xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” รับผิดคาดวางบึ้มศาล ยังไม่โยงเกี่ยวยึดทรัพย์ สั่ง ผบช.น.ปรับแผน เมิน ก.ม.ม.ให้พิจารณาตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง
“สุเทพ” รับ เกิดความคาดหมายวางบึ้มศาล สั่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลปรับแผนดูสถานที่ราชการ-บุคคลสำคัญ ไม่พูดฝีมือใคร ยังไม่โยงคดียึดทรัพย์ “นช.แม้ว” มั่นใจเจ้าหน้าที่ดูแลบ้านเมืองได้ ยังไม่ใช่กฏหมายพิเศษ พร้อมระมัดระวังรถปาดขบวนนายกฯ ไม่พิจารณาตัวเองตามคำร้องการเมืองใหม่ อ้างแค่คำแนะนำ “เฮียเถิก” กลับจากทัวร์มะกันถึงไทยบึ่งเข้า กอ.รมน. ไม่ชัวร์ถกความมั่นคงบ่ายนี้

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมฝ่ายความมั่นคงที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อหารือประเมินสถานการณ์เหตุที่เกิดขึ้นในขณะนี้

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2 วันที่ผ่านมาดูแล้วมันมากเกินกว่าเราคาดการณ์เอาไว้พอสมควร เช่น กรณีใช้ M 79 ยิง มา หรือกรณีที่ไปวางระเบิดที่ศาลฎีกา ดังนั้นฝ่ายความมั่นคง ก็คงจะต้องมีการปรับวิธีการทำงานให้มากเป็นพิเศษ เช่น ให้มีหน่วยลาดตระเวนที่เดินเท้า หรือรถจักรยานยนต์ ซึ่งต้องทำกันอย่างเต็มที่” รองนายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 2 เหตุการณ์ คาดการณ์ว่าคนที่ทำเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับที่ทำก่อนหน้านี้ที่มีการยิง M 79 เข้าไปที่กองทัพบกหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เอาว่าเป็นข้อสงสัยก็แล้วกัน อย่าเพิ่งไปสรุปว่าเป็นอย่างไร ตนพยายามระมัดระวังไม่ไปกล่าวหาใครง่าย ๆ รอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย ตนจะไม่พูดในเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกรณีมีการแทรกขบวน หรือการยิง M 79 ซึ่งเหตุเกิดต่อหน้าต่อตา ทำไมจับไม่ได้ รองนายกฯ กล่าวว่า อย่างกรณี M 79 เจ้าหน้าที่พยายามดำเนินการอยู่ ใครที่เป็นผู้สงสัยก็จะทำทุกอย่างที่กฎหมายให้ไว้ ส่วนการรักษาความปลอดภัยนายกฯนั้นเจ้าหน้าที่ที่ติดตามก็จะมีหน้าที่ดูแล นายกฯให้ถึงที่หมาย ส่วนการจับกุมก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งก็พยายามอยู่ ซึ่งเป็นคนละภารกิจกัน

เมื่อถามว่า การยิง M 79 ก็น่าจะมีเสียงดัง ทำไมไม่มีใครได้ยินเสียงหรือว่าใช้ปืนเก็บเสียง นายสุเทพ กล่าวว่า “ถามอย่างนี้ก็ตอบยาก เพราะว่ายังไม่เคยมีประสบการณ์ เดี๋ยวขอไปหาความรู้ก่อน แล้วจะมาบอก แต่M 79 ก็เคยมีนำมาใช้กันก่อนแล้วในสมัยรัฐบาลก่อน ๆ และวันนี้ก็ยังมีการนำมาใช้กันอยู่ก็ต้องติดตาม ผมพยายามอยู่ และจะนำข้อมูลที่ก้าวหน้ามาแจ้งให้ทราบ”

