xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.ชี้มท.ตกต่ำสุดขีด เปรียบ"ราชสีห์เดินตามสุนัขจิ้งจอก"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ที่รัฐสภา คณะส.ว.ที่เป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด นำโดย นายฐิระวัตร กุลละวณิชย์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร และนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี ร่วมกันแถลงข่าว ถึงปัญหาการโยกย้ายและการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย
นายฐิระวัตร กล่าวว่า กรรมาธิการปกครองได้ติดตามเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสงสัยว่าต้องมีอะไรที่ไม่ปกติ โดยเฉพาะการโยกย้ายผู้ว่าฯ ปีละ 4 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 83 จังหวัด เพราะบางจังหวัดย้ายแล้วย้ายอีก 3-4 เดือนย้ายหนึ่งครั้ง บางจังหวัดมีผู้ว่าฯ 3 คนต่อปี ผู้ว่าฯ บางคนย้ายปีละ 2-3 จังหวัด เช่น จ.สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา และ สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้ส่วนราชการ และราษฎรทำงานลำบาก แสดงให้เห็นว่า เป็นการออกคำสั่งที่ไม่รอบคอบ
นอกจากนี้ ยังมีการโยกย้ายที่รอบคอบเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะตำแหน่งนายอำเภอที่เกษียณ ตั้งแต่เดือน ต.ค.ปี 52 แต่เพิ่งตั้งได้เมื่อเดือน ก.พ.53 ที่ผ่าน รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงของกรมโยธาธิการจังหวัด และกรมการปกครอง ก็ยังแต่งตั้งได้ไม่หมด
ทั้งนี้ กรรมาธิการฯเห็นว่า การโยกย้ายไม่มีมาตรฐาน ย้ายผู้ว่าฯ ปีละ 4 ครั้งก็ไม่เคยมีมาก่อน และผู้มีอาวุโสมากกว่าก็ไม่ได้รับการแต่งตั้ง ทั้งที่มีนายอำเภอที่มีผลงานดีเด่นระดับเพชร ก็ถูกย้ายไปอยู่ที่ อ.ระดับต่ำลงไป และบางอำเภอ มีการย้ายในเขตเลือกตั้ง เช่น จ.อุบลราชธานี และ ฉะเชิงเทรา
"อยากให้ผู้บริหารนำแนวคิดเรื่องการบริหารงานบุคคลมาใช้เป็นหลักเกณฑ์ เพราะธรรมดาข้าราชการไม่มีปากเสียงอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้คงอึดอัดเต็มที่ ถึงได้ออกมาพูด อยากให้ผู้บริหารคิดในทางกลับกัน แทนที่จะลงโทษดำเนินคดี ทำไมไม่เรียกมาพูดคุย เพื่อสร้างความเข้าใจกัน" นายฐิระวัตรกล่าว

