เป็นการเคลื่อนไหวที่เห็นชัดว่า นี่คือสงครามย่อยๆ ของ "ทุนสามานย์-เสื้อแดง" ที่ต้องการดิสเครดิตว่า"ทุนเก่า" อย่าง กัลยาณี มล.ตรีทศยุทธ และ ธนาคารกรุงเทพ ของชาตรี โสภณพนิช ซึ่งทั้งหมดล้วนคือทุนเก่าที่ขนาบข้าง พลเอกเปรม ในนาม คณะ11
การปูดเรื่อง “เช็คเงินสด” สั่งจ่ายเข้าบัญชี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี จากบุคคลที่เป็นนักธุรกิจ ซึ่งแวดวงการเมืองเรียกขานกันว่า
**“คณะ 11”
เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมหยุด แสดงให้เห็นชัดว่าวันนี้ เสื้อแดง-นปช. ยังไล่ขยี้ พลเอกเปรม ศัตรูการเมืองหมายเลข 1 ของทักษิณ ชินวัตร และเสื้อแดง
**ต้องโค่นพลเอกเปรมลงให้ได้ ชนิดดับเครื่องชน เอากันให้ตายไปข้าง
แม้วันนี้แกนนำนปช.-เสื้อแดง ประกาศว่าจะไม่นัดชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพมหานครก่อนวันที่ 26 ก.พ. 53 นัยว่าเพื่อไม่ให้คนเสื้อแดงถูกมองว่าเคลื่อนไหวเพื่อกดดันการตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดียึดทรัพย์ นช.ทักษิณ ชินวัตร เจ้านายใหญ่ของพวกเสื้อแดง
บนข่าวลึกๆ เล่าสู่กันฟังมาว่า ที่ไม่นัดชุมนุมใหญ่เพราะปัจจัยหลายอย่างมันไม่พร้อม หลังเช็คข่าวทุกทางแล้ว วันนี้หากเป่านกหวีดเมื่อไหร่ ไอ้ที่คุยกันว่ามาเป็นล้าน เป็นแสน ถึงเวลาจริงๆ เต็มที่เข็นกันจริงๆไม่เกินสองหมื่น เพราะวันนี้กำลังโดนบล็อกเกือบทุกทาง บนการประสานแบบผนึกกำลังกันเต็มที่ ของรัฐบาล-กองทัพ-ตำรวจ
ผนวกกับนช.ทักษิณ ไม่ต้องการรอเกมยาวนัดชุมนุมยืดเยื้อเป็นสิบวัน ก่อนจะถึง 26 ก.พ. สู้รอรู้ผลคดียึดทรัพย์ก่อน แล้วค่อยว่ากันทีเดียวไปเลย
**เมื่อภารกิจใหญ่ยังต้องรอไปก่อน แต่ให้การป่วนชาติยังดำเนินต่อไป ขบวนการคน
เสื้อแดงจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพลเอกเปรม
**ชนิดทิ่มทุกดอก ล่อทุกเม็ด
ซึ่งแม้รั้วบ้านสี่เสาฯ จะแข็งแกร่งเพราะเป็นปูนคอนกรีตเสริมใยเหล็กอย่างดี ทว่าโดนหนักๆ หลายทีไม่แน่อาจมีปูนร้าวในอนาคต หากไม่รีบจัดการโดยเร็ว และสิ่งที่แลเห็นชัดในภารกิจ
**ขุดเช็คมาแฉ ของเสื้อแดงครั้งนี้ ก็คือการเอาคืนของ“ทุนสามานย์” กับ “ทุนเก่า”
ซึ่ง “ทุนสามานย์” ก็คือ ทุนในระบอบทักษิณ ที่เติบโตจากธุรกิจสัมปทาน และการใช้อำนาจรัฐ และการเมืองเพื่อสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจของตัวเอง และพวกพ้อง จึงทำให้ร่ำรวยแบบพรวดพราดแค่ 4-5 ปี ที่อยู่ในอำนาจการเมืองมีทรัพย์สินเพิ่มหลายแสนล้านบาท
ส่วน “ทุนเก่า” เป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ใช้ระบบปลูกฝังขุมข่ายเพื่อสร้างคอนเน็คชั่นทางธุรกิจและการเมือง กับระบบอำนาจแบบเก่า คือพวกนักการเมือง ทหาร และอดีตข้าราชการประจำระดับสูง หรือที่เรียกกันว่า “กลุ่มอำมาตย์” ที่ยังคงมีอำนาจอยู่ในปัจจุบัน
**และฝ่ายทักษิณเห็นว่า กลุ่มทุนเก่า เป็นกองกำลังสำคัญในการค้ำยันให้ พลเอก เปรม ยังยิ่งใหญ่อยู่ได้ เป็นบุคคลที่มากบารมีทางการเมือง และกองทัพ และส่งผลในการสร้างความมั่นคงทางการเมืองให้กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไปด้วย
