xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบแดงสาดหมามุ่ย สภาผวา!ไม่หยุดแค่ล้มรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ถ่อยได้ใจ ม็อบเสื้อแดงเชียงใหม่บุกปิดล้อมกองบัญชาการตำรวจภาค 5 เผาโลงศพ-จุดประทัด-สาดหมามุ่ย ขวางการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ พร้อมขับไล่ “พล ต.ท.สมคิด” พ้นตำแหน่ง ก่อนจะบุกปะทะตำรวจปราบจราจล ขณะที่ประชุมสภาฯ "ส.ว." เตือนอย่าประมาท หวั่นเสื้อแดงหวังผลสูงกว่าล้มรัฐบาล


วานนี้ (25 ม.ค.) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ประมาณ 100 คน พร้อมรถหกล้อบรรทุกโลงศพ นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ชุมนุมปิดล้อมบริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 บนถนนมหิดล ในตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อขับไล่ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่ถูกอัยการสั่งฟ้องในคดีอุ้มฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย และคัดค้านการประชุมแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 ที่มี พล.ต.ท.สมคิด เป็นประธานประชุม โดยกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ระบุว่า พล.ต.ท.สมคิด หมดความชอบธรรมที่จะทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แล้ว

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดวางกำลังประมาณ 300 คน พร้อมนำแผงลวดหนามมาวางขวางกั้นบริเวณทางเข้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงบุกเข้าไปได้ ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงได้มีการพาผู้ชุมนุมรวมตัวเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้นำโลงศพไปตั้งไว้บนแผงลวดหนาม โดยนำภาพถ่าย พล.ต.ท.สมคิด ไปแปะวางไว้ที่หน้าโลง พร้อมแผ่นกระดาษที่เขียนข้อความไว้ว่า "สมคิดออกไป" "หยุดปฏิบัติหน้าที่ซะสมคิด" พร้อมใช้รถติดตั้งเครื่องเสียงกล่าวปราศรัยโจมตี พล.ต.ท.สมคิด ตลอดเวลา

รายงานข่าวระบุว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่เข้าไปในบริเวณกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ ทั้งยังสาดหมามุ่ยเข้าใส่ตำรวจชุดปราบจลาจล และพยายามฝ่าแผงกั้นบุกเข้าไปภายในจนเกิดการปะทะกันขึ้น ในระหว่างนั้น กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยังได้จุดประทัดยักษ์ขว้างปาเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจในบริเวณกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ด้วย โดยใช้เวลากว่า 20 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้และได้ผลักดันให้กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ออกมาชุมนุมอยู่บริเวณด้านหน้าเหมือนเดิม

กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น.กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ร่วมกันประกอบพิธีเผาโลงศพที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมส่งเสียงโห่ร้องตะโกนขับไล่ พล.ต.ท.สมคิด อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ พล.ต.ท.สมคิด นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ยังคงทำงานอยู่ภายในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เช่นเดิม ตลอดช่วงที่กลุ่มเสื้อแดงทำการชุมนุมปิดล้อมเพื่อขับไล่ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ระหว่างการชุมนุมกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยังได้นำเทปบันทึกเสียง พล.ต.ท.สมคิด ที่เคยกล่าวต่อหน้ากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ว่า "หากทำไม่ดีจะออกจากพื้นที่ไปทันทีโดยไม่ต้องให้ใครมาขับไล่" มาเปิดสลับเป็นระยะๆ สลับกับการกล่าวโจมตีรัฐบาลว่าดำเนินการแบบสองมาตรฐาน คือ สั่งพักราชการ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แม้จะยังไม่ถูกออกหมายจับ แต่กรณี พล.ต.ท.สมคิด แม้อัยการจะสั่งฟ้องคดี แต่กลับยังไม่ถูกพักราชการ

***ส.ว.เตือนอย่าประมาทเสื้อแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า การประชุมวุฒิสภาสมัยสามัญทั่วไปนัดแรก เมื่อวันที่ 25 ม.ค. มีนาย นิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถามเรื่องการรับมือกับการเคลื่อนไหวที่รุนแรง ของนาย ประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ถามต่อนายกฯ โดยนายกฯ มอบหมายให้นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯด้านความมั่นคงมาชี้แจงแทน

