xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กแป๊ะ" ผ่าแผนขายฝัน ระดมแดงป่วน-"ส.ว.ประสาร" ชี้ "นช.แม้ว" สิ้นค่า สู้สะเปะสะปะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"บิ๊กแป๊ะ" ผ่าแผนระดมแดงป่วน ก่อนคดียึดทรัพย์ตัดสิน หมายชี้เป้าวางตัวนักรบก่อนสู้แบบแตกหัก เชื่อ "นช.แม้ว" รู้ตัวแพ้ เมินใช้หัวขวดนำทัพ หันเปลี่ยนใช้บริการ "ทหารแก่" หิวเงินลงมือ คาด "แก๊งค์แดง" แตกคอกันจริง แย่งซีนสร้างผลงานเอาใจคนดูไบ ด้าน "ส.ว.ประสาร" ชี้ "แม้ว" แพ้หมดราคา สู้สะเปะสะปะ ไม่สนดีชั่ว ขอแค่พ้นผิดกับได้เงินคืน

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 11 ก.พ. มี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยเชิญ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย และนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา มาร่วมวิเคราะห์ถึงยุทธศาสตร์ "แดง" สู้ เพื่อล่าฝัน "นช.ทักษิณ ชินวัตร" ก่อนคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทจะตัดสิน

พล.อ.ปฐมพงศ์ กล่าวถึงประเด็นการต่อสู้แบบนอกเกม หรือการจัดตั้งกองกำลังเถื่อนขึ้นมารบ ว่า ตอนนี้ต้องยอมรับว่า หลายฝ่ายยังคงไม่มั่นใจกับมาตรการป้องกันเหตุร้ายในบ้านเมืองของรัฐบาล เพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ต้องมองไกลถึงวันตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง ประเด็นนี้จะเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างที่เป็นอยู่ โดยแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะพยายามกวนกระแสให้เกิดการเคลื่อนไหวตลอดเวลา แต่ก็เชื่อว่าคงรู้แล้วว่า ยุทธศาสตร์สู้มาแบบเดิมๆ ใช้ไม่ได้ผล เพราะสุดท้ายแล้วก็จะวนไปวนมา ไม่มีอะไรคืบหน้า

พล.อ.ปฐมพงศ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเปลี่ยนผู้นำทัพใหม่ โดยหันมาใช้กลุ่มบุคคลหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี หรือ เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือแม้แต่ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ซึ่งกลุ่มคนพวกนี้ เพิ่งเดินทางกลับมาจากพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่นครดูไบ แต่ปรากฏกิริยาของผู้คนที่รับทราบพฤติกรรมดังกล่าว นับเป็นการดิสเครดิตกลุ่ม นปช. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผลงานไม่เข้าตา ดังนั้น จึงเกิดความเคลื่อนไหวของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ออกมาแข็งกร้าวว่ากลุ่ม นปช. ไม่มีใครสั่งการได้ แม้แต่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกของกลุ่มดังกล่าวว่าเกิดขึ้นแล้วจริงๆ

"ต่อคดี 76,000 ล้าน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของฝ่ายรัฐบาลที่ออกมาช่อง 11 แล้วมีการชี้แจง ประกอบกับทางเอเอสทีวีที่ทำให้เห็นว่า ความไม่ชอบธรรมของเงิน 76,000 ล้าน มันมีนะ เพราะฉะนั้น ประเด็นอันนี้นำไปสู่การพิจารณากับสิ่งที่ พานทองแท้ กับ พิณทองธาร ได้ออกมาพูดว่า ขอให้ คตส. และสื่อไม่ให้ลงในเรื่องนี้ ผมก็อยากให้ข้อพิจารณาว่า หากมองดูแล้ว กำลังฝ่ายทักษิณ มันก็จะมีหนึ่งพรรคเพื่อไทย ส่วนแนวร่วมก็จะมีกลุ่ม นปช. กลุ่ม พล.อ.พัลลภ กลุ่ม พล.ต.ขัตติยะ หรือจะมีพวกสื่อเครือข่ายเสื้อแดง และกลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจต่างๆ โดยแผนจรยุทธไม่ว่าจะเป็นการดาวกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ คิดว่าน่าจะเป็นการซักซ้อมก่อนถึงวันรบจริง เสมือนว่าให้รู้ตำแหน่งของตัวเองว่าหากมีอะไรเกิดขึ้น จะต้องไปรวมตัวอยู่ที่ไหน" พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าว

