“กอร์ปศักดิ์” นัดรองเลขาฯ นายกฯ ฝ่ายการเมือง รรท.ผบ.ตร. ผบช.ส. ผบช.น. ผบก.191 ถกรักษาความปลอดภัยทำเนียบประชุม “ธานี” เผยเรียกคุยปกติ “ตรีทศ” ยันไม่ปรับเปลี่ยนแผน รปภ.นายกฯ เตรียมปรับให้เข้าสู่ระบบสากลมากขึ้น ยันตำรวจทำงานร่วมทหารได้ ไร้ปัญหา
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าชั้นปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อมอบนโยบายและซักซ้อมการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมืองในฐานะรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ ผู้บังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.191) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ธานี เปิดเผยผลการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมตามปกติ เป็นการเรียกหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการรักษาความปลอดภัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาสอบถามถึงผลการดำเนินงาน ความคืบหน้า และปัญหาในการปฏิบัติงาน รวมไปถึงการกำหนดแผนงานในการอารักขาบุคคลสำคัญ ส่วนความคืบหน้าคดีการปาสิ่งปฏิกูลเข้าบ้านนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องไปถามกับทาง ผบช.น. ทั้งนี้ไม่มีการปรับเปลี่ยนดูแลหน่วยรักษาความปลอดภัยนายกฯ
ขณะที่ พล.ต.ท.ตรีทศ ระบุว่า เป็นการซักซ้อมความเข้าใจตำรวจทุกหน่วยที่ต้องดูแลความปลอดภัยนายกฯ เนื่องจากมีเหตุลอบปาสิ่งปฏิกูลเข้าบ้านนายกฯ ฉะนั้นจึงมีหลายหน่วยงานเข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการรักษาความปลอดภัยนายกฯ ซึ่งรูปแบบจะทำให้มีลักษณะสากลไปสู่เวทีต่างประเทศทำให้เป็นที่ยอมรับ ขณะที่ชุดรักษาความปลอดภัยนายกฯก็ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน และไม่ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ขึ้นแต่อย่างใด โดยผสมการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มฮาร์ดคอร์จะเข้ามาสร้างความรุนแรงนั้น ไม่เกี่ยวข้องกันคนละเรื่อง เราต้องดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่ที่นายกฯเดินทางไป โดยต้องกำหนดตัวบุคคลที่รับผิดชอบให้ชัดเจนขึ้นวางกรอบให้ทุกหน่วยสามารถปฏิบัติการได้ ส่วนเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแลอยู่แล้ว ในสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ นั้น เจ้าหน้าที่จะต้องดูแลในพื้นที่ที่ผู้นำประเทศเดินทางไปที่ไหนก็ต้องดูแลให้ ความปลอดภัยอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การดูแลพื้นที่ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนทีมรปภ.นายกฯ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวว่า ไม่เปลี่ยนทีมรปภ.นายกฯก็เหมือนเดิม เมื่อถามว่า จะเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยนายกฯหรือไม่ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวว่า จะเพิ่มยอดเท่าไหร่ตนไม่สามารถบอกได้ แต่ทุกหน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่มีลักษณะค่อนข้างชัดเจน แบ่งหน้าที่กันชัดเจน เมื่อถามว่า ช่วงเฝ้าระวังจะต้องดูแลในส่วนไหนเป็นพิเศษ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ฝ่ายข่าว เมื่อถามว่า ด้านการข่าวมีรายงานถึงลักษณะในการทำร้ายนายกฯหรือไม่ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าขณะนี้ไม่ว่าผู้นำประเทศไหน สังคมโลกเปลี่ยนไป แนวความคิดของประชาชนก็เปลี่ยนไป ฉะนั้นต้องดูแลให้เรียบร้อย เมื่อถามว่าหมายความว่านายกฯ อยู่ในภาวะที่ไม่ปลอดภัยใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ อย่าตั้งคำถามแบบนี้ จริงๆ แล้วนายกฯ ของเราต้องปลอดภัยอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของตำรวจสันติบาลจำเป็นต้องสรุปสถานการณ์เป็นระยะหรือไม่ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องปรับงานด้านการข่าว เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ทางเลขาธิการนายกฯ กำชับให้ดูแลในส่วนใดเป็นพิเศษ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวว่า ไม่มี เพียงแต่ขอให้ทุกหน่วยประสานงานทำความเข้าใจกัน ทุกหน่วยมีความพร้อมหมด ทั้งตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังยืนยันว่าสามารถทำงานร่วมกันได้ ปรับแผนพูดคุยตกลงกันให้ชัดเจนเท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ต้องขันนอตเป็นเพราะว่าตำรวจบางส่วนเกียร์ว่างหรือไม่ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวว่า เลขาฯ นายกฯ ไม่เคยพูดอย่างนี้ นายกอร์ปศักดิ์เข้าใจว่าหน้าที่ของแต่ละหน่วยมีองค์ที่รับผิดชอบ เพียงแต่ต้องการความชัดเจนในความรับผิดชอบเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่คนใดเลย แต่เป็นเรื่องขององค์กร
เมื่อถามว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาความปลอดภัยนายกฯ ส่วนใหญ่เป็นทหาร พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวปฏิเสธว่าไม่ใช่ ต้องเข้าใจว่าเป็นแผนการรักษาความปลอดภัย มีทั้งทหาร ตำรวจดูแลอย่างเป็นระบบ ไม่อยากให้แบ่งว่าชั้นนี้เป็นของฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ ทุกหน่วยประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ไม่มีปัญหาระหว่างทหารกับตำรวจ ยืนยันว่าไม่มี เมื่อถามด้านการข่าวมีอะไรต้องพึงระวังหรือไม่ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวว่าเรื่องการข่าวเป็นเรื่องของความลับ เรื่องบางอย่างพูดได้ก็จะพูด พูดไม่ได้ก็เป็นชั้นความลับ เมื่อถามว่า การรายงานสถานการณ์จะต้องขึ้นตรงกับทางเลขาธิการนายกฯหรือไม่ พล.ต.ท.ตรีทศ กล่าวว่า มีระบบของมันอยู่แล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ ผบก.191 เปิดเผยว่า ที่ประชุมวันนี้เป็นการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาความปลอดภัยนายกฯ มาสอบถามถึงการดำเนินงานว่าทำอะไรไปบ้าง เพื่อช่วยเหลือด้านงบประมาณ นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังสอบถามถึงปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ รวมไปถึงเรื่องงบประมาณว่ามีปัญหาขาดแคลนในส่วนไหนบ้าง