คกก.สอบ “เสธ.แดง” แจง กมธ.ทหาร เหตุสั่งพักราชการ พ้องเสียงผิดวินัยร้ายแรง ด้าน กมธ.ไข่แม้ว ตะแบงอ้าง 2 มาตรฐานตามธรรมเนียม พาลหาเรื่องดึงอดีต “บิ๊กแป๊ะ” ขั้นเวทีพันธมิตรฯ มาย้อนถามกองทัพ
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พ.ต.ท. สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะกรรมาธิการ มีการพิจารณาถึงกรณี ผลการสอบสวนการสั่งพักราชการ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก โดยพล.ต.สินธุชัย สมานทรัพย์ เจ้ากรมข่าวทหารบก พ.อ.สุขสันต์ สิงหเดช ผู้อำนวยการสำนักพระธรรมนูญ เข้าชี้แจงแทน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ปิยะพล วัฒนกุล เจ้ากรมพระธรรมนูญ และคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พล.อ.สุชีพ กิจวารี เจ้ากรมเสมียนตรา เข้าชี้แจงแทนปลัดกระทรวงกลาโหม และ พ.อ.สุขสันต์ สิงหเดช ผู้อำนวยการสำนักพระธรรมนูญ ชี้แจงแทนผู้บัญชาการทหารบก
โดย พล.อ.สุชีพ กล่าวยืนยันว่า การกระทำของพลตรีขัตติยะ ถือเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการทหารพักราชการ พ.ศ.2528 เพราะเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อกองทัพ ซึ่งหากปล่อยให้มีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นอีก จะเป็นแบบอย่างไม่ดีต่อกระทรวงกลาโหมและกองทัพ อย่างไรก็ตามเมื่อผลสอบสวนเสร็จสิ้น หากพลตรีขัตติยะไม่มีความผิด ก็สามารถกลับเข้ารับราชการได้
ด้าน พล.อ.ปิยะพล กล่าวว่า ในฐานะคณะกรรมการสอบสวนได้รับการประสานจากพลตรีขัตติยะว่า จะเข้าไปชี้แจงกับทางคณะกรรมการสอบสวนในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งถือเป็นการสอบสวนนัดแรก ส่วนกรณีที่กรรมาธิการฯ ส่วนใหญ่เห็นว่ากองทัพบกสั่งพักราชการ พล.ต.ขัตติยะ ด้วยเหตุผลที่ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ไม่ถือว่าเข้าข่ายการผิดวินัยทั้ง 9 ข้อ ของระเบียบการลงโทษทางวินัยนั้น ขอชี้แจงว่าข้าราชการทหารผู้ใดที่ต้องหาคดีอาญา หรือผิดวินัยร้ายแรง หากผู้บังคับบัญชาเห็นว่าก่อให้เกิดความเสียหาย ก็สามารถสั่งพักราชการได้ คือให้อำนาจผู้บังคับบัญชาเต็มที่ ซึ่งกรณีของ พล.ต.ขัตติยะ กองทัพบกเห็นว่ามีการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย จึงจำเป็นต้องสั่งพักราชการเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง
ขณะที่ พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นกองทัพมี 2 มาตรฐาน เพราะหากเปรียบเทียบแล้วในอดีตมีนายทหารคนหนึ่งก็ขึ้นเวทีของ กลุ่มผู้ชุมนุม ก็ไม่เห็นมีการสั่งพักราชการ ส่วนกรณี พล.ต.ขัตติยะ กลับมีการสั่งพักราชการ มีการค้นบ้าน เหมือนเป็นการยัดเยียดข้อหาให้บุคคลหนึ่งจนทำให้สังคมมองว่า พล.ต.ขัตติยะ เป็นตัวร้าย ทั้งๆ ที่กระบวนการยุติธรรมยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน หรือวันนี้มาตรฐานในประเทศไทยไม่มีแล้ว
พล.อ.ปิยะพล กล่าวชี้แจงว่า กรณีของพล.อ.ปฐมพงษ์ ที่ขึ้นเวทีปราศรัยในการชุมนุมนั้น ทางราชการได้ว่ากล่าวตักเตือน ซึ่ง พล.อ.ปฐมพงษ์ ก็ปฏิบัติตาม แต่กรณีของ พล.ต.ขัตติยะ ทางราชการได้ว่ากล่าวตักเตือน แต่ก็ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม ออกมาให้ข่าวทำให้เกิดความเสียหาย และขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ถือว่ามีความไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ พ.ต.ท.สมชาย กล่าวถึงกรณีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.ขัตติยะ ว่า กรรมาธิการฯ ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดถึงมีการแจ้งจับ พล.ต.ขัตติยะ ทั้งๆ ที่ผลการตรวจสอบอาวุธยังไม่เสร็จสิ้น ยังไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ มีการดำเนินการที่รวดเร็วเป็นพิเศษ ซึ่ง พ.อ.สุขสันต์ ชี้แจงว่า มูลเหตุของเรื่องนี้กองทัพบกตรวจสอบ และมีเหตุให้เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับ พล.ต.ขัตติยะ จึงต้องดำเนินการออกหมายเรียก
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ในวันที่ 4 ก.พ. จะเชิญ พล.ต.ขัตติยะ มาชี้แจงเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย