ASTVผู้จัดการรายวัน-เชื่อไม่ได้! "เสื้อแดง"ประกาศไม่ชุมนุมวันยึดทรัพย์ "ไอ้ตู่" สุดเลว อ้างรัฐบาลเตรียมสร้างสถานการณ์ถล่มศิริราชโดยฝีมือเสื้อแดงปลอม แล้วหาเหตุจับกุมแกนนำทั้งหมด ขู่ถ้าเสื้อแดงไม่ปลอดภัย "ป๋าเปรม-พ่อมาร์ค-มาร์ค" ก็ไม่ปลอดภัย "เหวง"ฉะกันเอง แฉ"เสธ.แดง" ฝึกอาวุธที่อีสาน พร้อมแจกระเบิดเตรียมป่วน
วานนี้ (16 ก.พ.) เมื่อเวลา10.00 น. ที่ชั้น 6 อาคารอิมพีเรียล ถนนลาดพร้าว นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง ได้แถลงข่าวว่า คนเสื้อแดงจะไม่นัดชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.ซึ่งเป็นวันพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่วนประชาชนจะไปหรือไม่ เป็นเรื่องของเขา
ส่วนการเคลื่อนไหวของ เสธ.แดงหรือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ กองทัพบก ที่เสนอแนวทางรุนแรงโดยอ้างว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เห็นชอบด้วยนั้น นปช.ขอบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง และไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของ เสธ.แดง เพราะเรายึดแนวทางสันติ อหิงสา และเห็นว่า ความรุนแรงมีแต่จะทำให้พี่น้องเสื้อแดงตกหลุมพรางที่รัฐบาล และอำมาตย์ขุดล่อเอาไว้
**แฉเสธ.แดงตั้งรร.นักรบ-แจกระเบิด
น.พ.เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ตนลงพื้นที่ จ.สกลนคร มีพี่น้องเสื้อแดงมาบอกว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นคนของ เสธ.แดง มาชักชวนให้ไปฝึกอบรมที่โรงเรียนฝึกอาวุธ ซึ่งตนตกใจมาก บอกไปว่าโรงเรียนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับนปช. เพราะเราเคลื่อนไหวแบบสันติวิธี
นอกจากที่ จ.สกลนคร แล้วที่ จ.ศรีสะเกษ มุกดาหาร ก็มีคนของเสธ.แดง มาชักชวนให้ไปฝึกอาวุธ และยังบอกว่าฝึกจบแล้วจะติดอาวุธให้ จะแจกลูกระเบิด 4 ลูก และจำนวนปืนกี่กระบอก ก็ว่าไป ตนจึงบอกว่าถ้าฝึกอาวุธแล้วไปใช้ความรุนแรง ก็เข้าทางรัฐบาล และถ้าโดนคดีก็ไม่ทราบว่าชะตากรรมจะเป็นอย่างไร อยากให้ เสธ.แดง ออกมาชี้แจงด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจริงหรือไม่
**ไอ้ตู่"แฉเอกสารลับ
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง แถลงข่าวพร้อมนำเอกสารที่อ้างว่าเป็นการประชุมวางแผนใช้ความรุนแรงล้อมปราบคนเสื้อแดง เหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 และเมษาเลือด ความยาว 37 หน้า มาประกอบการแถลงข่าว โดยระบุว่าได้รับติดต่อจากนายทหารยศนายพลคนหนึ่ง ให้ไปพบและมอบเอกสารให้พร้อมคำอธิบาย โดยเอกสารดังกล่าวเป็นการประชุมเมื่อวันที่ 12 ก.พ. เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธานการประชุม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. พร้อมกับนายทหารระดับสูง และหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าประชุมด้วย และยังมีการประชุมต่อเนื่องในวันถัดมา
