“ปณิธาน” ยันตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง หวังดูแลความสงบ ยึดกฎหมายเป็นหลัก ดูอยู่ อดีตเปาเสื้อแดงยุชาวบ้านสังหาร “มาร์ค” ยันไม่มีแผนลับปราบแก๊งถ่อย ท้า “จตุพร” โชว์ ซัดอย่าขู่เล่นงานพ่อนายกฯ
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงจะเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้แต่งตั้ง คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศในช่วงที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ว่า คณะกรรมการดังกล่าวต้องยึดตามกฎหมายเป็นหลัก และมีหน้าที่ให้คำเสนอแนะในเชิงกฎหมาย เชิงความมั่นคง และภาพรวมทั้งหมด เพราะรัฐบาลต้องการยึดหลักกฎหมายและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งคณะกรรมการชุดนี้จะประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่น
สำหรับกรณีที่นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ระบุว่านายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปราศรัยบนเวทีของกลุ่ม นปช.ในลักษณะที่ให้มีการนำท่อนเหล็ก ท่อนไม้ไปทำร้ายร่างกายโดยไม่มีความผิดทางกฎหมายนั้น ฝ่ายกฎหมายกำลังดูอยู่ เราจะมีการดำเนินการทันทีถ้ามีอะไรที่ก่อให้ความวุ่นวายและผิดกฎหมาย จึงขอให้มีความสบายใจได้ เพราะบ้านเมืองก็มีกฎหมายอยู่แล้ว และคตม.ได้กำชับหน่วยงานต่างๆให้ทำตามกฎหมายและทำตามหน้าที่ ขณะเดียวกันจะประสานเพื่อทำให้เกิดความเรียบร้อยในการชุมนุม โดยเฉพาะการรับแจ้งเตือน การสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังในหมู่ประชาชน
ส่วนการที่กลุ่ม นปช.เปิดเผยว่า รัฐบาลมีเอกสารลับที่ระบุแผนใช้ความรุนแรงจัดการ กับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น นายปณิธานกล่าวว่า ไม่มีเรื่องแผนลับอะไร การประชุมต่างๆของฝ่ายความมั่นคงจะมีเรื่องของแผนปฏิบัติการในการเฝ้าระวัง หรือการดำเนินการต่างๆ อาจมีการระบุสถานที่สำคัญต่างๆที่ต้องมีการเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าอาจมีความคลาดเคลื่อนในเรื่องของข้อมูลต่างๆ แต่เมื่อมีการตั้งข้อสังเกต เราก็สามารถชี้แจงได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะแผนปฏิบัติการเหล่านี้ต้องเข้าสู่การตรวจสอบโดยระบบภายในหรือระบบของรัฐสภา อีกทั้งยังมีการตรวจสอบของสื่อมวลชนและภาคประชาชนที่จะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้เราทำงานดีขึ้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการปิดบังใดๆ ทั้งนี้ ตนยืนยันว่ารัฐบาลทำตามกฎหมายและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งถ้ามีข้อเท็จจริงใดๆ ส่อไปให้เห็นในทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นของใครก็ตาม ตนขอให้แจ้งมาทันทีเข้ามาเพื่อรัฐบาลจะนำมาตรวจสอบ เราไม่อยากให้มีการพูดลอยๆโดยไม่มีหลักฐานในช่วงที่ประชาชนมีความกังวล
นายปณิธานกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การออกมาให้ข่าวต่างๆ ในช่วงนี้ เราอยากขอความร่วมมือให้มีความระมัดระวัง เพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวดี ขึ้น และนานาชาติกำลังจับตาดูอยู่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองของเราเป็นอย่างไร รวมทั้งไม่อยากให้กระทบกระเทือนต่อปากท้องของประชาชน อีกทั้งการให้ข่าวที่ทำให้เกิดความกังวลนั้นอาจไม่ได้ทำให้เกิดผลดีต่อการรักษาความ สงบเรียบร้อยและบรรยากาศโดยรวม ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.กล่าวไปถึงเรื่องความปลอดภัยของตัว ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ บิดาของนายกรัฐมนตรีนั้น ตนไม่อยากให้มีการพูดพาดพิงครอบครัวหรือกลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้อง จึงอยากขอร้องและขอความร่วมมือกับกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่างๆ ให้รักษากฎกติกา และไม่สร้างสถานการณ์ที่น่ากังวลเกินกว่าเหตุ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้เรามีหน่วยงานที่ดูแลและมีแผนที่มีความชัดเจนในเรื่องขั้นตอนปฏิบัติอยู่แล้ว และเชื่อว่าหลังจากนี้ไปการร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เราลงไปในพื้นที่กับภาคประชาชนจะดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งรัฐบาลสามารถดูแลสถานการณ์ได้อยู่แล้ว