**ลั่นต้องเอาผิดหากทำการขัดรธน.
นายกฤช กล่าวว่า ขอตั้งขอสังเกตการแต่งตั้ง นายมานิต วัฒนเสน เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ผ่านมาก็ข้ามหัวคนอื่นมา 11 คน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ก็ไม่เคยมีธรรมเนียม และถูกย่ำยีขนาดนี้ ถามว่านายมานิต เก่งไหม ก็ตอบว่าเก่ง แต่ในสายตาของคนมหาดไทย มีคนเก่งมากกว่าแล้วทำไมไม่ตั้ง
ทั้งนี้ ขอให้จับตาดูการแต่งตั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงหาดไทย แทนนายมานิต ที่กำลังจะเกษียณว่าคนต่อไปอาจจะข้ามหัวมาเป็น 100 คนก็อาจเป็นได้ เพราะขณะนี้กระทรวงมหาดไทย กำลังจะไม่มีที่ยืน เพราะไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชน
"ความเป็นธรรมของข้าราชการบางคนถูกทำลายโดยนักการเมือง การแต่งตั้งข้าราชการส่วนใหญ่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่งตั้งถูกใจ แต่ไม่ถูกต้อง ความจริงอำนาจในการแต่งตั้งอยู่ที่อธิบดี และปลัดกระทรวง แต่อยากถามว่า บุคคลเหล่านี้มีอำนาจแท้จริงหรือไม่ หรือ มีผู้ใดชี้ให้ออกคำสั่ง คนเหล่านั้นไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นนักการเมือง หรือผู้มีอำนาจ ดังนั้นการดำเนินการในเรื่องนี้น่าจะขัดรธน. มาตรา 266 (2) อย่างไรก็ตาม หากมีหลักฐานที่จะดำเนินการได้ กรรมาธิการปกครองจะดำเนินการทุกอย่างที่สามารถทำได้" นายกฤช กล่าว

**อย่าเป็นราชสีห์เดินตามสุนัขจิ้งจอก
ด้านนายดิเรก กล่าวว่า ที่ต้องออกมาแถลงข่าว เพราะต้องการปกป้องความเป็นธรรม ในการแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงมหาดไทย การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดบางส่วน จะออกมาแถลงข่าวยืนยันว่าไม่มีการซื้อขายตำแหน่งนั้น ตนอยากฝากไปถึงผู้ว่าฯ กลุ่มนั้นให้หยุดการกระทำ เพราะสังคมมองภาพมากกว่านี้ อย่าให้สังคมมองว่า รับใช้นักการเมือง ให้กลับไปทำงานดูแลประชาชนในพื้นที่ ส่วนเราจะปกป้องสถาบันมหาดไทยอย่างเต็มที่
"มีคนพูดว่า ผู้ว่าฯ เปรียบเหมือนราชสีห์ ดูแลสรรพสัตว์ในพื้นที่ ดังนั้น อยากให้ราชสีห์ เดินสง่า ไม่ใช่เดินคอตกตามสุนัขจิ้งจอก และอยากฝากไปถึงนักการเมือง ขอให้มีจิตสำนึกในเรื่องความเป็นธรรม และธรรมาภิบาล และฝากไปถึงนักปกครอง อย่าทำตัวมุ่งรับใช้นักการเมือง หวังเจริญก้าวหน้าโดยยอมซุกอกนักการเมือง และกระโดดข้ามหัวเพื่อนไปสู่ตำแหน่งใหญ่ ถ้าข้าราชการไปวิ่งซุกอกของเขาเพื่อให้เจริญ นักการเมืองถึงได้มายุ่งกับเรา" นายดิเรกกล่าว

**ผู้ว่าฯห้อยบุรี นำทีมสาบาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด 21 จังหวัด นำโดยผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ได้เข้าพบ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย หลังจากนั้นได้แถลงข่าว โดยยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีการซื้อขายตำแหน่งผู้ว่าฯ ตามที่เป็นข่าว และที่สำคัญ ผู้ว่าฯ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีจรรยาบรรณของนักปกครอง จึงไม่มีใครซื้อตำแหน่งนี้แน่นอน
ส่วนกรณีที่ระบุว่าจังหวัดที่หารายได้ส่งไม่ทัน ให้มีการผ่อนส่งนั้น ถ้าใครที่มีข้อมูลจริงว่าผู้ว่าฯ มีการซื้อขายตำแหน่ง ให้เอามาเปิดเผย อย่ามายืมมือคนมหาดไทยเล่นงานคนมหาดไทยด้วยกัน ขอสาบานต่อวัดพระแก้วมรกต ถ้าหากผู้ว่าฯ มีการซื้อขายตำแหน่งจริง ก็ขอให้เกิดความฉิบหาย แต่ในทางกลับกัน ถ้าไม่ได้ทำ คนที่พูดก็รับไป การซื้อขายตำแหน่งไม่มี ขอเอาเกียรติเป็นประกันและขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