นายจตุพร กล่าวอ้างตามเอกสารว่า มีการแบ่งระดับการชุมนุมคู่ขนานกับการชุมนุมในพื้นที่กทม. โดยมีพื้นที่เพ่งเล็ง 38 จังหวัด ผู้ชุมนุมประมาณ 2,000 คน พื้นที่อื่นประมาณ 200 คน และรัฐบาลใช้สมมุติฐานหากจับแกนนำคนเสื้อแดงต่างจังหวัด 1 คน จะลดผู้ชุมนุมได้ 1,000 คน รัฐบาลจึงคิดว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมใหญ่ไม่เกิน 1 แสนคน ส่วนแกนนำส่วนกลางเอาไว้จัดการตอนท้าย เพราะรู้ว่าถ้าจับพวกตนก่อนจะเกิดจลาจล
**อ้างรัฐสร้างสถานการณ์ถล่มศิริราช
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปัจจุบัน- 26 ก.พ. ที่ให้มีการรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีทั้งองค์กรอิสระ แหล่งเศรษฐกิจ รวมทั้งโรงพยาบาลศิริราช การป้องกันและแก้ไขปัญหาการก่อวินาศกรรม โดยให้ประสานเครือข่ายภาคประชาชนของ กอ.รมน. , กทม. และหน่วยเกี่ยวข้องนั้น ไม่ต้องแปลกใจ การยิงเอ็ม 79 ใส่พาณิชย์พระนคร ก็เพื่อต้องการวัดระยะให้ตกมาที่สะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล เพราะพวกนี้คิดว่า คนเสื้อแดงจะไปชุมนุมในบริเวณดังกล่าว เรื่องวางซีโฟร์ข้างรั้วศาล ก็ไม่เห็นตกใจเพราะคนพวกนี้ทำกันเอง
"ที่น่าสนใจ ดูเอกสารหน้า 16 การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 17 ก.พ.เป็นต้นไป ให้เตรียมเพิ่มระดับมาตรการ รปภ. โดยกำหนดพื้นที่รปภ.ออกเป็น 3 ชั้น พื้นที่ชั้นใน หนึ่งในนั้นมีโรงพยาบาลศิริราชด้วย เมื่อรัฐบาลเพิ่มความปลอดภัย สัปดาห์นี้ถ้ามีเหตุการณ์อะไร ที่คิดว่าจะให้คนไปใส่เสื้อแดงแล้วเตรียมก่อการอะไรบางอย่าง เพื่อให้ถูกจับ หรือ จะยิง M 79 ใส่โรงพยาบาล เตรียมการก่อการเพื่อปักธงที่ ศิริราช จากนั้นซีดี และหนังสือแดงล้มเจ้า นับล้านที่จัดเตรียมไว้ แล้วแจกจ่ายในทุกจังหวัด ต่อจากนั้นจะจับกุมแกนนำเสื้อแดงต่างจังหวัด ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการไม่จงรักภักดี หากเกิดเหตุการณ์อะไร ที่ศิริราช พวกเราพี่น้องให้สันนิษฐานไว้ได้เลยว่า เป็นการกระทำของรัฐบาล"
"ส่วนแกนนำต่างจังหวัดให้เอาหนังสือ และซีดีล้มเจ้าที่สำนักนายกฯ ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ทำ โดยใช้ตึกพีเอ็มเป็นฐาน ทั้งที่เนื้อหาในหนังสือแดงล้มเจ้า มันคือการหลอกด่าสถาบันฯ โดยคนในรัฐบาลเพื่อใส่ร้ายคนเสื้อแดง เพราะฉะนั้นหน่วยอารักขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เป็นหน่วยนาวิกโยธิน กองทัพเรือ อย่าได้ไว้วางใจหน่วยอื่นในกองทัพอื่นเด็ดขาด เขาคิดว่าปักธง ศิริราช ได้จะกระแทกไปไกล" นายจตุพร กล่าวอ้าง
**เพ้อเจ้อทหารไม่มีอุปกรณ์คือมี M16
นายจตุพร กล่าวอ้างตามเอกสารหน้าต่อไปอีกว่า ยังมีการเพิ่มระดับมาตรการรปภ. เขตพระราชฐาน ทำเนียบรัฐบาล พื้นที่สำคัญ เช่น รัฐสภา ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ กระทรวงต่างประเทศ และบ้านพักประธานองคมนตรี ส่วนการปฏิบัติการข่าวสารห้วงก่อนการชุมนุม มีการระบุไว้เป็นข้อๆ เช่น 1. คนไทยต้องเห็นแก่ประเทศชาติเป็นสำคัญ 5. เจ้าหน้าที่ใช้ทุกมาตรการที่มีอยู่เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยแก่บ้านเมืองโดย ทหารจะไม่แก้ปัญหาด้วยการปฏิวัติ