**“ทุนสามานย์” ดิสเครดิต “ทุนเก่า” จึงต้องเกิดขึ้น ควบคู่ไปกับแผนการล้มบ้านสี่เสาฯ-เขย่าเก้าอี้อภิสิทธิ์นับจากนี้ !
เหตุที่ทีมข่าวการเมืองเราเชื่อเช่นนี้ ก็เพราะพิจารณาเห็นแผนการของเสื้อแดงในตอนนี้ แล้วมันเข้าเค้า เพราะไอ้เรื่องเสื้อแดงออกมาไล่ถล่ม “ป๋าเปรม” ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมาย แต่การเล่นเอาเรื่องเงินทำบุญ ของ กัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานกรรมการบริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล ที่ร่วมบริจาคสร้างอาคารภายในวัดสวนแก้ว จากนั้นก็ไปขุดเช็คที่สั่งจ่ายให้ “ป๋าเปรม” ตามมาอีกสามฉบับ คิดเป็นเงิน 2.7 ล้านบาท
ตามด้วยเรื่องการตัดถนนเลียบชาดหาดหน้าโรงแรมหรูห้าดาว ที่หาดกะรน จังหวัดภูเก็ต ของ มล.ตรีทศยุทธ เทวกุล และการเปิดโรงเรียนนานาชาติ เปรม ติณสูลานนท์ ของ มล.ตรีทศยุทธ ที่แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่เสื้อแดงตั้งข้อสังเกตว่า ไฉน มล.ตรีทศยุทธ เจ้าของเงินทำไมไม่ยอมใช้ชื่อตัวเองตั้งชื่อโรงเรียน
อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากแกนนำ นปช. ว่าเรื่องการออกมาเปิดเผยสายสัมพันธ์พลเอกเปรม กับนักธุรกิจคนใกล้ชิดต่างๆ ยังไม่หมดแค่นี้ จะตามมาอีกระลอก พร้อมกับดาวกระจายไปยังที่ทำการของ “ทุนเก่า” เช่นหน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ถนนสีลม ในวันที่ 19 ก.พ.
**เป็นการเคลื่อนไหวที่เห็นชัดว่า นี่คือสงครามย่อยๆ ของ"ทุนสามานย์-เสื้อแดง” ที่ต้องการดิสเครดิตว่า”ทุนเก่า” อย่าง กัลยาณี มล.ตรีทศยุทธ และ ธนาคารกรุงเทพ ของชาตรี โสภณพนิช ซึ่งทั้งหมดล้วนคือทุนเก่าที่ขนาบข้าง พลเอกเปรม ในนาม คณะ 11
อันเป็น คณะ 11 ที่ประกอบไปด้วย 1. พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ 2. นพ.ประสพ รัตนากร อดีตสมาชิกวุฒิสภา และประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ เพื่อนซี้ป๋าเปรมหลายสิบปี 3. ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย เจ้าของโรงแรมในเครือดุสิตธานี แม่ยาย พีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม
4. ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เทวา สตูดิโอ จำกัด เจ้าของโรงแรมเลอเมริเดียน หาดกะรน ภูเก็ต อดีต ส.ว. ยุคแต่งตั้ง และสถาปนิกชื่อดังในอดีต ผู้ออกแบบอาคารสูงหลายสิบชั้นในกทม. อาทิ อาคารตรีทศ สามตึกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านเจริญนคร
