน้าทีมที่ปรึกษาของนายชวรัตน์ถูกกล่าวหาอย่างนี้ คิดจะทำอย่างไร นอกจากนี้ นายกฯ จะแสดงความรับผิดชอบและปกป้องข้าราชการดีๆ แต่ไม่อยากไปหาเงินมาซื้อตำแห่นงอย่างไร และหากมีพยานว่ารมว.มหาดไทย และทีมงานมีพฤติกรรมเช่นนี้ นายกฯ จะขับออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ รวมทั้ง จะเอาผิดคนที่เข้าไปยุ่งเมื่อไหร่ จะดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จเมื่อไหร่ หรือจะเงียบไปเฉยๆ เหมือนกรณีของชุมชนพอเพียง หรือการจัดซื้อในกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่

โดย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ลุกขึ้นกล่าวชี้แจงว่า ตนยืนยันว่า รมว.มหาดไทยไม่เคยคิดแม้แต่จะทำสิ่งที่ไม่ดีไม่ชอบ ในส่วนของการแต่งตั้งตำแหน่งผู้ว่าฯ ครั้งนี้มีตำแหน่งว่างอยู่ 22 ตำแหน่งทั่วประเทศ แต่มีบุคคลที่มีสิทธิจำนวนมาก ซึ่งมีหลักเกณฑ์ยึดตาม พ.ร.บ.พลเรือน 2551 และระเบียบวิธีการปฏิบัติของ ก.พ. นอกจากนี้ ตำแหน่งผู้ว่าฯ ต้องเป็นรองผู้ว่าฯ มา 3 ปี จึงมีสิทธิถูกคัดเลือก โดยมีคณะกรรมการสอบคุณสมบัติ วิสัยทัศน์ ความรู้ความสามารถ โดยเป็นไปตามระเบียบกฎหมายทุกประการ ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าต้องหาเงิน 30 ล้าน เพื่อการจะสอบเป็นผู้ว่าฯ ได้นั้น กระทรวงมหาดไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ เราชี้แจงข้อกล่าวหาทุกอย่าง คนที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าฯ ก็ได้ออกมาแถลงว่าไม่ได้ซื้อตำแหน่งเป็นการแต่งตั้งด้วยความสามารถ ส่วนการแต่งตั้งนายอำเภอ ทาง ป.ป.ช.ก็กำลังสอบสวน นอกจากนี้ ทางกระทรวงมหาดไทยก็แต่งตั้งคณะกรรมการโดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ มีรองปลัดกระทรวง มีตัวแทนอัยการสูงสุดสอบเรื่องนี้อยู่ ซึ่งก็ต้องรอว่าผลการสอบสวนจะออกเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องการกล่าวหาประธานคณะทำงาน เขาก็ต้องใช้สิทธิในการฟ้องร้อง ใช้กระบวรการยุติธรรม กล่าวหาว่าเขาโกง ทุจริต ก็ต้องฟ้อง

ขณะที่ นายกฯ กล่าวว่า การโยกย้ายแต่งตั้งการซื้อขายตำแหน่งได้มีการพิจารณาว่าจะส่งให้สตช.ตรวจสอบ รวมทั้ง ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล้ว ซึ่งดูแลในส่วนของภาค 1, 2, 3, 4, 6 ขณะนี้การสอบในส่วนของผบช.ภาค 2 ในรายงานไม่มีพูดถึงนักการเมือง แต่ได้สรุปแนะนำให้มีการแก้ไขคำสั่ง รวมทั้งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบการเรียกรับผลประโยชน์ โดยวันนี้ตนก็จะมีการเรียกประชุมถึงเรื่องนี้ นอกจากนี้ ทาง สตช.ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่งสืบเนื่องจากการแต่งตั้งโยก ย้ายในภาค 2 ไม่ถูกตามกฎหมายและระเบียบ ดังนั้น ตนยืนยันว่าไม่มีเรื่องไหนที่ร้องเรียนมาแล้วปล่อยผ่านไปเฉยๆ โครงการชุมชนพอเพียงก็ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบไปแล้ว รวมทั้งปัญหาในกระทรวงสาธารณสุขด้วย ทุกเรื่องที่มีปัญหาไม่มีเรื่องใดที่รัฐบาลปล่อยผ่าน จะรายงานตามที่คณะกรรมการได้สรุปผลสอบออกมา และจะทำเรื่องเหล่านี้ในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ หากเกิดปัญหาทุกกระทรวง