6. ในหลวงทรงตรากตรำพระวรกายให้แก่คนไทยมาแสนนานแล้วไม่ควรไปรบกวนท่านอีกนั้น ไม่มีประชาชนคนใดไปรบกวนพระองค์ท่าน แต่มันคือการปลุกระดมว่า คนเสื้อแดงจะไปสร้างความระคายเคือง และคนพวกนี้ไปสร้างสถานการณ์ความรุนแรงไว้แล้ว โดยตัวเองก่อการ และปฏิบัติการเอง ในส่วนของแนวทางการปฏิบัติรักษาความสงบ แบ่งเป็น การใช้กฎหมายปกติ การประกาศ พ.ร.บ. ความมั่นคง การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีกอ.รมน.เป็นหน่วยรับผิดชอบ ประเมินสถานการณ์ และเสนอให้รัฐบาลพิจารณายกระดับการใช้กฎหมายความมั่นคง เพิ่มเติมตามความจำเป็นของสถานการณ์ และแบ่งเป็น 8 แผน ซึ่งมีการแบ่งหน่วยรับผิดชอบหลัก และหน่วยสนับสนุนไว้ชัดเจน แต่กลับ เพิ่มพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยให้ กอ.รมน. ภาค1 เป็นหน่วยรับผิดชอบนั้น อาจถือเป็นอีกจุดที่จะมีการก่อเหตุต่อจาก รพ.ศิริราช
นายจตุพรยังอ้างถึงเอกสารหน้า 27ว่ามีการระบุถึงการจัดกำลังทหาร ประจำตามจุดต่างๆ ในพื้นที่กทม. เช่นที่บ้านสี่เสา สนามเป้า ทุ่งสีกัน โดยจะมาจากค่ายปราจีนบุรี และกาญจนบุรี
"การล้อมปราบคนเสื้อแดงเหมือนกับเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 คือ นายทหารที่มาให้ข้อมูลบอกให้ฟังว่า ที่มีอุปกรณ์คือ มีโล่ห์และกระบอง เป็นกำลังอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนกองหนุนที่มาจากต่างจังหวัดที่บอกไม่มีอุปกรณ์นั้น ไม่ใช่ไม่มี ไม่ได้มามือเปล่า ภาษาทางทหารถือว่า คำนี้คือ การติดอาวุธ เอ็ม16 เพื่อนำมาล้อมปราบคนเสื้อแดง เป็นชุดเดียวกับสงกรานต์เลือด เช่น พล.ร.2 รอ. มาจากปราจีนบุรี พล.ร.9 จากกาญจนบุรี ซึ่งเวลานี้กำลังซ้อมยิงเวลากลางคืนกันแล้ว ขณะที่ทหารอีกส่วน ส่งมาติดตามแกนนำคนเสื้อแดง" นายจตุพรกล่าว
**ขู่"พ่อมาร์ค-ป๋าเปรม" อยู่ไม่เป็นสุขแน่
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ถ้ามีการชุมนุมใหญ่ คนเสื้อแดงจะไปปิดค่าย จ.กาญจนบุรี และปราจีนบุรี เพราะรัฐบาลรู้ว่าทหารในหน่วยกทม. มาฟังคนเสื้อแดงปราศรัย จึงก็ไม่กล้าสาดกระสุนใส่ประชาชน เลยต้องไปเอากำลังมาจากต่างจังหวัด
ในเอกสารการวางแผน มีการวางกำลัง 7 พื้นที่ และจุดตรวจเข้ม 12 จุด เช่นบ้านสี่เสา สโมสรกองทัพบก กระทรวงต่างประเทศ สนามม้านางเลิ้ง วัดโสมนัส ทำเนียบรัฐบาล เขาดิน แยกราชวิธี แยกอู่ทองใน แยกจปร. แยกนางเลิ้ง เป็นต้น ซึ่งเป็นการล้อมาจากเหตุการณ์สงกรานต์เลือด กำลังที่เอามา เพื่อปิดล้อมคนเสื้อแดง
ดังนั้นเมื่อเราเห็นแผนการแล้ว เราก็จะไม่ทำตามแผนของเขา ที่เราไม่ประกาศชุมนุมใหญ่ เพื่อจะดูว่าใครจะอดทนได้มากกว่ากัน ขณะเดียวกันแนวความคิดในการใช้กำลังที่มีการแย่งพื้นที่รักษาความปลอดภัย ทั้ง รพ.ศิริราช เขตพระราชฐาน พื้นที่สำคัญทางราชการ และยังมีการระบุ ถึงกำลังแก้ไขสถานการณ์นั้นคือ กำลังทหารที่ถูกฝึกมา พวกนี้จะใส่เสื้อแดงแฝงตัว ร้องเพลงคนเสื้อแดงได้ จะทำการนอกสั่ง เช่น เราสั่งให้ไปปิดถนน พวกนี้จะไปปิดถนนอีกแห่ง พวกนี้สร้างสถานการณ์ได้ดี เหมือนเหตุการณ์กระทรวงมหาดไทย พวกนี้ใช้อาวุธได้ พร้อมก่อและสร้างสถานการณ์ได้ทุกรูปแบบ