**5. ชาตรี โสภณพนิช บิ๊กบอส แบงก์กรุงเทพ ที่พลเอกเปรม เป็นประธานที่ปรึกษา 6. ดิลก มหาดำรงกุล ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ บริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของกิจการนำเข้า ส่งออกหลายอย่างแต่ดังสุดคือฉายา “เสี่ยมิโด” มีหลานสาวเป็นสาวสังคมไฮโซชื่อดัง เกรซ มหาดำรงกุล ในทางการเมืองนามนี้เป็นอดีต ส.ว.หลายสมัย ล่าสุดได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหลัง คมช.ทำรัฐประหาร 19 ก.ย.49
เช่นเดียวกับ 7. พลเรือเอกประเจตน์ ศิริเดช อดีต ผบ.ทร. ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น สนช.ยุคเดียวกัน สำหรับประเจตน์ยังเป็นกรรมการมูลนิธิรัฐบุรุษด้วยเช่นกัน 8. กัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานกรรมการบริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล ดีลเลอร์รถยนต์ยักษ์ใหญ่ ที่มีลูกชายเป็นนักการเมืองค่ายวังพญานาค ของพินิจ จารุสมบัติ คือ วัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งไม่มีใครไม่รู้จัก
9. ร.ต.ท.ฉัตรชัย บุญยะอนันต์ อดีตดีดีการบินไทยยุคบุกเบิก และอดีต ส.ว.ยุคแต่งตั้ง 10. ยงศักดิ์ คณาธนะวนิชย์ ประธานกลุ่มบริษัทแหลมทองสหการ 11.วีระ รมยะรูป อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ ยุคบุกเบิกตั้งแต่สมัย ชิน โสภณพนิช ยังนำทัพแบงก์บัวหลวง
ดูจากรายชื่อ คณะ11 จะพบว่า แม้เวลานี้หลายคนจะวางมือจากธุรกิจปล่อยให้ลูกหลานดูแลธุรกิจแทนแล้ว แต่ธุรกิจของกลุ่มบุคคลข้างต้น ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญชนิดเรียกได้ว่าเป็น ลีดเดอร์-หัวแถว อันดับต้นๆ ในธุรกิจ-อุตสาหกรรม แต่ละแขนง
ทั้งธนาคาร-โรงแรม-รถยนต์-อสังหาริมทรัพย์-นำเข้าส่งออก-สินค้าแปรรูปทางการเกษตร แถมยังแตกหน่อขยายการลงทุนออกไปในไลน์อื่นๆ ทั้งการเป็นเจ้าของโดยตรง และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จนกลายเป็น
**”ทุนเก่าข้ามทุนใหม่”
ด้วยฝีมือของคนในคณะ 11 และลูกหลาน จึงทำให้บุคคลใน คณะ 11 มีบทบาทสำคัญยิ่งในแวดวงธุรกิจการเมือง โดยเฉพาะเมื่อได้บารมีของ“ป๋าเปรม” มาเสริมอยู่ทั้งหน้าฉากและหลังฉาก ก็ทำให้กลุ่ม 11 ถูกจับตามองมาตลอดนับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการยุคแรกๆ บนการรายงานข่าวของสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ว่า
**คณะ 11 นัดรวมตัวกันครั้งล่าสุดเมื่อ 18 มีนาคม 2552 โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด อันเป็นช่วงที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมามีอำนาจแล้ว
ซึ่งนัดหมายของคณะ 11 วันดังกล่าว นอกจากพลเอกเปรม ที่มาเป็นประธานในงานดังกล่าวแล้ว กลุ่ม 11 ส่วนใหญ่วัยล่วงเลย 70 ไปแล้ว เดินทางมาร่วมงานโดยพร้อมเพียง อาทิ ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ชาตรี โสภณพนิช รวมถึงคนที่กำลังตกเป็นข่าวนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์
หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวว่า คณะ 11 มีการนัดหมายพบปะกันอีกหรือไม่ แต่ไม่แน่หลังจากโดนเสื้อแดงออกมาเล่นเกมดิสเครดิตแบบนี้ไม่มีหยุด ตอนนี้บรรดา คณะ 11 อาจนัดหมายเจอกันแล้วในเร็วๆนี้ หรืออาจส่งตัวแทนไปเข้าพบ พลเอกเปรม ที่บ้านสี่เสาฯ เพื่อให้กำลังใจ
