รมว.มท.ทำเป็นมึนข่าวทุจริตกระทรวงทำไมเพิ่งมาโหมโรงในช่วงนี้ ปลงตกหากมีความบกพร่อง รมต.ต้องรับผิดชอบ ใบ้กินผู้ว่าฯ บุรีรัมย์เป็นแกนนำจัดม็อบพ่อเมืองอีสาน แถลงโต้ข่าวซื้อขายตำแหน่ง พูดได้คำเดียว “แล่วแต๊” โบ้ย “จาดุร” ต้องทำหนังสือชี้แจงเหตุจุดไฟเผาบ้านก่อนเรียกเข้าชี้แจง
วันนี้ (22 ก.พ.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงในช่วงที่กระทรวงมหาดไทย มีกระแสข่าวการทุจริตในช่วงนี้หลายเรื่องว่า เป็นกระบวนการที่มีข่าวโหมโรงในช่วงนี้ ซึ่งไม่ทราบว่ากระบวนการแบบนี้มาจากไหน ตนก็ยังสงสัยอยู่ หรือจะเรียกว่าเป็นการเล่นกันนอกกติกาก็ว่าได้ แต่กระทรวงมหาดไทยก็ได้ทำงานตามนโยบายที่ได้วางไว้
เมื่อถามว่าในช่วงที่มีข่าวการทุจริตในกระทรวงมหาดไทยเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ รมว.มากแค่ไหน โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย นายชวรัตน์กล่าวว่าแล้วแต่คนที่ฟังจะเชื่อหรือไม่ ก็ยอมรับมีความอึดอัดใจบ้างเหมือนกัน ส่วนจะทำอย่างไรให้สังคมเข้าใจนั้นอยู่ที่ผลงาน
“งานในกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาก็พอใจแล้ว ถ้าไม่พอใจตรงไหนก็บอกมา ถ้าเห็นว่ารัฐมนตรีทำงานบกพร่อง รัฐมนตรีก็ต้องลาออกไม่ใช่คนอื่น” นายชวรัตน์กล่าว
นายชวรัตน์กล่าวถึงกรณีที่ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ เตรียมร่วมกับผู้ว่าฯ ภาคอีสานที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ เปิดการแถลงข่าวตอบโต้การซื้อขายตำแหน่งของกระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้ว่าฯ บุรีรัมย์เป็นแกนนำว่า ตนไม่ทราบเป็นเรื่องของข้าราชการประจำ ตนเพียงทราบข่าวมาเท่านั้นเอง เมื่อถามว่าพร้อมชี้แจงหรือไม่ หากมีการตรวจสอบ นายชวรัตน์กล่าวว่าพร้อม แต่คณะกรรมการต้องมีหลักฐานมาชี้แจง แต่ถ้าไม่มีก็จะไม่ขอตอบ
เมื่อถามว่าหากผลการสอบการทุจริตในกระทรวงมหาดไทยพบว่าโปร่งใสจะมีการฟ้องร้องกลับหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ต้องดูความเหมาะสมอีกครั้งว่าจะอยู่ตรงไหน
เมื่อถามว่า กรณีที่นาจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ออกมาเปิดเผยหลายๆประเด็นจะเรียกมาชี้แจงหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ความจริงนายจาดุร ควรจะมีหนังสือมาชี้แจงก่อน ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วตนอาจจะเรียกมาชี้แจงภายหลัง แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีการส่งหนังสือชี้แจงเข้ามา
เมื่อถามว่า ที่มีกระแสข่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ทางภาคอีสานเก็บรายได้ไม่เข้าเป้าจะมีผลต่อการโยกย้ายหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีการวิ่งเต้นอะไร
ส่วนกรณีที่วุฒิสภามีการแนะนำให้ตั้งชมรมคนรักมหาดไทย มาต่อต้านคัดค้านเช่นเดียวกับชมรมแพทย์ชนบท ของกระทรวงสาธารณสุข ตนเห็นว่าหากเรื่องดังกล่าวอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยก็สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม กรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมร้อง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบกระทรวงมหาดไทยกรณีการจัดซื้อเครื่องอัลฟ่า 6 โดยจัดซื้อกรณีพิเศษ ที่ไม่มีการยื่นซองประมูลนั้น ตนไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของข้าราชการประจำ เพราะรัฐมนตรีเป็นเพียงผู้ดูแลเรื่องนโยบาย ถ้ารัฐมนตรีต้องลงไปดูเองก็ไม่ต้องจ้างใครมาทำงานแทน ส่วนที่ราคาจัดซื้อแพงกว่าของ ป.ป.ส.มากกว่า 3 แสนบาทนั้นตนยังไม่ทราบรายละเอียดต้องรอรายงานเข้ามาก่อน