“แผนการชั่วร้ายโดยคนในรัฐบาล และฝ่ายอำมาตย์ จะได้รับการตอบแทนอย่างสาสมจากประชาชน เราต้องมองอย่างอดทน เขาต้องการให้เราเข้าทางเหมือนสงกรานต์เลือด มีการยิงที่นางเลิ้ง เผากระทรวงศึกษาธิการ เผารถเมลล์ เอารถแก๊สจากเครือข่ายบริษัทคิงพาวเวอร์ไปจอดแยกดินแดง โรงพยาบาลสงฆ์ ให้เข้าใจผิด ครั้งนี้ถ้ามีการใช้ King power เป็นศูนย์ปฏิบัติการอีก จะเจอ People power คุณไม่มีสิทธิตั้งชื่อ King power เอา King มาใช้ได้ไง พวกราชการ ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ที่สมคบกัน วันนี้คุณยังมีอำนาจไม่เป็นอะไร วันไหนเรามีอำนาจ ผู้ว่าฯ 38จังหวัดที่สมคบทำร้ายประชาชน เราจะมีผู้ว่าฯใหม่อีก 38 จังหวัด คนเดิมจะถูกขังคุก เสื้อแดงอย่าไปกลัวถ้ามันจะจับ บุกไปเลยศาลากลางไปจวน ถามมันจะจับไหม ไปเผชิญหน้ากับมัน จะวิ่งหนี นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ อยากบอกเอกสารไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีอีกที่จะเปิดออกมา ถ้าคนเสื้อแดงไม่ปลอดภัย เปรม มาร์ค กับ พ่อ ก็ไม่ต้องปลอดภัย เพราะพ่อแม่ผมกับพี่น้องเสื้อแดง ก็ไม่ปลอดภัย ที่พูดไม่ได้ขู่กัน เมื่อลูกคุณให้เราอยู่ท่ามกลางความไม่ปลอดภัย เราควรอยู่ท่ามกลางความไม่ปลอดภัยด้วยความเสมอภาคเท่ากันหมด" นายจตุพรกล่าว
**"มาร์ค"ไม่แปลกใจ"ไอ้ตู่" ขู่ถึงพ่อ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมครม.ว่าตนได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) เรียบร้อยแล้ว เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันแก้ไขสถานการณ์ต่างๆได้
ส่วนที่นายจตุพร ออกมาพูดลักษณะว่า ตัวนายกฯ และบิดา อาจจะไม่ปลอดภัยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่แปลกใจ เพราะขณะนี้การพูดถึงความรุนแรงในหมู่แกนนำเสื้อแดง ทำกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
"ผมขอยืนยันว่า มันน่าจะสะท้อนให้เห็นว่ามันมีความปิดปกติอยู่ และผมคิดว่าในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ไม่ควรจะมีการพูดจาในลักษณะนี้ แต่ของอย่างนี้คงไปห้ามกันไม่ได้ ยกเว้นแต่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ข้อเท็จจริงคือในส่วนของผม ในส่วนของรัฐบาลไม่เคยมีความคิดเรื่องการใช้ความรุนแรง และผมอยากให้ประชาชนเฝ้าและติดตาม และมองเห็นว่าภาครัฐไม่มีการทำอะไรทั้งสิ้นที่จะนำไปสู่ความรุนแรงเลย แต่ต้องถามคำถามว่า เหตุใดบุคคลที่อ้างว่าเคลื่อนไหวในเรื่องของประชาธิปไตย จึงมีการพูดจาในลักษณะที่จะทำให้เกิดความรุนแรง หรือยั่วยุ ปลุกระดมให้เกิดความรุนแรงอยู่ตลอดเวลา"
**เป็นกุศลของชาติที่เสื้อแดงไม่ชุมนุม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศจะไม่ชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ. เพราะเกรงว่าจะไปเข้าล็อกของรัฐบาลว่า ดีเลย ต้องขอบคุณ เพราะสถานการณ์จะได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ถือว่าเป็นกุศล ก็ขอให้ทำอย่างนี้ตลอดไป
**ยันไม่มีแผนลับปราบเสื้อแดง
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงแผนลับที่นายจตุพร กล่าวอ้างว่า เป็นแผนใช้ล้อมปราบคนเสื้อแดงว่า รัฐบาลไม่มีแผนลับ แผนสกัดใดๆ ทั้งสิ้น