**ป๋าสู้ๆ
การปูดเรื่อง “เช็คเงินสด” สั่งจ่ายเข้าบัญชี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี จากบุคคลที่เป็นนักธุรกิจ ซึ่งแวดวงการเมืองเรียกขานกันว่า
**“คณะ 11”
เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมหยุด แสดงให้เห็นชัดว่าวันนี้ เสื้อแดง-นปช. ยังไล่ขยี้ พลเอกเปรม ศัตรูการเมืองหมายเลข 1 ของทักษิณ ชินวัตร และเสื้อแดง
**ต้องโค่นพลเอกเปรมลงให้ได้ ชนิดดับเครื่องชน เอากันให้ตายไปข้าง
แม้วันนี้แกนนำนปช.-เสื้อแดง ประกาศว่าจะไม่นัดชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพมหานครก่อนวันที่ 26 ก.พ. 53 นัยว่าเพื่อไม่ให้คนเสื้อแดงถูกมองว่าเคลื่อนไหวเพื่อกดดันการตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดียึดทรัพย์ นช.ทักษิณ ชินวัตร เจ้านายใหญ่ของพวกเสื้อแดง
บนข่าวลึกๆ เล่าสู่กันฟังมาว่า ที่ไม่นัดชุมนุมใหญ่เพราะปัจจัยหลายอย่างมันไม่พร้อม หลังเช็คข่าวทุกทางแล้ว วันนี้หากเป่านกหวีดเมื่อไหร่ ไอ้ที่คุยกันว่ามาเป็นล้าน เป็นแสน ถึงเวลาจริงๆ เต็มที่เข็นกันจริงๆไม่เกินสองหมื่น เพราะวันนี้กำลังโดนบล็อกเกือบทุกทาง บนการประสานแบบผนึกกำลังกันเต็มที่ ของรัฐบาล-กองทัพ-ตำรวจ
ผนวกกับนช.ทักษิณ ไม่ต้องการรอเกมยาวนัดชุมนุมยืดเยื้อเป็นสิบวัน ก่อนจะถึง 26 ก.พ. สู้รอรู้ผลคดียึดทรัพย์ก่อน แล้วค่อยว่ากันทีเดียวไปเลย
**เมื่อภารกิจใหญ่ยังต้องรอไปก่อน แต่ให้การป่วนชาติยังดำเนินต่อไป ขบวนการคน
เสื้อแดงจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ ของพลเอกเปรม
**ชนิดทิ่มทุกดอก ล่อทุกเม็ด
ซึ่งแม้รั้วบ้านสี่เสาฯ จะแข็งแกร่งเพราะเป็นปูนคอนกรีตเสริมใยเหล็กอย่างดี ทว่าโดนหนักๆ หลายทีไม่แน่อาจมีปูนร้าวในอนาคต หากไม่รีบจัดการโดยเร็ว และสิ่งที่แลเห็นชัดในภารกิจ
**ขุดเช็คมาแฉ ของเสื้อแดงครั้งนี้ ก็คือการเอาคืนของ“ทุนสามานย์” กับ “ทุนเก่า”
ซึ่ง “ทุนสามานย์” ก็คือ ทุนในระบอบทักษิณ ที่เติบโตจากธุรกิจสัมปทาน และการใช้อำนาจรัฐ และการเมืองเพื่อสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจของตัวเอง และพวกพ้อง จึงทำให้ร่ำรวยแบบพรวดพราดแค่ 4-5 ปี ที่อยู่ในอำนาจการเมืองมีทรัพย์สินเพิ่มหลายแสนล้านบาท
ส่วน “ทุนเก่า” เป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ใช้ระบบปลูกฝังขุมข่ายเพื่อสร้างคอนเน็คชั่นทางธุรกิจและการเมือง กับระบบอำนาจแบบเก่า คือพวกนักการเมือง ทหาร และอดีตข้าราชการประจำระดับสูง หรือที่เรียกกันว่า “กลุ่มอำมาตย์” ที่ยังคงมีอำนาจอยู่ในปัจจุบัน
**และฝ่ายทักษิณเห็นว่า กลุ่มทุนเก่า เป็นกองกำลังสำคัญในการค้ำยันให้ พลเอก เปรม ยังยิ่งใหญ่อยู่ได้ เป็นบุคคลที่มากบารมีทางการเมือง และกองทัพ และส่งผลในการสร้างความมั่นคงทางการเมืองให้กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไปด้วย
