พรรคร่วมรัฐได้ฤกษ์ นำชื่อ 102 ส.ส.ยื่นญัตติประธานรัฐสภาขอแก้รัฐธรรมนูญ 2 มาตรา “บุญจง” อารัมภบทอ้างเฉยรัฐธรรมนูญ 50 ทำสังคมแตกแยก องค์กรอิสระทำงานตามใจ ฉุดพัฒนาประชาธิปไตยถอยหลัง รัฐบริหารไม่มีประสิทธิภาพ ต้องแก้เพื่อเยียวยา “ชัย” เด้งรับลูก ลั่นถ้าพิสูจน์ชื่อครบ 1 ใน 5 ดันเข้าวาระประชุมได้ทันที เล็งหารือประธานวุฒิสภา นัดถก 2 สภาในเดือนนี้ กั๊กหยิบร่าง “หมอเหวง” สอดไส้ โยน ส.ส.ตัดสินกันเอา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ แถลงข่าวยื่นญัตติแก่ประธานสภา
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล นำโดยนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยชาติพัฒนา นางพรทิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นายชัยยศ จิระเมธากร เลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน นายชยุต ภูมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคกิจสังคม ได้ยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 ใน 2 ประเด็นคือมาตรา 94 เกี่ยวกับที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มาจากการเลือกตั้งเขตละคน และมาตรา 190 เกี่ยวกับหนังสือสัญญาที่ต้องขอความเห็นชอบของรัฐสภา แก่นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา
โดย นายบุญจงกล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2550 ได้ประกาศใช้มาแล้วเป็นเวลา 2 ปีเศษ ตลอดระยะเวลาที่ใช้รัฐธรรมนูญนี้ ได้ก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน สร้างความแตกแยกในสังคม องค์กรอิสระทำงานตามอำเภอใจ มีข้อครหาว่าสองมาตรฐาน ตลอดระยะเวลา 2 ปีเศษ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกกล่าวหาว่ามีเจตนาพิเศษ มิได้มุ่งหวังต่อยอดพัฒนาประชาธิปไตยให้เดินไปข้างหน้า ตรงกันข้ามกลับฉุดให้การพัฒนาประชาธิปไตยต้องย่ำอยู่กับที่ถอยหลังไปสู่ วังวนการเมืองแห่งอดีต รัฐบาลไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ บ่อยครั้งงานต้องล่าช้าเสียศักดิ์ศรีและเสียผลประโยชน์ในเวทีระหว่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ
นายบุญจงกล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังมีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับนี้อีกจำนวนมากที่สร้างความไม่ เสมอภาคและไม่เป็นธรรมเอื้อประโยชน์ให้แก่คนบางกลุ่มบางพวก ซึ่งมีทั้งผู้มีส่วนร่วมในการยกร่างและเห็นชอบโดยเฉพาะไม่มีการแยกคนดีคนไม่ดี ไม่มีการแยกน้ำแยกปลาออกจากกัน คนทำผิดไม่แยกออกจากคนไม่ได้ทำผิด ส่งผลให้สังคมต้องประสบความวุ่นวาย แตกแยก ยากจะเยียวยาได้จนถึงทุกวันนี้
นายบุญจงกล่าวว่า ส.ส.ดังที่มีรายนามแนบท้าย มีความห่วงใยในสถานการณ์แตกแยก สองมาตรฐานและความไม่เป็นธรรมและเสมอภาคที่กำลังเป็นปัญหาของสังคมอยู่ขณะนี้ จึงเห็นพ้องต้องการว่าข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประธานรัฐสภาแต่งตั้งสามารถเยียวยาและแก้ไขวิกฤตสังคมและรัฐธรรมนูญได้ ไม่มากก็น้อยสมควรได้รับการต่อยอดให้เป็นรูปธรรม ประกอบกับรัฐธรรมนูญ 2550 กำหนดให้เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ต้องเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเมื่อเห็นว่า ไม่ถูกต้องและเหมาะสมแก่สภาวการณ์ปัจจุบัน ถ้าไม่ทำอาจถูกกล่าวหาว่าละเลยไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญได้