" ผู้ว่าราชการจังหวัด คือ พ่อเมืองทำงานต่างพระเนตร พระกรรณ์ ต้องเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน หากมีการซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้น ประชาชนจะสามารถพึ่งผู้ว่าฯได้อย่างไร เรามองประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่ได้ยึดประโยชน์ส่วนตน ผู้ว่าฯ ทุกคนเติบโตมาจากสายงาน ไม่อยากให้มีการใส่ร้าย และสร้างตราบาปให้กับนักปกครอง เห็นใจท่านรัฐมนตรี และทีมงานที่ต้องมาโดนเรื่องแบบนี้"
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีข่าวว่า มีการซื้อขายตำแหน่ง ล่าสุดมีข่าวว่าหากหารายได้ไม่ทัน ก็ให้มีการผ่อนส่งด้วย ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นการดูถูกเกียรติ และศักดิ์ศรีของผู้ว่าฯ เป็นอย่างมาก อยากถามว่า คนที่ปล่อยข่าวออกมานั้น เคยทำเรื่องแบบนี้ใช่หรือไม่ ถึงออกมาพูดแบบนั้น
เมื่อถามต่อว่ามีการแถลงข่าวเรื่องนี้ถึง 2 ครั้ง แล้วจะมีการดำเนินการทางกฎหมายควบคู่ไปด้วยหรือไม่ ผู้ว่าฯนนทบุรี กล่าวว่า ตนอยากท้าคนที่ปล่อยข่าว ออกมาเปิดความจริง ถ้ามีหลักฐานให้เอาออกมาโชว์เลย และต้องรับผิดชอบกับคำพูดของตัวเองด้วย
ขณะที่ ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้ก็มีการคุยกันอยู่ว่า จะมีการดำเนินการอะไรหรือไม่ คนมหาดไทย ก็มีภาษิตอยู่ว่า เสือไม่กินเนื้อเสือ สิงห์ก็ไม่กินเนื้อสิงห์ การที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ ที่จะต้องทำให้เกิดความสมานฉันท์ เกิดความร่วมมือกันทุกฝ่าย ส่วนคนที่ออกมาให้ข่าวทำร้ายสถาบันผู้ว่าฯนั้น เชื่อว่าเป็นการยืมมือกันทำร้ายมากกว่า ที่ผู้ว่าฯ ออกมาแถลงข่าววันนี้ เนื่องจากมันเป็นการทำลายสถาบัน จึงได้ออกมาปกป้อง

**อ้างเป็นการดิสเครดิตทางการเมือง
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่คนบอกว่า มหาดไทยยุคนี้ เป็นยุคตกต่ำที่สุด ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ กล่าวว่า ที่ตกต่ำก็เพราะพวกเดียวกัน ยอมให้คนอื่นยืมมือมาทำร้ายกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่าคนที่พูดเรื่องนี้ ก็ต้องละอายแก่ใจตัวเอง ที่พูดเรื่องไม่จริง หากคิดว่าเป็นเรื่องจริง ให้ระบุเป็นรายบุคคลเลยว่า ใครซื้อตำแหน่งบ้าง เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการดิสเครดิสกันของฝ่ายการเมืองมากกว่า เพราะว่าผู้ว่าฯไม่มีการซื้อตำแหน่ง ให้ไปเช็คประวัติผู้ว่าฯ แต่ละคนได้เลย แต่เพราะการเมืองเข้ามายุ่ง จึงทำให้มีเรื่องน่าอายขึ้น แต่เรื่องที่ว่ายุคนี้กระทรวงมหาดไทยเป็นยุคที่ตกต่ำนั้น ต้องถามประชาชนว่า ตกต่ำจริงหรือไม่
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าฯ นครปฐม กล่าวว่า เป็นห่วงสถาบันข้าราชการ ไม่ใช่เฉพาะสถาบันผู้ว่าฯ แต่เราห่วงระบบข้าราชการทั้งประเทศ หากผู้ว่าฯ เกิดความระส่ำระสาย ถูกตำหนิติเตียนเชิงไม่เป็นธรรม มันก็จะกระทบไปถึงส่วนราชการอื่นๆ ที่ทำงานภายในจังหวัดด้วย เพราะว่าการทำงานในจังหวัด มีการทำงานร่วมกันหลายส่วนราชการ