**“ทุนสามานย์” ดิสเครดิต “ทุนเก่า” จึงต้องเกิดขึ้น ควบคู่ไปกับแผนการล้มบ้านสี่เสาฯ-เขย่าเก้าอี้อภิสิทธิ์นับจากนี้ !
เหตุที่ทีมข่าวการเมืองเราเชื่อเช่นนี้ ก็เพราะพิจารณาเห็นแผนการของเสื้อแดงในตอนนี้ แล้วมันเข้าเค้า เพราะไอ้เรื่องเสื้อแดงออกมาไล่ถล่ม “ป๋าเปรม” ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมาย แต่การเล่นเอาเรื่องเงินทำบุญ ของ กัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานกรรมการบริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล ที่ร่วมบริจาคสร้างอาคารภายในวัดสวนแก้ว จากนั้นก็ไปขุดเช็คที่สั่งจ่ายให้ “ป๋าเปรม” ตามมาอีกสามฉบับ คิดเป็นเงิน 2.7 ล้านบาท
ตามด้วยเรื่องการตัดถนนเลียบชาดหาดหน้าโรงแรมหรูห้าดาว ที่หาดกะรน จังหวัดภูเก็ต ของ มล.ตรีทศยุทธ เทวกุล และการเปิดโรงเรียนนานาชาติ เปรม ติณสูลานนท์ ของ มล.ตรีทศยุทธ ที่แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่เสื้อแดงตั้งข้อสังเกตว่า ไฉน มล.ตรีทศยุทธ เจ้าของเงินทำไมไม่ยอมใช้ชื่อตัวเองตั้งชื่อโรงเรียน
อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากแกนนำ นปช. ว่าเรื่องการออกมาเปิดเผยสายสัมพันธ์พลเอกเปรม กับนักธุรกิจคนใกล้ชิดต่างๆ ยังไม่หมดแค่นี้ จะตามมาอีกระลอก พร้อมกับดาวกระจายไปยังที่ทำการของ “ทุนเก่า” เช่นหน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ถนนสีลม ในวันที่ 19 ก.พ.
**เป็นการเคลื่อนไหวที่เห็นชัดว่า นี่คือสงครามย่อยๆ ของ"ทุนสามานย์-เสื้อแดง” ที่ต้องการดิสเครดิตว่า”ทุนเก่า” อย่าง กัลยาณี มล.ตรีทศยุทธ และ ธนาคารกรุงเทพ ของชาตรี โสภณพนิช ซึ่งทั้งหมดล้วนคือทุนเก่าที่ขนาบข้าง พลเอกเปรม ในนาม คณะ 11
อันเป็น คณะ 11 ที่ประกอบไปด้วย 1. พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ 2. นพ.ประสพ รัตนากร อดีตสมาชิกวุฒิสภา และประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ เพื่อนซี้ป๋าเปรมหลายสิบปี 3. ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย เจ้าของโรงแรมในเครือดุสิตธานี แม่ยาย พีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม
4. ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เทวา สตูดิโอ จำกัด เจ้าของโรงแรมเลอเมริเดียน หาดกะรน ภูเก็ต อดีต ส.ว. ยุคแต่งตั้ง และสถาปนิกชื่อดังในอดีต ผู้ออกแบบอาคารสูงหลายสิบชั้นในกทม. อาทิ อาคารตรีทศ สามตึกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านเจริญนคร
