“สุเทพ” ไม่เล่นด้วย “สุรยุทธ์” เปิดทางเจรจา “แม้ว” หากมีเงื่อนไขล่วงหน้า ไม่ติดคุก หลุดพ้นมลทิน ขอคืนเงินอายัดไม่เอาด้วย เย้ย พท.โยงประธาน กกต.เพื่อนบิ๊ก ปชป. กล่าวหาสองมาตรฐานปล่อยผียุบพรรค แค่ละครเรียกคะนนสงสารชอบอ้างถูกรังแกเพราะเสียประโยชน์ ยันมั่นใจ ปชป.รอดเพราะเป็นเรื่องตัวบุคคลไม่เกี่ยวพรรค
วันนี้ (20 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกฯ ออกมาระบุอาจจะเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองว่า การเจรจาก็เป็นลู่ทางหนึ่งในทุกเรื่อง แต่สำคัญว่าจะเจรจาอย่างไร อย่างที่ตนเคยบอกแล้วว่าถ้าจะให้ตนไปเจรจาแล้วเกิดฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ มีข้อแม้ว่า 1.ต้องไม่ติดคุก 2.ต้องไม่ดำเนินคดีความใดๆ ทั้งสิ้น และ 3.ต้องคืนเงินทั้งหมดให้ แม้ว่าเงินนั้นจะได้ไปโดยไม่ถูกด้วยกฎหมาย แบบนี้ตนก็เจรจาด้วยไม่ได้ แต่ว่าบางทีคนอื่นเขาอาจจะมีเงื่อนไขดีกว่านี้ไปเจรจาดีกว่านี้ก็ลองดู
เมื่อถามว่า หากเงื่อนไขเป็นเพียงแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อให้ประชาชนตัดสินใหม่ ถือว่าจะยอมรับกันได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนว่าอย่าเพิ่งไปคาดการณ์เลย เพราะตนและประชาชนก็คาดได้ว่าอีกฝ่ายเขาต้องการอะไร ประเมินจากการเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วงของ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณพยายามหาทางจะต่อรอง หาทางเจรจา เพียงแต่ถ้าเงื่อนไขมันเป็นอย่างนั้นอย่างที่ตนบอกไปแล้วเราก็ทำยาก แต่ถ้าไม่ใช่เงื่อนไขที่เป็นอย่างนั้นก็ค่อยมาว่ากัน
นายสุเทพยังกล่าวถึงกรณีกระแสกดดันพุ่งเป้าไปที่ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าสองมาตรฐานส่อยกฟ้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนไม่อยากวิจารณ์ เพราะกกต.ยังทำงานอยู่ ต้องปล่อยให้ทำงานไป แต่ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคล ไม่ใช่เรื่องของพรรค ถ้ามีใครทำผิดหรือทำถูกก็ต้องเป็นเรื่องของบุคคลคนนั้น เมื่อถามว่าฝ่ายค้านระบุว่าประธาน กกต.มีสัมพันธ์ใกล้ชิดโยงใยกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นอย่างนั้น คนพยายามพูดจาให้เสียหาย กำลังทำลายระบบ รูปแบบการปกครองของบ้านเมืองของเราในทุกองค์กร มันไม่ใช่เลย ไม่ใช่ว่าพอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยก็บอกว่าสองมาตรฐาน หรือพอ กกต.ไม่ตัดสินยุบพรรคประชาธิปัตย์ก็บอกว่าสองมาตรฐาน อ้างไปอย่างนั้นเอง เพื่อทำให้เห็นว่าให้ตัวเองน่าสงสาร ถูกรังแก ที่จริงแล้วไม่ใช่
“ผมเนี่ยถูก กกต.เล่นงานมาแล้วเรื่องถือหุ้น ทั้งที่ซื้อหุ้นดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2538 ก่อนที่รัฐธรรมนูญปี 2550 จะใช้บังคับด้วยซ้ำไป แต่ผมก็ยอมรับไม่เห็นโวยวายอะไร แต่นี่พวกเขาไม่ได้ทำใจอย่างนั้น ถ้าอะไรที่เข้างตัวเองได้เป็นความถูกต้อง แต่ถ้าตัวเองเสียเป็นความผิด” นายสุเทพกล่าว เมื่อถามว่า เรื่องสองมาตรฐานจะไปเป็นปัจจัยกระตุ้นให้กระแสเสื้อแดงออกมายิ่งรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้ออะไรก็แล้วแต่ ต้องมีเหตุผล อย่าทำอะไรให้บ้านเมืองเสียหาย ออกมาทำให้วุ่นวายบ้านเมืองก็เสียหายขนาดไหน เราเห็นแล้วจากเหตุการณ์เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อย่าทำ