ผู้บัญชาการทหารบกยืนยัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงนามสั่งพักราชการ “เสธ.แดง” แล้ว ยันไม่ได้กลั่นแกล้งและคิดเป็นศัตรู ด้าน “สุเทพ” แนะไปต่อสู้กันตามระเบียบกฎหมายทหาร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (13 ม.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวยอมรับว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามคำสั่งพักราชการ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล แล้วตามรายงานข่าววานนี้ (12 ม.ค.) โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง และไม่คิดที่จะเป็นศัตรูกับ พล.ต.ขัตติยะ แต่ทั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนที่ดำเนินการกับผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งถ้าไม่ทำก็ตอบคำถามสังคมไม่ได้ ส่วนจะมีการดำเนินคดีอาญาทางทหารหรือไม่นั้นต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ ซึ่งตนไม่มีอำนาจสั่งคุมขัง พล.ต.ขัตติยะ ได้ โดยต้องรอการพิจารณาสอบสวนของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาว่าจะมีความเห็นอย่างไร และจากนั้นคณะกรรมการจะส่งเรื่องไปยังอัยการทหารเพื่อพิจารณาว่าจะมีคำสั่งฟ้องทางคดีอาญาเพิ่มเติมหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบกระบุว่า ขั้นตอนการดำเนินการกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งหาก พล.ต.ขัตติยะ จะขอพบเพื่อชี้แจงรายละเอียด ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หาก พล.ต.ขัตติยะ มั่นใจว่าตนเองบริสุทธิ์ ก็ขอให้ต่อสู้ตามระเบียบกฎหมายของทหาร ซึ่งส่วนตัวมองว่าอาจจะต้องถึงศาลทหารเป็นผู้ตัดสิน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (12 ม.ค.) ได้มีรายงานข่าวออกมาว่า พล.อ.ประวิตร ได้ลงนามเซ็นคำสั่งสั่งพักราชการ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ตามที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เสนอพิจารณาลงโทษทางวินัยและอาญา โดยมีการพิจารณาตั้งข้อกล่าวหา 2 กรณี คือ 1.การหนีราชการไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.การให้สัมภาษณ์ดูหมิ่นผู้บังคับบัญชา โดยรายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2552 พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ส่งเรื่องไปให้กรมเสมียนตรา และกรมพระธรรมนูญ พิจารณารายละเอียดเพื่อตรวจสอบกฎหมาย และข้อเท็จจริงในการพิจารณาสำหรับบทลงโทษสำหรับนายทหารซึ่งศาลทหารตัดสินลงอาญามีฐานความผิดไล่ออกจากราชการ งดบำเหน็จ บำนาญ และถอดยศ โดยข้อกำหนดดังกล่าว ศาลจะพิจารณาดูเจตนาและข้อเท็จจริง ซึ่งนายทหารระดับนายพลปฏิบัติตัวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ขณะที่ พล.ต.ขัตติยะ ให้สัมภาษณ์วานนี้ (12 ม.ค.) ว่า ยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว แต่หากสั่งพักราชการจริงคงไม่ยอม เพราะขณะนี้อัยการยังไม่สั่งฟ้องกรณีที่ตนถูกกองทัพบกกล่าวหาตน การพิจารณาดังกล่าวของ ผบ.ทบ.ที่ส่งเรื่องพักราชการตนไปยังกระทรวงกลาโหมถือว่ามีอคติ ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นเพียงการหมิ่นประมาท ตนไม่ได้ไปฆ่าใคร และเป็นความผิดแบบหน่อมแน้ม พร้อมยอมรับว่าการสั่งพักราชการนายทหารชั้นนายพลถือว่ารุนแรงมาก ทั้งนี้ พล.ต.ขัตติยะยังไม่กล่าวในเชิงข่มขู่ด้วยว่า หากมีการสั่งพักราชการตนจริงจะเจอดีแน่ เพราะเท่ากับตนจะเป็นพลเรือน และตนจะขอสู้ทุกรูปแบบจะเป็นกองโจรในการต่อสู้กับผู้มีอำนาจ