**5. ชาตรี โสภณพนิช บิ๊กบอส แบงก์กรุงเทพ ที่พลเอกเปรม เป็นประธานที่ปรึกษา 6. ดิลก มหาดำรงกุล ประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ บริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของกิจการนำเข้า ส่งออกหลายอย่างแต่ดังสุดคือฉายา “เสี่ยมิโด” มีหลานสาวเป็นสาวสังคมไฮโซชื่อดัง เกรซ มหาดำรงกุล ในทางการเมืองนามนี้เป็นอดีต ส.ว.หลายสมัย ล่าสุดได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหลัง คมช.ทำรัฐประหาร 19 ก.ย.49
เช่นเดียวกับ 7. พลเรือเอกประเจตน์ ศิริเดช อดีต ผบ.ทร. ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น สนช.ยุคเดียวกัน สำหรับประเจตน์ยังเป็นกรรมการมูลนิธิรัฐบุรุษด้วยเช่นกัน 8. กัลยาณี พรรณเชษฐ์ ประธานกรรมการบริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล ดีลเลอร์รถยนต์ยักษ์ใหญ่ ที่มีลูกชายเป็นนักการเมืองค่ายวังพญานาค ของพินิจ จารุสมบัติ คือ วัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งไม่มีใครไม่รู้จัก
9. ร.ต.ท.ฉัตรชัย บุญยะอนันต์ อดีตดีดีการบินไทยยุคบุกเบิก และอดีต ส.ว.ยุคแต่งตั้ง 10. ยงศักดิ์ คณาธนะวนิชย์ ประธานกลุ่มบริษัทแหลมทองสหการ 11.วีระ รมยะรูป อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ ยุคบุกเบิกตั้งแต่สมัย ชิน โสภณพนิช ยังนำทัพแบงก์บัวหลวง
ดูจากรายชื่อ คณะ11 จะพบว่า แม้เวลานี้หลายคนจะวางมือจากธุรกิจปล่อยให้ลูกหลานดูแลธุรกิจแทนแล้ว แต่ธุรกิจของกลุ่มบุคคลข้างต้น ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญชนิดเรียกได้ว่าเป็น ลีดเดอร์-หัวแถว อันดับต้นๆ ในธุรกิจ-อุตสาหกรรม แต่ละแขนง
ทั้งธนาคาร-โรงแรม-รถยนต์-อสังหาริมทรัพย์-นำเข้าส่งออก-สินค้าแปรรูปทางการเกษตร แถมยังแตกหน่อขยายการลงทุนออกไปในไลน์อื่นๆ ทั้งการเป็นเจ้าของโดยตรง และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จนกลายเป็น
**”ทุนเก่าข้ามทุนใหม่”
ด้วยฝีมือของคนในคณะ 11 และลูกหลาน จึงทำให้บุคคลใน คณะ 11 มีบทบาทสำคัญยิ่งในแวดวงธุรกิจการเมือง โดยเฉพาะเมื่อได้บารมีของ“ป๋าเปรม” มาเสริมอยู่ทั้งหน้าฉากและหลังฉาก ก็ทำให้กลุ่ม 11 ถูกจับตามองมาตลอดนับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการยุคแรกๆ บนการรายงานข่าวของสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ว่า
**คณะ 11 นัดรวมตัวกันครั้งล่าสุดเมื่อ 18 มีนาคม 2552 โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด อันเป็นช่วงที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมามีอำนาจแล้ว
ซึ่งนัดหมายของคณะ 11 วันดังกล่าว นอกจากพลเอกเปรม ที่มาเป็นประธานในงานดังกล่าวแล้ว กลุ่ม 11 ส่วนใหญ่วัยล่วงเลย 70 ไปแล้ว เดินทางมาร่วมงานโดยพร้อมเพียง อาทิ ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ชาตรี โสภณพนิช รวมถึงคนที่กำลังตกเป็นข่าวนางกัลยาณี พรรณเชษฐ์
หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวว่า คณะ 11 มีการนัดหมายพบปะกันอีกหรือไม่ แต่ไม่แน่หลังจากโดนเสื้อแดงออกมาเล่นเกมดิสเครดิตแบบนี้ไม่มีหยุด ตอนนี้บรรดา คณะ 11 อาจนัดหมายเจอกันแล้วในเร็วๆนี้ หรืออาจส่งตัวแทนไปเข้าพบ พลเอกเปรม ที่บ้านสี่เสาฯ เพื่อให้กำลังใจ
**ป๋าสู้ๆ