“สุเทพ” ตรวจเยี่ยมศูนย์รักษาความปลอดภัย กทม. วอนประชาชนโทร. 1555 แจ้งเหตุป่วน จี้ กทม.เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยชุมชน อย่าซ้ำรอยสงกรานต์เลือด ยันเจ้าหน้าที่ทำงานโปร่งใสตรวจสอบได้ เมิน “จตุพล่าม” ปูดทหารระดมอาวุธพร้อมสู้แดง บอกไม่น่าเชื่อถือ แนะอย่าปิดถนนหวั่นคนกรุงเดือดร้อน แย้มประชาชนไม่พอใจจะซวยเอง ยันไม่มีสกัดม็อบ ลั่นไม่ยอมให้แดงสยามบุกศาลฎีกา จี้ “สุรชัย ซ้ายหลงยุค” สำนึกบุญคุณชาติบ้าง ไล่ไปถาม “ชัย” ปูด “แม้ว-เน” รักรีเทิร์น ปัดทำพรรคร่วมขัดใจ แนะยอมรับคำพิพากษา เชื่อคนหยิบมือเดียวเปลี่ยนชาติไม่ได้
วันนี้ (24 ก.พ.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ รักษาความปลอดภัยกรุงเทพมหานคร โดยมีเครือข่ายโทรทัศน์วงจรปิดกว่า 2,000 ตัว ครอบคลุมกรุงเทพมหานคร และมีสายด่วน 1555 จำนวน 120 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง จึงเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันเฝ้าระวัง และแจ้งเหตุในช่วงสถานการณ์ทางการเมืองเปราะบางและอ่อนไหว เพราะอาจมีผู้ที่ไม่หวังดีมาก่อความไม่สงบในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เกิดเหตุการณ์จลาจลและส่งผลเสียต่อประเทศไทย
ทั้งนี้ นายสุเทพยังขอให้กรุงเทพมหานครเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการรักษาความปลอดภัยจากชุมชน ไม่ให้เกิดเหตุเหมือนช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว พร้อมจัดกำลังตำรวจและทหารเข้าเสริมกำลังทันทีเมื่อเกิดความวุ่นวาย ขณะเดียวกัน พร้อมให้สื่อมวลชนเข้าตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างโปร่งใสด้วย
จากนั้น นายสุเทพได้ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีลักษณะแยกกันเดิน ก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าคงไม่เปลี่ยนวิธีการที่รองรับสถานการณ์อะไรเป็นพิเศษ เพราะสิ่งที่ได้เตรียมการไว้ก็มุ่งที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นสำคัญ ไม่ได้มุ่งดำเนินการกับผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแดงกลุ่มไหนก็ตาม เป้าหมายของรัฐบาลไม่ได้อยู่ที่การต่อต้าน หรือปราบปรามผู้ชุมนุม แต่เป้าหมายคือรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรเราจะตั้งรับในลักษณะอย่างนี้ ขณะที่การระดมใช้รถปิกอัพขนคนเข้าร่วมชุมนุมถึง 200 คัน จะทำให้การจราจรวิกฤตเป็นอัมพาตหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีปัญหา แต่อย่าทำอะไรที่ทำให้ประชาชนจะเดือดร้อน ถ้าเอารถกระบะ รถอีแต๋นเข้ามาเป็นหมื่นเป็นแสนคันจะมีปัญหาในด้านจราจร เพราะใน กทม.จราจรก็หนาแน่นอยู่แล้ว ประชาชนก็อาจจะเดือดร้อน ดังนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมหรือกลุ่มคนเสื้อแดงทั้งหลายก็ไม่ควรทำ
“ถ้ากลุ่มเสื้อแดงต้องการแสดงพลังทางการเมืองโดยไม่ทำให้คนกรุงเทพฯ เดือดร้อน ผมคิดว่าก็สามารถดำเนินการได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าทำให้ประชาชนเดือดร้อน ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจก็จะเกิดผลเสียหายต่อกลุ่มผู้ชุมนุมเอง และหนทางการเมืองที่คาดไว้ก็จะไม่ได้ผล ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะไม่มีการสกัดกั้นหรือยับยั้งอะไร ตราบใดที่การเคลื่อนไหวชุมนุมไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อการใช้ชีวิตตามปกติของประชาชน แต่ถ้าผู้ชุมนุมปิดถนนเข้าออกกรุงเทพฯ ด้านเหนือ ด้านใต้ ด้านตะวันออก อย่างที่ประกาศไว้ อย่างนี้รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อให้การจราจรสามารถเคลื่อนที่ดำเนินการได้ ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ” นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าจะมีการมารวมตัวกันที่ จ.