“ประสงค์” ฉะ “นช.แม้ว” มีเงินแต่ไร้สติ หลอก “หัวขวด-เสื้อแดง” ชุมนุม หวังปูทางใช้กองกำลังเถื่อนปฏิบัติการ เตือน รบ.ระวังทหารแก่ยังเหลือพิษสง มีแผนไหว้วานพรรคพวกที่เหลือในกองทัพผสมโรงฮาร์ดคอร์ ชี้ “มาร์ค” ไม่ควรเกียร์ว่าง สั่งคุมเข้มสถานที่สำคัญ นอกจากทำเนียบฯ รัฐสภา ให้ระวังบ้านป๋า และที่พักองค์คณะตุลาการคดี “แม้ว” กระซิบ นายกฯอย่าไว้ใจ ตร. หลังงามหน้าคนสีกากียศ “พลตำรวจเอก” จับแพะคดีปาอึบ้านนายกฯ พร้อมอัด คำพูดไร้ราคา “ไอ้ตู่” แต่งนิยายเอกสารลับปราบเสื้อแดง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “รู้ทันประเทศไทย”
วันนี้ (15 ก.พ.) รายการ “รู้ทันประเทศไทย” ออกอากาศทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.30-20.00 น. มี ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และนายสันติสุข มะโรงศรี เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการต่อสายสัมภาษณ์สด นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขา สมช.ถึงกรณีสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ค่อยไว้วางใจ โดย น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า จากพฤติกรรมต่างๆ ของกลุ่มเสื้อแดง ที่ได้พัฒนาตัวจากกลุ่มเล็กๆขึ้นมาเป็นกลุ่มใหญ่ รวมทั้งมีขยายตัวไปผนึกกำลังกับอดีตทหารอีก 40-50 คน ซึ่งทั้งหมดนี้สอดประสานกับพฤติกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ตลอด 1 ปีเศษๆ ที่ผ่านมา ไม่เคยหยุดเคลื่อนไหวเลยสักวันเดียว โดยมีความพยายามต้องการเอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนไปเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการล้างคดีหรือเอาเงินที่ถูกยึดคืน
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า เกมคนเสื้อแดงวันนี้ มีเป้าหมายอย่างชัดเจน คือ ต้องการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยอย่างขาวสะอาด ไร้มลทินจากความผิด ดังนั้น สิ่งที่จะทำให้ไปสู่เป้าหมายได้ จำเป็นต้องมี 3 อย่าง คือ 1.เงินทุน 2.กำลังคน และ3.วิธีการ ซึ่งตอนนี้จากที่ตนติดตามดู จะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีเงินทุนและมีกำลังคน หากแต่ขาดวิธีการนำไปสู่เป้าหมายที่เด็ดขาด โดยเป็นลักษณะการต่อสู้แบบทุ่มทุนไม่อั้น เสมือน พ.ต.ท.ทักษิณ มีสตางค์แต่ไม่มีสติ โดยตนอยากให้จับตาดูท่าทีทหารแก่ที่ชอบใช้ความรุนแรงให้ดีๆ เพราะพวกนี้ไม่อยู่เฉยแน่ ถึงอย่างไรเชื้อทหารก็ไม่มีวันตาย แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือทหารพวกนี้กลัวอดตายมากกว่า ซึ่งทหารแก่เหล่านี้ อย่าได้ประมาท เพราะยังมีขุมกำลังเป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องที่รับราชการอยู่มากมาย ฉะนั้น ขอให้จับตาความเคลื่อนไหวมากเป็นพิเศษ
“ผมมองว่าปริมาณการขับเคลื่อนของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ที่ยิ่งกว่านั้น คือ ต้องมีคุณภาพด้วย โดยคุณภาพในที่นี้คือการก่อความรุนแรงมีประสิทธิภาพแค่ไหน ผมไม่แคร์ว่าคนพวกนี้มีสักกี่คน แต่ที่น่าสนใจเป็นวิธีการ เพราะอย่าลืมว่าคนๆเดียวสามารถจุดไม้ขีดเผาบ้านเผาเมืองได้ หรืออาจจะยิงอาวุธร้ายแรงเข้าใส่สถานที่ต่างๆ ก็สามารถกระทำได้” น.ต.ประสงค์ กล่าว