**"มาร์ค"นำเข้าหารือครม.วันนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเรียกรับเงินเข้าอบรมนายอำเภอ ของกระทรวงมหาดไทย ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน กำลังรอสอบถามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) อยู่ แต่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย พบตนก็บอกว่า อังคารที่ 23 ก.พ.นี้ จะเสนอให้ครม.ทราบ
"จะดูรายงานของเขาชี้แจงว่าอย่างไร แต่อยากให้ทราบด้วยว่า เวลามีข่าวคราวอย่างนี้ มันมีความเสียหายต่อองค์กรอย่างไร และมีความจำเป็นที่จะต้องทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏออกมา"
เมื่อถามว่าในภาครัฐมักจะมีปัญหาเรื่องการโยกย้าย การซื้อตำแหน่งอยู่ตลอดเวลา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันคงไปเจาะจงเฉพาะฝ่ายราชการฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องรอดูรัฐมนตรีมหาดไทย จะรายงานอย่างไร เมื่อถามว่าหมายถึง มีนักการเมืองเกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ทราบ อาจจะมีหลายฝ่าย
เมื่อถามว่าเวลานี้มีนักการเมืองออกมาร้อง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นแหละ คงต้องฟังว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ ปปท. เขาทำงานเรื่องนี้อยู่แล้ว มีอิสระที่จะดำเนินการ เมื่อถามว่า นายกฯ พร้อมที่จะตั้งคณะกรรมการกลางมาสอบเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนดูตามข้อเท็จจริงที่เขาเสนอมาทั้ง ปปท. และกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าจะไม่มีลูบหน้า ปะจมูก ตนทำทุกอย่างตรงไปตรงมาทุกครั้ง
เมื่อถามว่า เวลานี้กลายเป็นว่าฝ่ายการเมืองที่ถูกพาดพิง ก็ไปฟ้องร้องฝ่ายข้าราชการ ที่ออกมาเปิดเผย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามกฎหมาย ก็ใช้สิทธิ์กันไป แต่กระบวนการในการบริหาร ก็ต้องมีการจัดการ เมื่อถามว่า จะยิ่งทำให้ข้ารชการที่มีข้อมูลไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าเขาเปิดเผยสิ่งที่เป็นความจริง และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เขาก็ไม่ผิดอยู่แล้ว

**"ปู่จิ้น"โวยเล่นนอกกติกา
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการทุจริตในกระทรวงมหาดไทยในช่วงนี้ที่มีหลายเรื่อง ว่า เป็นกระบวนการที่มีข่าวโหมโรงในช่วงนี้ ซึ่งไม่ทราบว่ากระบวนการแบบนี้มาจากไหน จะเรียกว่าเป็นการเล่นกันนอกกติกา ก็ว่าได้ ซึ่งก็แล้วแต่คนที่ฟังจะเชื่อหรือไม่ ตนยอมรับมีความอึดอัดใจเหมือนกัน ส่วนจะทำอย่างไรให้สังคมเข้าใจนั้นอยู่ที่ผลงาน
"งานในกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาก็พอใจแล้ว ถ้าไม่พอใจตรงไหนก็บอกมา ถ้าเห็นผู้ว่าฯ ทำงานบกพร่อง รัฐมนตรีก็ต้องลาออกไม่ใช่คนอื่น" นายชวรัตน์กล่าว
นายชวรัตน์ ยังปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่อง ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ จะเป็นแกนนำร่วมกับผู้ว่าฯ ภาคอีสาน ที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ จะเปิดการแถลงข่าวตอบโต้เรื่องการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องของข้าราชการประจำ
เมื่อถามว่า พร้อมชี้แจงหรือไม่หากมีการตรวจสอบเรื่องนี้ นายชวรัตน์ กล่าวว่าพร้อม แต่คณะกรรมการต้องมีหลักฐานมาชี้แจง แต่ถ้าไม่มี ตนก็จะไม่ขอตอบ