สระบุรีก่อนเข้า กทม. นายสุเทพกล่าวว่า รวมตัวกันได้แต่เลือกที่รวมตัวที่ดีหน่อย เช่น ที่สนามกีฬาหรือตรงไหนก็แล้วแต่ เพียงแต่อย่าปิดถนน ถ้าปิดถนน เราไม่ยอม เมื่อถามอีกว่าถ้าถึงขั้นปิดถนน จะต้องใช้กฎหมายที่มากกว่า พ.ร.บ.จราจรหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า จะดูแลเป็นพื้นที่ ดูแลตามสถานการณ์จริง เมื่อถามว่าเราใช้กฎหมายตรงไหนรองรับ นายสุเทพกล่าวว่า กฎหมายปกติก็ทำได้อยู่แล้ว แต่ต้องดูพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
เมื่อถามถึง กลุ่มแดงสยามที่ประกาศชุมนุมที่บริเวณสนามหลวง 25-27 ก.พ. จนถึงเที่ยงคืน จะมีมาตรการเพิ่มเติมอะไรหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่ต้อง เขาสามารถชุมนุมที่สนามหลวงได้ อาจจะต้องขออนุญาต กทม.หน่อย เมื่อถามว่าบริเวณสนามหลวงเป็นที่ใกล้กับที่พิจารณาคดีจะอันตรายเกินไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีปัญหา ถ้ากลุ่มเสื้อแดงชุมนุมอยู่ในขอบเขตที่วางไว้ แต่อย่าเคลื่อนขบวนไปประชิดศาลฎีกา หรือบุกรุกเข้าไปในบริเวณศาล อย่างนั้นไม่ได้ เราไม่ยอมให้เกิดกรณีเช่นนั้นแน่ ก็ขอให้ชุมนุมอยู่ในที่ก็แล้วกัน เมื่อถามว่า ทางแกนนำครั้งนี้คือนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ซึ่งค่อนข้างมีความคิดที่รุนแรง เกรงจะมีปัญหาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ก็คงต้องจับตาและติดตามอย่างใกล้ชิด
“จริงๆ แล้วนายสุรชัยเองก็เคยเป็นผู้สร้างปัญหาให้บ้านเมือง จนศาลพิพากษาจำคุกมาแล้ว วันนี้ออกมาอีก ก็ควรสำนึกในบุญคุณของประเทศไทย แผ่นดินไทยบ้าง ไม่ควรสร้างปัญหาความวุ่นวายให้บ้านเมืองอีก” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า ล่าสุดนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมกองกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ 2 ชุด 38 กองร้อย ใช้ปืนลูกซองอีก 68กระบอก ส่วนอีก 8 กองร้อยจะใช้ปืน M-16 จะทำให้ประชาชนหวาดกลัวจะเกิดการปะทะที่รุนแรง นายสุเทพกล่าวว่า นายจตุพรพูดจาเชื่อถือไม่ได้ เราอย่าไปให้น้ำหนักคำพูดของนายจตุพร เพราะว่า พูดเอาแต่ได้ พยายามให้ประชาชนเข้าใจผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยืนยันว่า ทุกปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่จะให้สื่อมวลชนทั้งวิทยุ โทรทัศน์อยู่ร่วมปฏิบัติการ ได้เห็นเหตุการณ์จริงๆ รายงานพี่น้องประชาชนได้ตรงไปตรงมา เมื่อถามว่า เป็นห่วงการปะทะกันเองระหว่างมวลชน 2 กลุ่มของทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดงหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้สั่งการทางผู้ว่าฯ กทม.ชี้แจงกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่ว กทม.แล้ว ถ้าเห็นเหตุการณ์อะไรที่จะคุกคามความปลอดภัยของประชาชน ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เราจะเข้าไประงับเหตุ จะไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองแล้วเกิดการปะทะกัน ตนระมัดระวังเรื่องนี้อยู่ครับ เพราะคราวที่แล้วเกิดเหตุที่นางเลิ้ง ที่ราชเทวี ก็ต้องเอามาเป็นบทเรียน
