“ประเกียรติ” แสนรู้ สาระแนแทน กกต.โชว์ข้อกฎหมาย สั่ง “อภิชาต” ตัดสินยุบประชาธิปัตย์ ซัดเจตนาบ่ายเบี่ยง จ่อให้ผู้ร้องเรียนฟ้องศาลอาญา มาตราสุดฮิต 157 สัปดาห์หน้า ด้าน “เด็จพี่” ตาร้อนเห็นรัฐมนตรี ปชป.โผล่ร่วมเปิดป้ายพรรคการเมืองใหม่ แขวะมิน่าล่ะคดีพันธมิตรฯ ถึงไม่คืบ จี้รีบฟัน
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานฝ่ายกฎหมาย แถลงถึงกรณีที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ตั้งคณะทำงานชุดใหม่เพื่อพิจารณากรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท จากบริษัท ทีพีไอ (มหาชน) จำกัด และการรับเงินอุดหนุนกองทุนพรรคการเมืองจำนวน 29 ล้านบาท เข้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลังจากนายทะเบียนพรรคการเมืองได้รับทราบข้อมูลการกระทำความผิดที่ชัดเจน จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งทราบจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วว่า การรับเงินบริจาคและเงินอุดหนุนจาก กกต.ของพรรคประชาธิปัตย์ดังกล่าว เข้าข่ายการกระทำตามมาตรา 94 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 ดังนั้น หน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมืองจะต้องทำตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่มีทางที่จะดำเนินการอย่างอื่นนอกจากรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นแจ้งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้การตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาเพื่อพิจารณานั้นแสดงเจตนาการบ่ายเบี่ยงอย่างชัดเจน ดังนั้น นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ร้องเรียนเรื่องทั้งหมดจะไปฟ้องศาลอาญาดำเนินคดีต่อนายอภิชาตในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในสัปดาห์หน้า
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่พรรคการเมืองทำพิธีเปิดป้ายที่ทำการพรรคอย่างเป็นทางการว่า ปรากฏมีบุคคลที่เคยเป็นแนวร่วมเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จำนวนมาก ซึ่งเห็นว่าไม่ใช่การมาแสดงความยินดีธรรมดา แต่มีนัยทางการเมืองที่ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้เคยเป็นแนวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ มาก่อน และเป็นบุคคลสำคัญในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เช่น คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รมว.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่า เหตุใดคดีความต่างๆ ของกลุ่มพันธมิตรฯ จึงไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆ ที่ผ่านมาแล้วปีกว่า สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มพันธมิตรฯ และรัฐบาลเป็นแนวร่วมเดียวกัน ขอเรียกร้องให้เร่งดำเนนคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว อย่าเป็นนายกฯ 2 มาตรฐาน