ตร.จัดกำลังเตรียมพร้อมคุมเข้มม็อบแดง!

ตำรวจเตรียมความพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อยกลุ่ม นปช.เคลื่อนไหว พร้อมวางมาตราการป้องกัน หลีกเลี่ยงปะทะกัน ชี้ ยังไม่มีการข่าว มือที่ 3 จะสร้างสถานการณ์ปั่นป่วน วอนชุมนุมไม่ควรยืดเยื้อ หากฝ่าฝืนทำผิดกฎหมายจัดการทันที ย้ำตำรวจต้องเป็นกลาง

วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.พร้อม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิ์วิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารกองทัพภาคที่ 1 เข้าร่วมประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลความสงบการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวก่อนประชุม ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เรียกประชุมและมอบนโยบายในการรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากวันอาทิตย์ที่ 23 ม.ค.จะมีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) วันอังคารที่ 25 ม.ค.ตนพร้อมคณะทำงานมาประชุม เพื่อปรึกษาการทำงานร่วมกับ บช.น.และเตรียมแผนรักษาความสงบเรียบร้อย

“ตำรวจต้องเป็นกลไกในการรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ โดยใช้ความเป็นกลางดูแลความสงบ และบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ตำรวจจะมีมาตรการที่รัดกุมถูกต้องตามกฎหมายที่จะใช้ในการดำเนินการ ส่วนการป้องกันการปะทะกันของผู้ชุมนุมตำรวจมีการเตรียมป้องกันไว้หมดแล้ว การดูแลความเรียบร้อยครั้งนี้จะใช้กำลังตำรวจเป็นหลักดูแลความสงบ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเป็นเพียงการเตรียมความพร้อมไว้เท่านั้น สำหรับกลุ่มมือที่ 3 ที่อาจก่อเหตุขณะนี้ยังไม่มีข่าว” ผบ.ตร.กล่าว

ต่อมาเวลา 16.00 น.พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวภายหลังการประชุม ว่า บช.น.เตรียมกำลังตำรวจและแผนไว้ทั้งหมดเพื่อดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 23 ม.ค.ถึง วันอังคารที่ 25 ม.ค.ซึ่งวันนี้เป็นเพียงการให้นโยบายและมอบแนวทางการปฏิบัติให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับการเคลื่อนไหวของวันที่ 23 ม.ค.โดยมีมวลชนจำนวนมาก อาจทำให้เกิดความไม่สะดวกได้ ถ้าเป็นไปได้จำนวนผู้ชุมนุมน้อยผลกระทบกับประชาชนที่สัญจรไปมาก็ดีขึ้น ซึ่งตำรวจจะเข้าไปดูแลความเรียบร้อย และถ้ามีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มชุมนุมอยู่ทางตำรวจจะปรับแผนเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับการประสานแกนนำตำรวจมีการดำเนินการมาตลอดทางกลุ่ม นปช.จะใช้เส้นทางเพชรบุรีตัดใหม่ ผ่านถนนหลานหลวง เข้าราชดำเนินกลาง ส่วนการใช้กำลังดูแลนั้นใช้ตำรวจจราจร 600 นายดูแล ส่วนการดูแลผู้ชุมนุมกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ไม่ให้เกิดการปะทะตำรวจมีจัดกำลังดูแลไว้ส่วนหนึ่งเช่นกัน เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมในวันอาทิตย์นี้คาดว่าอยู่ที่หลักหมื่น

“เรื่องที่เป็นห่วงการดูแลความเรียบร้อยครั้งนี้ หากกลุ่มผู้ชุมนุมมาก อาจส่งผลกระทบหลายด้าน รวมถึงเกิดการกระทบกระทั่งขึ้น ทางตำรวจก็ต้องเข้าไปดูแลความสงบให้ดีที่สุด ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเรื่องการตั้งเวที เนื่องจากมีกลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งเวที อาจทำให้เกิดข้อครหาถึงความไม่เป็นกลางได้ แต่มีการชุมนุมที่เกินขอบเขตกฎหมายตำรวจต้องปฏิบัติการเข้าดำเนินการตามกฎหมายทันที และขอร้องไม่ให้มีการชุมนุมที่ยืดเยื้อ ตำรวจต้องปฏิบัติตัวเป็นกลางเพราะตำรวจเป็นกลไกหลักในการทำงาน เพื่อใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และขอยืนยันว่า ตำรวจต้องวางตัวเป็นกลาง” พล.ต.อ.วิเชียร กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก บช.น.และโฆษก บช.น.กล่าวว่า จะมีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 13.00 น.โดยรวมตัวที่บริเวณแยกราชประสงค์ จากนั้นเคลื่อนขบวนมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผ่านถนนเพชรบุรี หลานหลวง เข้าราชดำเนินกลาง และจะตั้งเวทีที่บริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หันหน้าไปทางแยกคอกวัว คาดว่า จะทำกิจกรรมถึงเวลา 24.00 น.สำหรับสิ่งที่ ผบ.ตร.เป็นห่วงคือ การเคลื่อนขบวนอาจมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยก่อเหตุ ทางตำรวจจะเข้าดูรักษาความสงบ เพื่อดูแลขบวนไม่ให้เกิดการปะทะกัน

“สำหรับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในวันอังคารที่ 25 ม.ค.จะมีการตั้งเวทีบริเวณสะพานมัฆวาน หันหน้ามาทางแยกสวนมิสกวัน โดยใช้ถนนราชดำเนินนอก เป็นที่ชุมนุม ผบ.ตร.ก็เป็นห่วงสถานที่ราชการที่ใกล้เคียง เช่น ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ตำรวจจะต้องดำรงเส้นทางเข้าออกให้ได้ไม่มีการปิดล้อม และปิดการจราจร และเน้นป้องกันการกระทบกระทั่งเช่นกัน วันอาทิตย์ที่ 23 ม.ค.ตำรวจใช้กำลัง 7 กองร้อย และเจ้าหน้าที่จราจร สายตรวจ ส่วนวันอังคารที่ 25 ม.ค.ตำรวจเตรียมกำลังไว้ 11 กองร้อย พร้อมประสานตำรวจภูธร 1, 2, 7 เข้ามาช่วยเสริมการปฏิบัติหากมีเหตุฉุกเฉิน” โฆษก บช.น.กล่าว