เมื่อถามว่าจะมอบนโยบายความมั่นคงให้กับ กอ.รมน.จังหวัดอย่างไรในการดูแลในส่วนภูมิภาค นายสุเทพกล่าวว่า การประชุม กอ.รมน.จังหวัด มีเรื่องยุทธศาสตร์เตรียมการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงของประเทศใน 4-5 ประเด็น เช่น เรื่องสถาบันหลักของประเทศไทย ระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ยาเสพติด ทรัพยากรธรรมชาติ การนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปเป็นอุดมการณ์วิถีชีวิตของประชาชน สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นที่เรากำหนดเป็นหลักยุทธศาสตร์ ให้มีแผนงานรองรับ ถ้าเรารองรับทุกอย่างได้ทันท่วงที บ้านเมืองข้างหน้าจะรอดพ้นจากภัยคุกคาม
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทำไมถึงเรียกประชุมในช่วงก่อนการพิพากษาคดียึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปโยงเหตุการณ์หลายอย่างในเรื่องเดียวกัน กรณีความไม่แน่นอนในทางการเมืองที่อ่อนไหวจนเกิดเหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องเฉพาะหน้า เรื่องชั่วคราว แต่สิ่งที่ข้าราชการทั้งประเทศและผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องเตรียมการเป็นเรื่องการเตรียมการระยะยาวสำหรับป้องกันประเทศไทย งานด้านความมั่นคงเป็นงานเราได้ประชุม เตรียมการกันมาตลอดเวลา วันนี้เป็นเรื่องที่ต้องมาซักซ้อมกับผู้ว่าฯ ทั้งหลายไม่เกี่ยวกับเรื่องเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ บิดานายเนวิน ชิดชอบ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่านายเนวิน อาจจะกลับมากอดคอ พ.ต.ท.ทักษิณ อีกครั้งก็ได้ นายสุเทพกล่าวว่า ไปถามท่านดีกว่า อย่ามาถามตนเลย เมื่อถามว่าไปทำอะไรให้เกิดแรงเสียดทานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี เมื่อถามว่าไปเกี่ยวโยงกับสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยพูดไว้หรือไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลแบ่งขั้ว หรือแม้แต่การยุบสภา นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์บ้านเมืองทำได้ แต่สังคมอย่าหวั่นไหวไปกับคำวิพากษ์วิจารณ์ ใครที่จะเชี่ยวชาญเก่งกาจ ทำตัวเป็นหมอดู เป็นโหรทำนายล่วงหน้าได้ ฉะนั้นอย่าไปกังวลใจกับเรื่องนี้ ทำให้เป็นปกติมากที่สุดก็ดีแล้ว เมื่อถามว่าประเมินแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตเช่นนี้ รัฐบาลก็สามารถกอดคอพรรคร่วมรัฐบาลจนตลอดรอดฝั่ง นายสุเทพ กล่าวยืนยันว่า ยังยืนยันว่ารัฐบาลมีความแข็งแรงเป็นปึกแผ่น พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายยังมั่นคง พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลายตระหนักดีว่าทุกคนทุกพรรคมีหน้าที่เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ คือดูแลชาติบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัยให้คนของเราได้มีชีวิตปกติสุข