น.ต.ประสงค์ กล่าวอีกว่า หากมอบหมายให้ตนดูแลงานด้านความมั่นคง ตนคงกำชับดูแลความปลอดภัย 3 ด้าน คือ 1.สถานที่สำคัญเชิงสัญลักษณ์ 2.ตัวบุคคลสำคัญ และ 3.เอกสารเกี่ยวกับแผนการประชุมลับต่างๆ โดยในส่วนของสถานที่สำคัญ ตนคงระบุไม่ได้ ว่าควรดูแลที่ใดเป็นพิเศษ แต่อยากให้พิจารณาดีๆว่า กลุ่มคนพวกนี้จ้องหาจุดอ่อนของรัฐบาล ว่าบกพร่องดูแลความปลอดภัยที่ไหนบ้าง เพื่อที่จะได้เข้ามาก่อเหตุร้าย รวมทั้ง สถานที่จะลืมให้ความสำคัญไม่ได้ คือ บ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หรือบ้านพักองค์คณะตุลาการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ
“ผมรู้สึกเห็นใจ พล.อ.เปรม ที่โดนกระทำโดยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ซึ่งท่านคงไม่อยากให้บานปลายไปฟ้องร้องหรืออะไร แต่ฝ่ายที่สมควรถูกตำหนิคือเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจ ผมอยากบอกว่าตอนนี้เอกภาพทหารยังมีมากกว่า ผมคิดว่า 80% ของวงการตำรวจ ยังถูกระบอบทักษิณครอบงำอยู่” น.ต.ประสงค์ กล่าว
น.ต.ประสงค์ กล่าวถึงกรณีรถขบวน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถูกรถ 2 คัน แทรกกลางขบวน ทั้งที่มีรถอารักขาทั้งหน้าและและหลัง ว่า ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับนายอภิสิทธิ์ ทั้งเรื่องปาอุจจาระ และกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไม่ชัดเจน เพราะสวมหมวกกันน็อต ทำให้ไม่เห็นหน้า แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ทางตำรวจกลับจับตัวได้ ตนคิดว่าเรื่องนี้มีข้อน่าสงสัยอยู่หลายประการ โดยตนอยากให้ข้อมูลว่า จริงๆแล้ว ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้อยู่ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นสิ่งที่ตนจะเปิดเผยต่อไปนี้ แต่มีคนยศ “พันตำรวจเอก” เป็นคนจัดการทั้งหมด ซึ่งคนๆนี้ เป็นคนที่อยากเป็นใหญ่ตลอดเวลา และยังรับราชการอยู่ เคยเป็นคนที่ขวางการตั้งแต่ ผบ.ตร. จนทำให้ตำแหน่งดังกล่าวมีได้แค่ รักษาการ ผบ.ตร.เท่านั้น
“อยากให้ลองคิดตามว่า รถขบวนนายกฯ มีรถอื่นเข้ามาแทรกกลางได้อย่างไร แถมรถคันนั้น ยังมีสติ๊กเกอร์เสื้อแดงติดอยู่ด้วย แบบนี้ไม่เรียกว่ารู้เห็นจะเรียกว่าอะไร ทั้งรถเก๋งและรถแท๊กซี่ที่ก่อเหตุ ต้องรู้เส้นทางรถของนายอภิสิทธิ์ ดีว่าจะไปทางไหนบ้าง เวลาเท่าไหร่ จะได้มาดักรอ เพื่อก่อเหตุดังกล่าว โดยเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ผมฝากแค่ว่า ตำรวจดีๆ ก็มีเยอะ แต่อย่าไว้วางใจตำรวจมากนัก” น.ต.ประสงค์ กล่าว
น.ต.ประสงค์ กล่าวปิดท้ายประเด็น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาระบุว่า มีเอกสารลับที่แสดงว่ารัฐบาลเตรียมใช้ความรุนแรงปราบคนเสื้อแดง ว่า นายจตุพร ต้องการโยนความผิดให้พ้นตัวและพรรคพวกตนเอง โดยเป็นความพยายามสร้างภาพคนเสื้อแดงสู้อย่างสันติ แต่รัฐบาลออกมาปราบปรามด้วยความรุนแรง เรื่องนี้ ตนคิดว่า คนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าคนในสังคม รู้สึกอย่างไรกับนายจตุพร หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเรื่องเอกสารลับไม่มีทางเป็นไปได้ ที่เอกสารสำคัญจะหลุดรอดมาง่ายเช่นนี้
“ผมรู้สึกสงสารสามเกลอและเสื้อแดงที่ไปร่วมชุมนุม เพราะคนพวกนี้ไม่ใช่ผู้ลงมือตัวจริง แต่กำลังตกเป็นเครื่องมือโดยที่ไม่รู้ว่าอะไรข้างหน้าจะเกิดขึ้น โดยผมได้ข่าวมาว่า ตอนนี้กองกำลังเถื่อนทยอยคืบคลานเข้ามาในกรุงเทพฯแล้ว ซึ่งตามจังหวัดหลายที่ มีการนำรถไปขนคนหลายสิบคัน รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านเราด้วย ดังนั้น ที่บอกว่าสงสารหัวขวดหรือคนเสื้อแดง เนื่องจากคนพวกนี้ไม่รู้จริงๆว่าถูกหลอกใช้ จริงๆ แล้วคนพวกนี้ปากโป้งทำให้ไม่ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานใหญ่” น.ต.ประสงค์ กล่าว