นายชวรัตน์ ยังกล่าวถึงกรณี นาจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ออกมาเปิดโปงหลายๆ ประเด็นว่า ความจริงนายจาดุร ควรจะมีหนังสือมาชี้แจงก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วตนอาจจะเรียกมาชี้แจงภายหลัง แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีการส่งหนังสือชี้แจงเข้ามา
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดทางภาคอีสาน เก็บรายได้ไม่เข้าเป้าจะมีผลต่อการโยกย้ายหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีการวิ่งเต้นอะไร ส่วนกรณีที่วุฒิสภามีการแนะนำให้ตั้งชมรมคนรักมหาดไทย มาต่อต้านคัดค้านเช่นเดียวกับชมรมแพทย์ชนบทของกระทรวงสาธารณสุข ตนเห็นว่า หากเรื่องดังกล่าวอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ก็สามารถทำได้

**วุฒิฯชี้ มท.ตกต่ำถึงขีดสุด
ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.) ช่วงเปิดให้สมาชิกหารือก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสุพจน์ โพธิ์ทองคำ ส.ว.สรรหา ได้หารือว่า ขณะนี้ในกระทรวงหมาดไทยมีความตกต่ำมากที่สุด ตนเป็นข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ปลัดจนถึงผู้ว่าฯ รวม 44 ปี ไม่เคยเห็นยุคใดที่มีสภาพแบบนี้มาก่อน ทั้งข่าวการซื้อขายโยกย้ายตำแหน่ง การจัดทำโครงการต่างๆ เช่น งบภัยธรรมชาติ ที่มีการส่อไปในทางทุจริต กรณีข้าราชการขึ้นสู่ตำแหน่งโดยการเกาะแข้งเกาะขานักการเมือง
ดังนั้นขอเรียกร้องให้นายกฯ เข้ามาดำเนินการ เพราะถ้านายกฯ ไม่สามารถกำกับดูแลหน่วยงานให้มีธรรมาภิบาลขึ้นได้ กระทรวงอื่นๆ ก็จะมีปัญหาตามมาแบบนี้อีก
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กรณีที่คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา จัดสัมมนาปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นผลให้นายจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการมหาดไทย และนายกสมาคมข้าราชการพลเรือน ถูกฟ้องทางแพ่ง หมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ตนอยู่บนเวทีตลอด ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ขอยืนยันว่านายจาดุร ไม่ได้เอ่ยชื่อถึงใคร และไม่ได้ระบุว่าใครซื้อขายตำแหน่ง เพียงแต่พูดยกตัวอย่างโดยใช้คำว่า อธิบดีที่เกี่ยวกับการสร้างทางในอดีต ได้ยินว่ามีการซื้อขายตำแหน่งในรูปการชักส่วนจากงบราชการ 3,000 ล้าน และ 300 ล้าน โดยไม่ได้เอ่ยถึงชื่อใคร ฉะนั้นถ้าฟ้องร้อง ตนพร้อมจะเป็นพยานให้ และขอท้าให้เปิดเทปการสัมมนา พิสูจน์ได้
นายประสาร กล่าวว่า การที่นายจาดุร แสดงความเห็นเป็นความกล้าหาญ คนในกระทรวงมหาดไทยได้ตั้งชมรมรักมหาดไทย เพื่อต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง จึงขอให้ข้าราชการทั้งหลายออกมาร่วมกัน จะปล่อยให้ฝ่ายการเมืองย่ำยีไปถึงเมื่อไร ถึงจะออกมา เพราะมีตัวอย่างในกระทรวงสาธารณสุข ชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกมาแสดงบทบาท และรักษาผลประโยชน์ของชาติได้ จึงขอให้นายกฯ ตั้งกรรมการอิสระที่เป็นกลางขึ้นมาตรวจสอบการโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทยในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา ก็จะเป็นคุณประโยชน์ของประเทศชาติ

**ติงผู้ว่าฯบุรีรัมย์ อย่าเล่นการเมือง
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอให้กำลังใจ นายจาดุร อภิชาตบุตร ที่กล้าหาญออกมาเปิดเผยสิ่งไม่ถูกต้อง ถ้านายจาดุร มีอะไรให้พรรครับรู้ ก็ยินดีอย่างยิ่ง และอยากเรียกร้องให้ข้าราชการพลเรือนเป็นกำลังใจ และรักษาศักดิ์ศรีของพวกท่านเอาไว้
