ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริตฯลงตรวจข้อเท็จจริงปัญหาเกาะราชาภูเก็ตจี้ให้คณะกรรมการระดับจังหวัดดำเนินการแก้ปัญหาความ ส่วนเทศบาลตำบลราไวย์ปิดป้ายระงับการก่อสร้างแล้ว ขณะที่เจ้าของโรงแรมยืนยันดำเนินการถูกต้องและต้องการที่จะอนุรักษ์ปะการังเช่นเดียวกับชาวบ้านพร้อมยืนยันขนวัสดุก่อสร้างขึ้นทางอ่าวสยามเช่นเดิมเพราะไม่ได้ทำลายปะการังตามที่เป็นข่าว
วันนี้ (9 ธ.ค.) นายประสาร มฤคพิทักษ์ คณะกรรมธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริตและเสริมสร้างธรรมภิบาลของวุฒิสภา พร้อมด้วยนายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสฤษดิ์ จันทร์ดี ประธานชมรมอนุรักษ์และป้องกันตนเองเกาะราชาใหญ่ นายมานิตย์ โยธารักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.ราไวย์ นายประจวบ โมฆรัตน์ เจ้าพนักงานประมง ชำนาญงาน ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางลงไปยังเกาะราชาใหญ่ ม.3 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านกรณีปะการังบริเวณอ่าวสยามได้รับความเสียหายจากเรือขนวัสดุก่อสร้าง และการปิดถนนซึ่งชาวบ้านอ้างว่าใช้กันมาเป็นเวลานาน โดย คณะกรรมการฯได้รับฟังบรรยายสรุปจากกลุ่มชาวบ้านประมาณ 20 นาที จากนั้นก็ได้ลงตรวจสอบพื้นที่
โดยนายประสาร มฤคพิทักษ์ คณะกรรมธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริตและเสริมสร้างธรรมภิบาลของวุฒิสภา กล่าวว่า กล่าว ว่า จากการตรวจสอบนั้นมีปัญหาอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องสถานที่ขนถ่ายวัสดุก่อสร้างที่ชาวบ้านอ้างว่าแพขนถ่ายทำลายแนวปะการัง และ เรื่องถนนสาธารณะที่ชาวบ้านอ้างว่าเป็นถนนที่ชาวบ้านบนเกาะใช้ร่วมกันมานานจากนั้นก็ถูกนายทุนปิดไม่ให้ใช้เส้นทาง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการคลี่คลายปัญหาไปได้ระดับหนึ่ง โดยเรื่องของการขออนุญาตก่สร้างโรงแรมนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลราไวย์ได้ปิดหมายก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว
ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องแพขนถ่ายสินค้านั้น ก็ได้ตั้งคณะกรรมการทำงานชุดจังหวัดขึ้นมาเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาว่าสามารถให้แพขนวัสดุก่อสร้างเข้าได้ในพื้นที่ใดเพื่อไม่ให้กระทบกับทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะปะการัง ซึ่งจากการพูดคุยกับทางโรงแรม นั้นโรงแรมอ้างว่าไม่ได้มีการทำลายปะการังให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งเรื่องนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกันไป
ส่วนเรื่องถนนที่มีการอ้างว่ากลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมรายาบุรี รีสอร์ท ปิดถนนหรือทางสาธารณะนั้น ได้ตรวจสอบแล้วมีการปิดกั้นถนนทางสาธารณะจริง แต่โรงแรมอ้างว่าปิดในส่วนของที่มีโฉนดและเป็นพื้นที่ครอบครองของเขา และปิดถนนเพื่อการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่จะเข้าพักโรงแรม ซึ่งหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิ์การครอบครองทั้งหมดว่าได้มาด้วยชอบโดยกฎหมายหรือไม่ จากนั้นจะต้องดูภาพถ่ายทางอากาศว่าเป็นทางสาธารณะจริงหรือไม่หากจริงก็จะดำเนินการต่อไป