เมื่อถามว่า วันที่ 26 ก.พ.ตัดสินคดียึดทรัพย์จะเกิดจุดเปลี่ยนประเทศไทยอย่างที่หลายฝ่ายวิตกกังวลไว้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความมั่นคง เชื่อมั่นในระบบพรรคการเมืองของประเทศเรา ประชาธิปไตยแบ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ วันที่ 26 ก.พ. เป็นปรากฎการณ์ที่อำนาจปวงชนชาวไทยศาลยุติธรรมจะได้ทำหน้าที่ดูแลประเทศ ฉะนั้น ทุกคนต้องเชื่อมั่นรับฟัง และยอมรับในคำพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรม เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เชื่อว่าคนเพียงหยิบมือเดียวไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในบ้านเมือง
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมการรองรับสถานการณ์ให้เป็นโอเวอร์รีแอ็กชัน เรียกร้องความยุติธรรมจนกว่าแผ่นดินจะกลบหน้า เป็นสัญญาณต่อไปว่าประเทศชาติจะไม่อยู่อย่างสงบสุขอีกต่อไปแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า ประการแรกที่บอกกล่าวหาว่ารัฐบาลเตรียมการโอเว่อร์รีแอค เตรียมการเกินความพอดี ความเป็นจริง
“เราจำเป็นครับ เพราะเมื่อสงกรานต์ที่แล้ว คนกลุ่มนี้ที่ยึดบ้านยึดเมือง เผาบ้านเผาเมือง คนกรุงเทพฯ เขาเดือดร้อนกันมาก วันนี้จะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เตรียมการที่ต้องปฏิบัติให้รัดกุม ไม่ให้ประชาชนได้รับความเสียหาย บ้านเมืองได้รับความเสียหาย ส่วนที่เขาจะต่อสู้ต่อไปยืดเยื้อยาวนานขนาดไหนเป็นสิทธิ แต่ต้องต่อสู้อยู่ในกรอบกฎหมาย กฎเกณฑ์กติกาของประเทศไทยที่ถูกต้อง”
ขณะที่การประกาศที่จะไปต่อสู้ศาลระหว่างประเทศจะยิ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ไทยที่จำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนคิดว่าไม่เป็นปัญหาเลยครับ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ จะสามารถนำคดีของตัวเองไปต่อสู้ในศาลโลกได้ ตนก็ยินดี มากกว่าที่จะมายึดบ้าน ยึดเมือง เผาบ้าน เผาเมืองแล้วประชาชนเดือดร้อน ขอให้สู้ในแนวนั้น ไม่มีปัญหา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า มีพรรคการเมืองหนึ่งปล่อยซีดีแดงล้มเจ้าออกมาแล้วก็มี ขบวนการที่จะมาสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความวุ่นวายระหว่างการชุมนุม ตรงนี้มีการจับตามองหรือไม่ว่ากระบวนการแบบนี้มีคนทำจริงๆ หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนก็ยอมรับในขณะนี้ มีคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันแล้วก็ไม่ยอมรับในความเห็นที่แตกต่างมันก็เกิดปัญหาในบ้านเมือง เหมือนที่มีสถานีวิทยุ โทรทัศน์สีนั้นสีนี้ต่างคนต่างก็ทำ เอกสารแผ่นปลิว ซีดีวุ่นวาย ก็ได้แต่ขอร้องให้พี่น้องประชาชนดูและติดตามสถานการณ์ใช้วิจารณญาณของตัวเอง เลือกเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้อง
เมื่อถามต่อว่า แต่เป็นการกระทำของพรรคการเมืองหนึ่งไปดำเนินการ นายสุเทพกล่าวว่า อย่างนี้ตนไม่สามารถพูดได้ แต่ที่มีการติดตามสถานการณ์ก็เห็นว่าเขาทำอย่างไร บางอย่างก็ชัด บางอย่างก็ไม่ชัด เช่น สถานีสีเหลือง สถานีสีแดง อย่างนั้นชัดเจน แต่จะไปกล่าวว่าสถานีนั้นของพรรคนั้นพรรคนี้คงไม่ได้
เมื่อถามว่า การชี้แจงกับต่างประเทศกระทรวงการต่างประเทศได้ทำอย่างเต็มที่แล้วหรือไม่ เพราะล่าสุดประเทศเพื่อนบ้านได้ห้ามประชาชนไม่ให้เข้ามาในไทย นายสุเทพกล่าวว่า ตนได้คุยกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศแล้ว วันที่ 23 ก.พ.ก็ได้ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงให้ท่านใส่แฟ้มเพื่อให้ท่านดำเนินการแปลเป็นภาษาต่างๆ ชี้แจงกับสถานทูตและรัฐบาลประเทศต่างๆ ไป