“สุเทพ” ประชุม “คตม.” นัดแรกเตรียมพร้อมรับมือเสื้อแดง คาดไม่แรงอย่างที่คุย ด้าน โฆษก กอ.รมน.ห่วงเสื้อแดงนำเอกสารทางการไปบิดเบือนจนประชาชนเข้าใจผิด ยืนยันไม่ใช่เอกสารลับ ด้าน “สาทิตย์” เปิดสายด่วน 1555 รับแจ้งเหตุแดงป่วนเมือง
วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.30 น.ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ครั้งที่ 1 เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุม
นอกจากนั้น พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริญ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล นายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายชินวรณ์ บุญเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ผู้แทนจากสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย อัยการสูงสุด และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุม 2 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 18.30 น. พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงผลการประชุม คตม.ว่า หน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบได้รายงานความคืบหน้าของการปฏิบัติงานใน 8 แผนมาตรการักษาความปลอดภัยที่ได้รับมอบหมาย และมีการแบ่งมอบไปเมื่อการประชุมครั้งที่แล้ว ซึ่งประกอบด้วย 1.มาตรการปฏิบัติต่อเป้าหมายพิเศษ 2.มาตรการรักษาบุคคลสำคัญ 3.การปฏิบัติงานด้านการข่าว 4.การปฏิบัติงานด้านกฎหมาย 5.การดำเนินงานต่อสถานีวิทยุชุมชน สื่อที่ปลุกระดมมวลชน 6.การป้องกันการปลุกระดมในสถานศึกษา 7.การปฏิบัติงานด้านข่าวสาร 8.การรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งทั้ง 8 มาตรการ ที่ระบุจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบไปดำเนินการ
“ในที่ประชุมยังได้มีการรายงานเรื่องการข่าวตามเหตุการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเรื่องความคืบหน้าจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้มีมติจากการประชุมเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามที่ประชุมยังไม่ได้มีการประเมินว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะมีความรุนแรงหรือไม่ แต่เชื่อว่า การชุมนุมจะไม่เกิดความรุนแรง เพราะเจตนาของแกนนำนั้นประกาศว่า จะชุมนุมอย่างสงบ และมีการกำหนดว่า จะไปประชุมในสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยที่กระจายกันออกไป จึงไม่น่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่มีการเตรียมพร้อมรับมือทุกเรื่องแล้ว อย่างไรก็ตามเราเป็นห่วงว่า จะมีกลุ่มที่ไม่หวังดีจะแฝงเข้ามาสร้างสถานการณ์ ทั้งนี้นายสุเทพ มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ เสนอข้อมูลให้คณะกรรมการอย่างต่อเนื่อง หากส่วนการข่าวได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็จะมีการแจ้งเตือนให้คณะกรรมการได้ทราบอยู่ตลอด” โฆษก กอ.รมน.กล่าว
เมื่อถามว่า ในที่ประชุมมีการมอบหมายให้สถานศึกษาไปทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับระบอบอำมาตย์หรือไม่ พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ประเด็นนี้นายสุเทพได้มอบหมายให้ทางกระทรวงศึกษาธิการไปชี้แจงทำความเข้าใจในสถานศึกษา เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาได้รู้ เข้าใจในความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า มีความสำคัญอย่างไร และสถาบันต่างๆ มีความสำคัญแค่ไหน ทั้งนี้นายสาทิตย์ ได้แจ้งในที่ประชุมว่า จะให้ กทม.เปิดสายรับแจ้งเหตุ 1555 สายด่วน กทม.ส่วนการประชุมในครั้งต่อไปยังไม่กำหนดจะเป็นวันใด แต่คงไม่ใช่ช่วงระยะเวลาอันใกล้
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะไม่ชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นวันพิจารณาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมอาจรอฟังการตัดสินของศาลก่อน หลังจากนั้นอาจกำหนดแนวทางในการเคลื่อนไหวต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปจนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงนำเอกสารลับของรัฐบาล มาเปิดเผยว่า มีแผนจะกำจัดคนเสื้อแดง พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ไม่ใช่เอกสารลับ ซึ่งคนที่รู้อาจนำไปเล่าต่อ แต่เราเป็นห่วงว่า จะนำเนื้อหาในเอกสารไปบิดเบือนจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ซึ่งเจตนาการทำงานของรัฐบาลมุ่งหวัง เพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง เราไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดเงื่อนไขที่จะกระทบต่อความเป็นอยู่ และสถานะของประเทศต่อสายตาประชาคมโลก แต่เอกสารที่กลุ่มเสื้อแดงนำไปอ้างมีส่วนหนึ่งที่เป็นจริง แต่อาจมีบางส่วนที่เขานำไปเพิ่มเติมเองตามเจตนาที่เขาจะสร้างกระแส เช่น เรื่องของมวลชน ซึ่งเอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องที่เราจะดูแลประเทศชาติให้เกิดความสงบสุข
เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้พูดถึงระเบิดเอ็ม 79 หรือไม่ พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า นายสุเทพได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมถึงเจตนาว่า มีความเป็นมาอย่างไร เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเต็มที่ แต่จากข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ไม่มีพยานรู้เห็น ประกอบกับหลักฐานที่ปรากฎในที่เกิดเหตุมีจำกัด ทำให้การสืบสวนค่อนข้างล่าช้า