ส.ว.ประสาร จี้ “รมว.กลาโหม” จัดการ “เสธ.แดง” พูดจาข่มขู่กรรโชกบุคคลสำคัญอย่างเด็ดขาด ด้าน พล.อ.ประวิตร ยันดำเนินการแล้วตามกฎธรรมเนียมทหาร แจงร่วมฝ่ายความมั่นคงจับตาสถานการณ์การเมืองใกล้ชิด ยันหากมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มใดก็สามารถดำเนินคดีได้ทันที
วันนี้ (15 ก.พ.) ในการประชุมวุฒิสภา ซึ่งมี น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถามด่วนเรื่อง การดำเนินการกับนายทหารที่มีพฤติกรรมกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ของนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ถามต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ทั้งนี้ นายประสารได้นำซีดีความยาว 2.15 นาที ซึ่งเป็นภาพและเสียงในการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ในโอกาสต่างๆ เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง และการโต้ตอบที่ ผบ.ทบ.จะสั่งพักราชการรวมถึงการออกมาเตือนว่า ป.ป.ช.-คตส.และศาลฎีกาที่จะตัดสินคดียึดทรัพย์อาจได้รับอันตราย มาเปิดในที่ประชุมด้วย
นายประสารกล่าวว่า หลายกรณีผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกรายนี้ออกมาพูดข่มขู่กรรโชกรายวัน ซึ่งอาจผิดตามประมวลกฎหมายอาญา แถมยังออกมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งที่มีการลงโทษแล้ว ทำให้เหมือนรัฐบาลไม่มีอำนาจการบริหารอย่างแท้จริง เพราะบุคคลนี้สร้างความเสื่อมเสีย ให้กองทัพและทหารอย่างต่อเนื่อง จะใช้มาตรการทางกฎหมายและทางวินัยอย่างไร ในการดำเนินการอย่างจริงจัง รวมถึงยับยั้งไม่ให้บุคคลนี้ออกมาให้ข่าวหรือทำการใดๆ ซึ่งกระทบต่อความมั่นคง และมีการเรียก พล.ต.ขัตติยะ มาสอบถามหรือไม่ว่าใครจะเป็นผู้ทำร้ายฝ่ายกระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ประวิตร ชี้แจงว่า ทหารทุกนายที่อยู่ในกองทัพ จะต้องอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องถูกดำเนินการลงโทษอย่างเฉียบขาด แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนกฎธรรมเนียมทหาร กรณีของ พล.ต.ขัตติยะ กองทัพบก ได้ดำเนินการตามขั้นตอนและตามระเบียบได้แก่ พ.ร.บ.วินัยทหาร 2476 ประมวลกฎหมายอาญาทหารประกอบประมวลธรรมนูญศาลทหาร 2498 ซึ่งกองทัพบกได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง การฝึกทำการต่อสู้ให้กับบุคคลชุดดำ ที่สนามหลวงรวมถึงการให้ข่าวต่างๆ สรุปออกมาว่าการกระทำดังกล่าวมีมูลความผิดทางวินัยและอาญา ซึ่งทางวินัย กองทัพบกมีคำสั่งว่ากล่าวตักเตือน และไม่ให้ใช้กริยาวาจาที่ส่งลกระทบต่อกองทัพ ผู้บังคับบัญชา 2 ปี โดย ผบ.ทบ.ลงนามแล้ว ส่วนความผิดทางอาญา อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหารกรุงเทพฯ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ส่วนที่ พล.ต. ขัตติยะ ไปกัมพูชาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ กรรมการสอบสวนแล้วมีพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าได้เดินทางไปจริง และไม่ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชา ซึ่งขัดต่อข้อบังคับของกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการลา มีความผิดต่อประมวลกฎหมายอาญาทหาร และมีความผิดฐานปฏิบัติไม่สมควร กองทัพบกได้ตั้งกรรมการขึ้นมาดำเนินการทางอาญาอย่างจริงจังแล้ว รวมถึงกรณีที่พูดถึงทหารค่ายปักธงไชยจะออกมาเคลื่อนพร้อมคนเสื้อแดง กองทัพตั้งกรรมการสอบสวนแล้วพบว่า มีการออกมาให้สัมภาษณ์จริง ถือว่า ขัดคำสั่งที่มีการสั่งการไปแล้ว มีความผิดฐานขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง มีความผิดทางวินัยทหารไม่รักษามารยาทโดยใช้กริยาวาจาไม่สมควร ซึ่งกองทัพบกตั้งกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามธรรมนูญทางทหารแล้ว และมีการเริ่มดำเนินการเอาผิดทางวินัยร้ายแรงแล้ว และสั่งพักราชการเพื่อสอบสวนแล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย และเปิดให้ชี้แจงเพื่อความเป็นธรรม แต่พล.ต.ขัตติยะ ก็บ่ายเบี่ยงไม่มาพบ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ส่วนการให้ข่าวการลอบสังหารบุคคลสำคัญ จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของพล.ต.ขัตติยะ กองทัพได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และพล.ต.ขัตติยะ ต้องรับผิดชอบต่อสังคม จึงกำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะสอบสวนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ หากมีข้อมูลเชื่อมโยงถึงกลุ่มใดก็จะดำเนินการไปตามกฎหมาย ยืนยันว่ากระทรวงกลาโหมจะติดตามประเมินสถานการณ์ทางการเมืองและประสานกับหน่วยความมั่นคงเพื่อดูแลความมั่นคงอย่างใกล้ชิด