เมื่อถามว่า ดูแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวโยงไปถึงการพิจารณาคดียึดทรัพย์พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 26 ก.พ.นี้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ก็คิดไปในแนวทางนี้ แต่ตนก็ยังไม่พูดอะไรไปก่อน เมื่อถามว่ารัฐบาลเป็นห่วงมือที่ 3 หรือไม่ ที่อาจจะไม่ใช่กลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาล แต่อาจเป็นกลุ่มที่ต้องการสร้างสถานการณ์ในช่วงเวลานี้ รองนายกฯ กล่าวว่า เราก็มองรอบ ๆ ด้าน ซึ่งเราก็มีความสงสัย แต่ตราบใดที่ยังไม่มีการพิสูจน์ชัดก็จะไม่พูดอะไร เมื่อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้คิดว่าจำเป็นต้องประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงหรือยัง รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่จำเป็น ตอนนี้ใช้กฎหมายปกติ และคิดว่าบ้านเมืองเราน่าจะดูแลกันได้ แต่ก็ต้องฝากฝ่ายที่จ้องจะก่อเหตุวุ่นวาย ที่จะก่อกวนบ้านเมืองว่า การทำอย่างนี้ไม่ได้เกิดผลดีอะไรขึ้นมาเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามพยายามที่จะเล่นสงครามประสาทกับรัฐบาล หรือเปล่า นายสุเทพ กล่าวว่า ตนอยากจะเชิญชวนให้คิดถึงบ้านเมืองโดยส่วนรวมดีกว่า การจะทำสงครามประสาทกับรัฐบาลก็ควรจะทำด้วยวิธีอื่น อย่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย เมื่อถามว่า รัฐบาลจะตั้งรับอย่างไรให้มากกว่านี้ รองนายกฯกล่าว่า ตนก็ทำตามปกติ เราก็ใช้กฎหมาย เราไม่ได้คิดว่าใครเป็นศัตรู เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการทำทั้งใต้ดินและบนดิน รัฐบาลจะมีมาตรการอย่างไรที่ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลก็ทำตามธรรมดา ไม่มีอะไรที่แปลกหรือพิสดารอะไรใช้กฎหมาย เราเป็นรัฐบาลที่บริหารจัดการด้วยการใช้หลักของกฎหมาย ก็ต้องยึดตามนั้น

เมื่อถามว่า หมายความว่าหลังจากนี้ประชาชนต้องเริ่มทำความเข้าใจใช่หรือไม่ว่าช่วงนี้อาจจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ขึ้นอีก นายสุเทพ กล่าวว่า เราก็เห็นอยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นเราก็ต้องเฝ้าระวัง เพิ่มมาตรการในการตรวจเฝ้าระวังมากขึ้น และฝากบอกประชาชนหากเห็นอะไรที่ผิดสังเกต มีเบาะแสอะไรก็แจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยจะได้แก้ไขเหตุการณ์ เพราะบ้านเมืองเป็นของเราทุกคน อย่าปล่อยให้คนบางคน บางกลุ่มคิดหวังที่จะเอาประโยชน์ส่วนตัวแล้วทำให้บ้านเมืองเสียหาย

ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งจุดตรวจ 200 จุดในกทม.ได้เริ่มหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า ได้มีการปฏิบัติมา 2-3 วันแล้ว เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้กำลังตำรวจเพียงพอหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อวานได้สอบถามผบช.น.แล้วว่ากำลังตำรวจที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่ายังเพียงพออยู่ แต่ตนก็เตรียมไว้แล้วว่าถ้าภาระของตำรวจมาก กำลังไม่พอ ตนก็อาจจะขออาสาสมัครพลเรือนและขอกำลังสนับสนุนจากฝ่ายทหารด้วยมาเป็นผู้ ช่วยพนักงาน ซึ่งในต่างจังหวัดก็เช่นเดียวกันผู้ว่าฯทุกจังหวัดจะเป็นผู้ประเมิน สถานการณ์และการประชุมวันนี้จะหารือกันอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่พรรคการเมืองใหม่ออกมาเรียกร้องให้ท่านรับผิดชอบที่ไม่ สามารถควบคุมดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ นายสุเทพ กล่าวว่า การที่เขาออกมาพูดจาอย่างนี้สังคมก็เข้าใจอยู่แล้ว

“บางทีความเป็นพรรคการเมืองเขาก็มุ่งที่จะหวังผลทางการเมือง แต่ผมอยากจะบอกกลับไปว่าผมไม่ได้ว่าท่านเป็นคู่ต่อสู้อะไร ผมไม่มีเจตนาร้ายต่อใครทั้งนั้น ส่วนสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นผมจะถือว่าเป็นคำแนะนำและจะได้พิจารณาทบทวนตัว เองที่จะทำงานให้แข็งแรงมากขึ้น”นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่า แกนนำพรรคการเมืองใหม่ถึงขนาดพูดว่า ก่อนจะถึงวันที่ 26 ก.พ. ประชาชนก็จะต้องดูแลความปลอดภัยตามยถากรรมของตัวเอง รองนายกฯ กล่าวว่า ความจริงบ้านเมืองก็เป็นของเราทุกคน เพราะฉะนั้นทุกคนก็มีส่วนร่วมในการดูแลบ้านเมืองอยู่แล้ว ถึงได้บอกว่าต้องช่วยกันมีเบาะแสอะไรก็แจ้งรัฐบาล ส่วนคนที่ชุมนุมก็ขอให้ชุมนุมในกรอบกฎหมาย