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวอีกว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหว แล้วสบช่องที่ทหารออกมาปราบปราม ก็จะยิ่งเข้าทางคนพวกนี้ เพราะก็จะบอกว่า ทหารใช้แต่ความรุนแรง จ้องปฏิวัติอย่างเดียว ดังนั้น กลุ่มคนพวกนี้ ต้องการก่อจราจล เพื่อยั่วยุให้ทหารออกมาปราบปราม จะได้นำไปสู่การโฆษณาชวนเชื่อให้เห็นว่า ทหารไม่ได้ยืนอยู่ข้างประชาชน ซึ่งการเคลื่อนไหวในประเทศ อาจจะไปสอดคล้องกับต่างประเทศ โดยเฉพาะ กรณีสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่พยายามจะออกมาโจมตีรัฐบาลไทยว่าปล้นอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ มา ทั้งหมดนี้ เป็นไปได้หมด เพื่อปลุกปั่นก่อนศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ เนื่องจากหวังว่าจะมีผลต่อคำตัดสิน

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังต้องมองไปไกลหลังคดียึดทรัพย์ด้วย เพราะไม่มีอะไรแน่ชัดว่า หากศาลตัดสินคดียึทรัพย์ไปแล้ว กลุ่มคนเสื้อแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณ จะหยุดเคลื่อนไหว โดยตนเห็นว่า การที่อยากได้ของตัวเองกลับคืนมา โดยอ้างความไม่เป็นธรรม หรือทำลายชาติบ้านเมือง มันก็เหลือเกินไป

นายประสาร กล่าวถึงยุทธศาสตร์ของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า แกนนำฯ มีการพูดอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการจัดตั้งกองกำลังเถื่อน ว่าได้รับคำสั่งมาจากนครดูไบ โดยกลุ่มคนพวกนี้ เลียนแบบเหมือนลัทธิคอมมิวนิสต์จีน ที่อ้างถึงแก้วสามประการ ที่จะนำไปสู่การปฏิวัติสำเร็จ โดยตนอยากลองย้อนให้เห็นถึงตลอด 1 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามโค่นรัฐบาล แต่ไม่เป็นผล ซึ่งตนประเมินว่าทางการเมืองฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ พ่ายแพ้แล้ว เพราะทุกวันนี้หลังจากเกิดเรื่องเมื่อเดือนเมษาฯเลือดที่ผ่านมา ก็ถูกประฌามมาตลอด แม้จะโกหกอยู่เรื่อย ก็ไม่เป็นผล เพราะคนไม่เชื่อแล้ว ซึ่งตนคิดว่า ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ผ่านไทมส์ ออนไลน์ ทำให้ประชาชนที่รัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากมีถ้อยคำหรือคำพูดที่หมิ่นเหม่ว่าตอกย้ำพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ

นายประสาร กล่าวต่อว่า อีกจังหวะหนึ่งที่คนจับตามอง คือ กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปใช้ปาก สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มาโจมตีรัฐบาลไทย ยิ่งทำให้คนเห็นธาตุแท้ว่ามีความพยายามจะชักศึกเข้าบ้านตัวเอง จึงกลายเป็นประเด็นสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งตนประเมินว่า เสื้อแดงพ่ายแพ้แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็รู้ตัว แม้จะไม่อยากใช้งาน พล.อ.พัลลภ หรือเสธ.แดง แต่ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ จึงเลือกใช้งานกลุ่มบุคคลอื่นที่มีประวัติเคยใช้ความรุนแรงมาก่อน โดยยิ่งมีการประกาศตั้งกองกำลังเถื่อนแบบเปิดเผย ยิ่งทำให้เกิดปัญหามากขึ้น เพราะเกิดความขัดแย้งกันเองภายใน เพื่อแย่งกันเอาใจนายใหญ่ที่นครดูไบ ขณะเดียวกัน สามเกลอหัวขวด ก็ต้องไม่พอใจ ที่มีคนแย่งความไว้วางใจ แต่สุดท้ายแล้ว แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกมาปราม จนแกนนำเสื้อแดงแต่ละฝ่ายยอมดีกัน ตนคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า สุดท้ายแล้วก็มีการแย่งซีนกันนำทีมอยู่ดี
นายเติมศักดิ์ จารุปราณ
พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์
นายประสาร มฤคพิทักษ์
กำลังโหลดความคิดเห็น