ด้านนายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เรื่องของแพขนส่งสินค้าที่เข้ามาจอดเทียบเพื่อขนส่งสิ้นค้าที่อ่าวสยาม ซึ่งเป็นแนวปะการังนั้น ทางคณะกรรมการชุดจังหวัดจะต้องเรียกผู้ประกอบการโรงแรม ตัวแทนชาวบ้าน ผู้ประกอบการ บนเกาะราชา มาประชุมเพื่อหารือในการหาแนวทางมาตราการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยด่วน ซึ่งอ่าวสยามมีลักษณะเป็นอ่าวที่มีความลาดชันของน้ำทะเลน้อยและมีลักษณะเป็นแนวราบ เมื่อมีเรือขนาดใหญ่มาจอดก็จะทำลายแนวปะการังน้ำตื้นได้ และก่อนหน้านี้ชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะราชามีมติว่าให้แพขนส่งสินค้าขนส่งสินค้าบริเวณอ่าวทือ เนื่องจากลักษณะพื้นทีมีความเหมาะสมมากกว่า ซึ่งจะต้องให้ทุกฝ่ายประชุมหารือกันอีกครั้งเพื่อสรุปหาแนวทางในการแก้ปัญหา
ในส่วนเรื่องการก่อสร้างไม่ได้รับอนุญาตวันนี้ทางเทศบาลตำบลราไวย์ได้มาปิดป้ายระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารตาม ม.40 วรรคหนึ่งและห้ามใช้พื้นที่ในบริเวณที่มีการก่อสร้าง แล้ว ซึ่งเจ้าของโรงแรมจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้องต่อไป
ขณะนายสมชาติ สมนาม เจ้าของโรงแรมที่กำลังก่อสร้าง กล่าวว่า ที่ผ่านมาซื้อที่ดินบนเกาะราชาใหญ่ เพื่อทำธุรกิจ เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่มีความสวยงาม สงบ เหมาะสมสำหรับทำธุรกิจ แต่หลังจากที่ซื้อที่ดินมาถูกต้องตามกฎหมาย ก็ถูกกลั่นแกล้ง ร้องเรียนมาโดยตลอด ตนคิดชาวบ้านดำเนินการ 2 มาตรฐาน ที่ผ่านมาอดทนมาตลอด ตนเป็นคนไทย ทำไมไม่มีสิทธิ์ในการเอาเงินมาลงทุนเพื่อทำธุรกิจหรือ หากเป็นเช่นนั้นตนก็จะขายให้กับชาวต่างชาติมาซื้อไปทำธุรกิจ
ส่วนเรื่องการทำลายปะการัง ครั้งล่าสุดที่มีการแจ้งความนั้น หลังแพเข้ามาจอดเพื่อขนส่งสินค้า ก็มีเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต มาดูและได้ดำดูใต้ท้องทะเลในบริเวณที่จอดแพ เพื่อดูแนวปะการังว่าได้รับความเสียหายหรือไม่ ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ฯ ดำดูและถ่ายภาพก็บอกว่าไม่ได้ทำแนวปะการังเสียหาย แต่อยู่ๆ วันรุ่งขึ้นก็เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ฉลอง ซึ่งตน ไม่ได้คิดทำลายปะการัง และยังมีแนวคิดที่จะอนุรักษ์เพราะเป็นจุดขายของการท่องเที่ยว ถึงตนไม่ใช่คนเกาะราชา แต่ก็รักเกาะราชาเหมือนชาวบ้านทุกคน และจะให้แพขนส่งสินค้าบริเวณอ่าวสยามเหมือนเดิม เพราะคิดว่าที่ทำอยู่ไม่ได้ทาลายแนวปะการัง
สำหรับเรื่องถนนสาธารระที่มีการอ้างว่าทางโรงแรมปิดนั้น ความจริงแล้วทางโรงแรมไม่ได้ปิด ชาวบ้านมาปิดเอง เมื่อชาวบ้านมาปิดเราก็ต้องปิดในเขตที่เรามีเอกสารสิทธิ์ และถนนที่อ้างก็อยู่ในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ของทางโรงแรม ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาพักในอนาคต จะให้ชาวบ้านเดินวุ่นวายไม่ได้ หากเกิดอะไรขึ้นกับนักท่องเที่ยวใครจะรับผิดชอบ
ส่วนเรื่องก่อสร้างไม่ได้ขออนุญาต เมื่อเดือน ส.ค.2551 ตนได้ไปยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้างกับเทศบาลตำบลราไวย์ แต่ทางเจ้าหน้าทีไม่ได้อนุญาตก่อสร้าง และหากเจ้าหน้าที่ระงับการก่อสร้างก็พร้อมและจะดำเนินการให้ถูกต้อง และอยากถามกลับว่าบนเกาะแห่งนี้ที่มีการก่อสร้างโนรงแรม รีสอร์ท กันจำนวนมาก มีสักกี่แห่งที่มีการขอนุญาตก่อสร้างถูกต้อง นายสมชาติ กล่าว