นายประสาร กล่าวว่า สถานการณ์ระยะหลังของบ้านเมือง มีความรุนแรงมากขึ้น วันที่ 15 พ.ย. 52 ที่สนามหลวง ผู้ชุมนุมถูกยิงเอ็ม 79 ล่าสุดตามข่าว ประมาณวันที่ 15 มกราคม 53 มีการยิงเอ็ม 79 ใส่ใกล้ห้องทำงานของผบ.ทบ. ส่วนการชุมนุมครั้งที่จะถึงของคนเสื้อแดง ยังมีการประกาศว่าจะเป็นวันเผด็จศึก ครั้งสุดท้าย ช่วงหลังตรุษจีนก่อนวันที่พิพากษาคดียึดทรัพย์ 26 กุมภาพันธ์ แม้ช่วงหลังเสื้อแดงจะซบเซาไปบ้าง แต่ประมาทไม่ได้ แม้การประกาศ จะชุมนุม 1 ล้านคน ที่ผ่านมาไม่สำเร็จ แต่คดียึดทรัพย์เป็นการเดิมพันชี้ชะตาบางอย่าง พร้อมเทหมดหน้าตัก จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ เดือนเมษายนปี 52 เกิดการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ทั้งที่น่าควบคุมได้ รวมถึงการทุบรถนายกฯที่กระทรวงมหาดไทย การยิงนาย สนธิ ลิ้มทองกุล รัฐบาลสรุปบทเรียนเดือนเมษายนหรือไม่ ประเมินสถานการณ์ต่ำไปหรือไม่ เพราะการชุมนุมที่ประกาศทวงคืนอำนาจ ทรัพย์สินในช่วงตรุษจีนที่จะถึง แสดงว่า จะต้องมีวิธีการอะไรนอกจากที่เคยทำมาแล้ว เช่น ให้มีความรุนแรง เพื่อการปะทะ และนองเลือด รัฐบาลจะป้องกันอย่างไร กับการกระทำของผู้ไม่หวังดีต่อชาติ รัฐบาลมีวิธีการรับมืออย่างไรต่อการชุมนุมที่จะถึง และประเมินหรือไม่ว่า อาจมีอะไรที่ไปไกลกว่าล้มรัฐบาล อาจจะเป็นการสถาปนารัฐไทยใหม่ หรือดูจากที่ผู้นำของเสื้อแดงที่อยู่ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ไทม์ออนไลน์ มีอะไรไปไกลกว่าการเอาชนคู่แข่งทางการเมือง และตอนนี้การดูแลอาวุธสงครามเป็นอย่างไร เพราะพักหลังมีเหตุการใช้อาวุธสงครามถี่

นายสุเทพ ชี้แจงว่า เหตุที่พัทยาถือเป็นบทเรียนสำคัญของรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงได้สรุปปรับกระบวนการมั่นคงแล้ว รัฐบาลอดทนอดกลั้นใช้สันติวิธีไม่ให้ความรุนแรงขยายตัว แต่ก็ยึดหลักว่า ไม่ให้กฎหมายถูกลบหลู่ด้วย คือต้องให้บังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ที่พัทยาดำเนินคดี 12 คดี ที่กระทรวงมหาดไทยดำเนินคดี 2 คดี ส่วนช่วงสงกรานต์ รัฐบาลก็ใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ใช้กฎหมายดำเนินการ ซึ่งพิจารณาตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้เจ้าหน้าที่รู้หน้าที่และให้ประชาชนรับทราบตลอดเวลาว่าทำอะไร มีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวตลอด เพื่อดำเนินคดี

"ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้รับผิดชอบในส่วนตัวเองทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือนแล้ว อะไรที่ดำเนินการยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงได้ก็จะดำเนินการ คิดว่า การเตรียมการของรัฐบาลนี้จะรับมือได้ และใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือการแก้ไข ถ้าฝ่าฝืนกฎหมายเล็กๆ น้อย ถ้าปิดล้อมถสานที่ราชการ ทำเนียบฯ ก็ต้องไปขออำนาจศาลให้สั่งยกเลิก ถ้ายังไม่ยกเลิก ก็คงคิดต้องใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ถ้ายังเอาไม่อยู่ก็คิดจะใช้พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน"

***ประเมินหวังผลสูงกว่าโค่นรัฐ

นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้สั่งประชุมตำรวจทั้ง 10 ภาค ทหารและตำรวจ ให้เตรียมพร้อม การประเมินการชุมนุมที่มีการเตรียมการการชุมนุมน่ากังวลว่า จะไม่ใช่สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ น่าจะมีความมุ่งหมายมากกว่าโค่นล้มรัฐบาล คืออาจจะมีการทำอะไรให้มีอำนาจมากไปกว่านั้น และตนเสนอ ครม.อนุมัติงบประมาณเป็นกรณีพิเศษ ขอหมวก โล่ กระบอง เพื่อหลีกเลี่ยงอาวุธที่จะก่อชนวนความรุนแรง และยึดหลักสากล จากเบาไปหาหนักตามสมควร

"การจับอาวุธสงครามจากกรณีล่าสุดคดียิงเอ็ม 79 ใส่ใกล้ห้องทำงานผบ.ทบ. ก็ดำเนินการอยู่เจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่ ซึ่งขออำนาจศาล ศาลก็ออกหมายเรียก ก็ดำเนินการให้มาทราบหมายเรียก ก็จะได้ทราบว่า อาวุธมาจากส่วนใด ตอนนี้ก็รออยู่จึงยังไม่ทราบ" นายสุเทพกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น