"เป็นการพูดจาโกหก พกลมไปเรื่อย พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่ไม่เป็นไร รัฐบาลจะพยายามชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยมีการประชุมเรื่องนี้ ไม่มีเอกสารลับ ไม่มีการประชุมลับ ไม่เคยมีแผนลับ" นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาติดตามสถานการณ์ ว่าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ จึงให้ส่วนราชการอื่นๆ เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับทราบไปพร้อมๆกัน เพื่อเกิดความเข้าใจถึงบทบาท และหน้าที่ของตัวเองในสถานการณ์ต่างๆว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อรับมือและเดินไปพร้อมๆ กันในการแก้ไขปัญหา และจะได้ติดตามว่า ใครทำอะไรได้ขนาดไหน
ส่วนสถานการณ์ในช่วงวันที่ 26-27 ก.พ.นั้น ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้วิตกกังวล เป็นเรื่องของรัฐบาลในการจัดการเตรียมการ และแก้ไขปัญหาทั้งหมด ให้บ้านเมืองมีความสุขเรียบร้อย หน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาเป็นเรื่องของศาล เราต้องเคารพการตัดสินของศาล ไม่ว่าจะถูกใจหรือไม่ถูกใจ เพราะระบบศาลไทยเป็นระบบที่มีมาตรฐานสูงที่สุดในโลก เป็นที่ยอมรับนานาประเทศ เป็นที่ยอมรับของคนไทยมานานนับร้อยปี
**จวก"ไอ้ตู่"แต่งเติมเอกสาร
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีเอกสารลับ 37 หน้า ที่นายจตุพรอ้างว่าเป็นแผนจัดการกับคนเสื้อแดง ว่า เอกสารดังกล่าวมี 37 หน้า แต่ไม่ได้มีเนื้อหาตามที่นายจตุพร กล่าวอ้าง
ส่วนที่อ้างว่าเอกสารดังกล่าวมาจากการประชุม สมช. เมื่อวันที่ 12 ก.พ.นั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะจากการสอบถาม นายอภิสิทธิ์ ได้ระบุว่าวันดังกล่าวไม่มีการประชุมสมช. ส่วนที่เอกสารได้ระบุว่า ให้จับแกนนำ 1 คน เพื่อลดจำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมพันคน ซึ่งจากการตรวจสอบไม่มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว เพราะเรื่องการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นเรื่องที่เป็นไปตามแผนปฏิบัติการของหน่วยงานความมั่นคง นอกจากนี้ การที่ระบุว่า จะมีการวางระเบิดที่ รพ.ศิริราช และโยนความผิดให้คนเสื้อแดงนั้น ตนยืนยันว่าไม่มีข้อความตอนใดได้ระบุในเอกสารดังกล่าว
"เมื่อดูรายละเอียดเอกสารทั้ง 37 หน้า เป็นแผนปฏิบัติการพื้นๆ ปกติ ไม่มีอะไรรุนแรงหรือผิดกฎหมาย จึงอยากเรียกร้องให้ นายจตุพร หยุดบิดเบือนใส่ร้ายรัฐบาล หรือสร้างสถานการณ์ และโยนความผิดให้รัฐบาล นอกจากนี้ นายจตุพรไม่ควรก้าวล่วงครอบครัวนายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าคนในครอบครัว คือผู้มีพระคุณ เว้นแต่นายจตุพร ไม่เห็นความสำคัญเหมือนที่ปฏิบัติกับแม่ของตัวเองโดยทอดทิ้ง ไม่ดูแล" นายเทพไทกล่าว และว่าเอกสารดังกล่าว ไม่ใช่เอกสารลับแต่อย่างใด
**จี้ใช้กฎหมายจัดการ"ไอ้ตู่"
นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายจตุพร ออกมาข่มขู่ประทุษร้ายต่อพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นายกฯ และพ่อของนายกฯ ว่า บ้านเมืองนี้ไม่มีขื่อแปแล้วหรือ นึกว่าจะขู่ทำร้ายใครก็ทำได้ ทั้งที่บุคคลที่ถูกเอ่ยอ้างชื่อมานั้นเป็นคนสำคัญของชาติ อยากให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องช่วยจัดการกับนายจตุพรให้เด็ดขาดตามกฏหมายเสียที