ส่วนที่ ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ จะเป็นแกนนำนัดบรรดาผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ออกมาต่อต้านนายจาดุร นั้นขอเตือนว่า เป็นข้าราชการประจำอย่ามาเล่นการเมือง เมื่อไม่เกี่ยวข้องก็อย่ามาร้อนตัว อย่ายอมเป็นทาสรับใช้คนไม่ดี ข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ต้องรักษาเกียรติยศของตัวเอง อยากให้ยึดถือพระราชดำรัสว่า เราต้องป้องกัน อย่าให้คนเลวปกครองประเทศ

**ปูด"ต.-ก.-พ."ใน ก.ทรัพย์ฯ เอี่ยวเซ็งลี้
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า ขอฝากนายกฯ ให้ดูแลกระทรวงทรัพยาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะมีการร้องเรียนเรื่องซื้อขายตำแหน่งมากโดยบุคคลชื่อย่อ “ต. ก. และ พ.” โดย “พ.” นั้นอาวุโสกว่าเพื่อน ขอเตือนว่าอย่ายุ่งเรื่องเงินทองในการซื้อขายตำแหน่ง นอกจากนี้ รองอธิบดีที่มีชื่อเหมือนรัฐมนตรี ก็อย่ายุ่งเรื่องสิ่งที่ไม่ดีงาม ปัจจุบันในกระทรวงฯมีตำแหน่งว่าง 15 ตำแหน่ง แต่ยังแต่งตั้งไม่ได้ ตำแหน่ง ผอ.ป่าไม้เขต ก็ว่างอยู่ โดยเมื่อช่วงแต่งตั้งเดือนต.ค.นั้น ที่ยังเสนอชื่อไม่ได้ก็เพราะยังตกลงกันไม่ลงตัวในบางอย่าง แต่มีการกรอกแบบฟอร์ม หมายเลขไว้แล้ว รอเพียงใส่ชื่อเท่านั้น หลังจากนั้นจะมีการตกลงกันในเรื่องที่รู้ๆกันอยู่แล้ว ถึงค่อยใส่ชื่อภายหลัง
**"น้องห้อย"ฟ้องจาดุร-ASTV ผู้จัดการฯ
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงานรมว.มหาดไทย น้องชายนายเนวิน ชิดชอบ ได้มอบอำนาจให้นายสิทธิโชค สิงหเสนี ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย บริษัท เอเอสทีวี ผู้จัดการ จำกัด และนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณา นสพ. ASTV ผู้จัดการฯ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 53 จำเลยที่ 1 ได้อภิปรายในการจัดสัมมนาเรื่อง “ธรรมาภิบาลในการแต่งตั้งโยกย้าย ศีกษากรณีกระทรวงมหาดไทย” ของคณะกรรมการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและสร้างธรรมมาภิบาลวุฒิสภา ที่อาคารรัฐสภา 2 ว่า โจทก์ในฐานะประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย เป็นผู้ดำเนินการจัดการในการซื้อขายและการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะการแต่งตั้งอธิบดีที่เกี่ยวกับการก่อสร้างทาง มีการจ่ายเงินหรือเรียกรับเงินกันถึง 300-400 ล้านบาท
ต่อมาจำเลยที่ 2 ได้นำเสนอข่าวการอภิปรายดังกล่าว ซึ่งเป็นการกล่าวหาโจทก์ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล มีอำนาจโยกย้ายข้าราชการได้ตามใจตนเอง และทำสิ่งไม่ดี ทำสิ่งเลวร้ายอัปยศด้วยการเรียกรับเงินซื้อขายตำแหน่ง ทั้งที่ทราบดีว่าเป็นข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง สร้างความเสียหายต่ออาชีพและหน้าที่การงานของโจทก์ จึงขอเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้อง และขอให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันรวม 9 ฉบับ เป็นเวลา 15 วัน ติดต่อกัน
ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.737/2553 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ วันที่ 10 พ.ค. นี้ เวลา 09.00 น.


กำลังโหลดความคิดเห็น