เมื่อถามว่า ในส่วนของการดูแลนายกฯจะต้องมีมาตรการอะไรเป็นพิเศษเพิ่มขึ้นหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ชัดเจนว่าเราก็ต้องระมัดระวังมากขึ้นในช่วงที่นายกฯเดินทางไปไหน มาไหน เจ้าหน้าที่ที่อยู่รอบตัวนายกฯ ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่เวลานายกฯไปไหนก็จะมีการชุมนุมมาคอยประท้วง ซึ่งก็อยู่ในแผนของเจ้าหน้าที่อยู่แล้วที่กลุ่มเหล่านี้เขาพยายามทำให้เกิดภาพว่ารัฐบาลนี้ทำงานไม่ได้ เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดเจนว่าไม่ว่ารัฐบาลจะไปไหนก็จะมีเสื้อแดงมา ประท้วงตลอด ซึ่งเหมือนกับรัฐบาลในอดีตที่จะมีกลุ่มเสื้อเหลืองมาประท้วงเช่นกัน มันสะท้อนอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็สะท้อนให้เห็นว่าคนบางกลุ่ม บางพวกไม่ต่อสู้ตามกฎเกณฑ์ ตามกติกา ตนก็พยายามเรียกร้องให้มาต่อสู้กันตามกฎเกณฑ์กติกา ถ้าทำนอกกฏเกณฑ์กติกาบ้านเมืองก็วุ่นวาย
ด้าน พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงการตั้งจุดตรวจ 200 ด่าน ที่เริ่มวันนี้เป็นวันแรกว่า เจ้าหน้าที่ได้ทยอยตั้งมาตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 2 จุด ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร และศาลฎีกา วานนี้ จึงได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น โดยเน้น 8 จุดสำคัญ และพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล สำหรับจุดตรวจทั้ง 200 ด่านนั้น เป็นการสนธิกำลังกันระหว่างทหารและตำรวจ

ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และรอง ผอ.รมน.ได้เดินทางเข้าไปยัง กอ.รมน.แล้ว หลังกลับจากการปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐอเมริกาเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นการเข้าไปประชุมหน่วยงานความมั่นคงเพื่อรับมือสถานการณ์รุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลฎีกา สนามหลวง ภายหลังถูกคนร้ายลอบวางระเบิดซีโฟร์วานนี้ (14 ก.พ.) โดยเช้าวันนี้ได้มีการเพิ่มกำลังในการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งตำรวจปราบจลาจล และตำรวจสายตรวจกว่า 30 นาย ในการตรวจตราความสงบเรียบร้อยบริเวณฝั่งประตู 7 ติดกับสำนักงานศาลยุติธรรม และบริเวณโดยรอบศาลฎีกา ทั้งนี้ ในส่วนของตำรวจสายตรวจจะทำหน้าที่ในการขับรถตรวจตราบริเวณโดยรอบตลอดเวลา เพื่อป้องกันคนร้ายลอบก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประตูทางเข้าออกอื่นๆ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ รปภ.คอยดูแลตรวจตรารถที่เข้าออกอย่างเคร่งครัด ซึ่งสถานการณ์ในเช้าวันนี้ยังคงเป็นไปอย่างปกติ ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น

สำหรับบรรยากาศที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคาร B ทางฝั่งทิศตะวันออก ได้นำแผงเหล็กมากั้นตลอดแนวทางขึ้นแล้ว หลังจากที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ประกาศจะมาชุมนุมที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันนี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น.จนถึงเวลา 18.00 น. เพื่อทวงถามความคืบหน้าการทำสำนวนเงินบริจาค 258 ล้านบาท และการใช้เงินกองทุนพัฒนาการเมือง 29 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งการดำเนินการ 2 มาตรฐานนั้น ขณะที่ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน ยังคงเดินทางเข้ามาใช้บริการและทำงานภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติตามปกติ โดยยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น