เพราะถือว่าการพูดเช่นนี้ ส่อเจตนาหรือเป็นการส่งสัญญาณให้คนเสื้อแดง ลงมือกระทำการใดๆ หรือไม่ อย่างไร จึงออกมาพูดผ่านสื่อเช่นนี้ เพราะก่อนหน้ามีการระบุในการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่าให้รอสัญญาณจากแกนนำว่าจะให้ลงมือปฏิบัติการอย่างไร แล้วจะมีการส่งซิกบอกกันภายในกลุ่ม ถามว่าการพูดเช่นนี้ เป็นการส่งซิกหรือไม่ เพราะรัฐบาลนี้ยืนยันแล้วว่า จะไม่ใช้ความรุนแรงแต่จะใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือเพื่อรักษาชาติ บ้านเมืองนี้ไว้
**แฉเอกสารลับที่แท้แผน"แม้ว"
ส่วนการเอาเอกสาร 37 หน้า ที่อ้างว่าเป็นเอกสารลับมาแฉนั้น ตนเห็นแล้วก็ขำเพราะถ้าดูอย่างละเอียด จะพบว่าเป็นการเอาข้อมูล 2 ส่วน มายำผสมกันแบบจับแพะชนแกะแล้วปั้นข้อมูลใส่ร้ายรัฐบาล เพราะข้อมูลส่วนแรกเป็นแผนเมื่อปี 2548 สมัยรัฐบาลทักษิณ ที่ขณะนั้นมีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองปิดล้อมทำเนียบฯ แต่กลับเอามาสมอ้างว่าเป็นแผนของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เป็นการโกหกที่ไม่แนบเนียน เพราะโกหกแล้วยังทิ้งหลักฐานให้ถูกจับได้
ส่วนหลังเป็นแผนการวางกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เพื่ออารักขาสถานที่ และบุคคลสำคัญ เช่น รพ.ศิริราช ที่คนไทยทุกคนต่างรู้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับอยู่ นอกจากนี้ก็มีทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงองค์กรอิสระต่างๆ ที่คนเสื้อแดงได้ขู่ไว้ใน กทม. และปริมณฑล รวมถึงการจัดสรรกำลังของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อรักษาความสงบของชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ 38 จังหวัด จุดเสี่ยงที่ฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินสถานการณ์ไว้
**"มาร์ค"ตั้ง"เทพเทือก"ประธานคตม.
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง(คตม.)ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้น โดยมีองค์ประกอบทั้งสิ้น 24 ราย อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เป็นประธาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นรองประธานกรรมการ
ส่วนกรรมการอีก 22 คน ประกอบด้วย รมว.ศึกษาธิการ , รมต.ประจำสำนักนายกฯ (ที่กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์) , ปลัดกระทรวงกลาโหม , ปลัดกระทรวงยุติธรรม , ปลัดกระทรวงมหาดไทย , ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ , ปลัดกระทรวงสาธารณสุข , อัยการสูงสุด , เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา , ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ , ผบ.สส. , ผบ.ทบ. , ผบ.ทร. ,ผบ.ทอ. , ผบ.ตร., ผู้ช่วยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร , อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ , อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย , ปลัดกทม. , ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณา , เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ เลขาธิการกอ.รมน.