นายบุญจงกล่าวว่า ดังนั้น ส.ส.ดังมีรายนามแนบท้ายจึงขอต่อยอดข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯให้เป็นรูปธรรม โดยอาศัยสิทธิตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 โดยในเบื้องต้นแก้ไขรวม 2 ประเด็น ใน 6 ประเด็น คือมาตรา 94 เกี่ยวกับที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มาจากการเลือกตั้งเขตละคนและมาตรา 190 เกี่ยวกับหนังสือสัญญาที่ต้องขอความเห็นชอบของรัฐสภา ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งนี้ หากประสบผลสำเร็จนับว่าเป็นประวัติศาสตร์ผลงานชิ้นโบแดงของลูกผู้ชายชื่อชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายชุมพลและ พล.ต.สนั่นได้มอบญัตติดังกล่าวพร้อมลายเซ็น ส.ส. 102 คนที่สนับสนุนญัตติดังกล่าวแก่ประธานรัฐสภา ด้านนายชัยกล่าวว่า การยื่นญัตติดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำในนาม ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ไม่ใช่ในนาม ครม. การดำเนินการต่อไปจะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่สภา ไม่ใช่นายชัย ทั้งนี้ ตนจะส่งเจ้าหน้าที่กองการประชุมตรวจสอบรายละเอียดและลายเซ็นสมาชิกว่าครบตาม เกณฑ์ 1 ใน 5 หรือไม่ และจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทันที ถ้าทำเสร็จวันนี้ก็สามารถบรรจุในระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้เลย
เมื่อถามว่าจะบรรจุเป็นเรื่องด่วนหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า ในญัตติที่เสนอมาไม่ได้บันทึกเป็นเรื่องด่วน เมื่อถามย้ำว่าจะต้องบรรจุต่อท้ายวาระอื่นหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า อยู่ที่ดุลพินิจของสมาชิกและข้อบังคับการประชุมซึ่งตนจะปฏิบัติโดยเคร่งครัด ส่วนจะนัดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาได้เมื่อใด นายชัยกล่าวว่า เมื่อตรวจสอบญัตติเสร็จเรียบร้อยตามกระบวน เพราะมีขั้นตอนอยู่ เมื่อถามว่าประธานวุฒิสภาระบุว่าอาจพิจารณาไม่ทันเดือนกุมภาพันธ์ เพราะมีวาระค้างอยู่มากและนัดประชุมเพิ่มวันอังคาร เพื่อเริ่มกระบวนการถอดถอนนายสมชาย วงศ์สัวสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายชัยกล่าวว่า ก็แล้วแต่ เป็นเรื่องของประธานวุฒิสภา แต่ถ้าประธานรัฐสภาซึ่งก็คือตนต้องบรรจุเข้าสู่วาระ เพราะหลักเกณฑ์ถูกต้อง ตนก็เก็บญัตติเอาไว้ไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่า เมื่อตรวจสอบญัตติเสร็จภายใน 7 วัน จะนัดประชุมได้ทันทีหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า อยู่ที่เจ้าของญัตติต้องการด่วนหรือไม่ ตนไม่ทราบ
ด้าน พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เมื่อยื่นแล้วก็ต้องการให้เร็วสุด ขณะที่นายชัยกล่าวต่อว่า ตนจะปฏิบัติตามระเบียบไม่ทำให้ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญก็แล้วกัน ก็ดูเอาแล้วกันว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องด่วนหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า แล้วสื่อเห็นว่าเป็นเรื่องด่วนหรือไม่ อยากให้เป็นรถด่วนหรือรถไฟ แต่ถ้าอยากเป็นรถไฟก็ช้า ฉึกฉักฉึกฉัก
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะนัดประชุมได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่ นายชัยกล่าวว่า ปัญหาคือ ตนต้องหารือกับประธานวุฒิสภาก่อน เพราะเป็นการประชุมร่วมกัน ตนคนเดียวก็ไม่ไหว ต้องมีประธานทำหน้าที่สลับกันสองคน แต่ละคนก็แก่แล้ว
เมื่อถามว่าจะพิจารณาไปพร้อมญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของประชาชนกลุ่ม คป.พร.หรือไม่ นายชัยกล่าวว่า ญัตติดังกล่าวค้างอยู่ในสภาเป็นวาระด่วนอยู่ ก็ต้องถามที่ประชุมว่า จะเอาอย่างไร จะให้รวมหรือแยกพิจารณา อยู่ที่มติของที่ประชุม เมื่อถามว่าอาจจะมีปัญหาการชุมนุมคัดค้านของกลุ่มต่างๆ นายชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องของกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง แต่สำหรับสภา ก็ต้องทำหน้าที่ต่อไปเพราะเป็นการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