**คุ้มกันเข้มครม.-องคมนตรี-ผู้พิพากษา
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในขณะนี้มีเป้าหมายชัดเจน คือต้องการกดดันศาลในคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งรัฐบาลเป็นห่วงว่า ผลจากคำพิพากษาในวันที่ 26 ก.พ. อาจจะถูกใช้เป็นชนวนเพื่อนำไปสู่การชุมนุมที่เกิดการบานปลาย หากรัฐบาลไม่ชี้แจงถึงวิธีการ กระบวนการยุติธรรมของประเทศ อาจจะเกิดปัญหาได้ รัฐบาลจึงต้องชี้แจงให้เห็นขบวนการเหล่านี้ เพื่อให้สังคมเข้าใจที่มาที่ไป ซึ่งก่อนถึงวันที่ 26 ก.พ.รัฐบาล ต้องทำอย่างเต็มที่
ส่วนการวางแผนคุ้มกัน รพ.ศิริราชนั้น มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งตนเข้าใจว่า เรื่องนี้ทางแกนนำนปช. พยายามจะทำให้สถานการณ์สับสน
"เรื่องรักษาความปลอดภัย ต้องทำอย่างเต็มี่ที่ แต่จะกลัวคนเหล่านี้ไม่ได้ การจัดการทางกฎมหายต้องทำต่อไปอย่างเด็ดขาด ฝ่ายที่รักษาความปลอดภัย ต้องทำงานอย่างเต็มที่ และต้องรู้ว่า บางคนที่พยายามเข้ามาประชิดตัวนายกฯ มีเจตนาอะไร " นายสาทิตย์ กล่าว และว่านอกจากนี้ยังต้องดูแลความปลอดภัยขององคมนตรี และองค์คณะผู้พิพากษาด้วย
**"จิ๋ว"เชื่อวันยึดทรัพย์ไม่รุนแรง
ด้าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวหลังการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยว่าได้พูดถึงสถานการณ์ทั่วไปให้ที่ประชุมฟังว่า ขณะนี้ไม่มีทางอื่นนอกจากการใช้สันติวิธี เพราะในอดีตเราก็เคยใช้แนวทางนี้ได้ผลมาแล้ว ในการยุติความขัดแย้งของบ้านเมืองรวมทั้งกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ขณะนี้ส่อว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นก็ต้องคิดให้ดีว่า มันเป็นเพราะอะไร มีอะไรที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง เราต้องระมัดระวังให้ดี และยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี
"ใครก็แล้วแต่ที่อาจจะวางแผน หรือคิดสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น ล้วนเป็นอันตรายทั้งนั้น ดังนั้นเราต้องช่วยกันดูอย่างเต็มที่ อย่าให้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ส่วนกรณีที่มีเหตุลอบวางระเบิดเกิดขึ้นแล้วจะมาบอกว่า จะไปเอางบลับ 50 ล้านบาท เพื่อมาป้องกันนั้นคงไม่ใช่ แต่ต้องมีการดำเนินการสืบสวน จนสามารถจับกุมตัวมาให้ได้ จึงจะถูกต้อง"
สำหรับการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 26 ก.พ.นั้น เชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เรามีประสบการณ์กันมามากแล้ว การใช้ความรุนแรงนั้นมีแต่จะสร้างความเจ็บปวดใจ ซึ่งทุกคนต่างก็รู้ และเข้าใจกันดีอยู่แล้ว แต่ประเด็นสำคัญคือ ความสมานฉันท์เกิดขึ้นได้ เมื่ออีกฝ่ายเข้าใจถึงจิตใจของอีกฝ่ายหนึ่ง ให้เกียรติเขา แล้วก็มาพูดคุยกัน นั่นคือหัวใจของการแก้ปัญหา ไม่ใช่โยนให้กันอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มันไม่ถูกต้อง ต้องแก้ไข