เวทีคอนเสิร์ตพันธมิตรฯ เพชรบุรี คึกคัก “มาลีรัตน์” ขึ้นเวทีแฉ “นช.แม้ว” ปลิ้นปล้อน เห็นดูไบกระเป๋าฉีก เตรียมแถเลียราชวงศ์อาบูดาบีต่อ ขณะที่ “สมเกียรติ” โยงพฤติกรรม 2 คู่หูทรราชมีสันดานคล้ายกัน ไล่ตั้งแต่มักใหญ่ใฝ่สูง ไปจนถึงมีโมเดลชั่วส่วนตัว ซัด เป็นพวก “ฝนตกขี้หมูไหล” เตือน พี่น้องพันธมิตรฯ อย่าไว้ใจใคร ให้ตั้งมั่นคุณงามความดี พร้อมร่วมปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นางมาลีรัตน์ แก้วก่า กล่าวปราศรัย
วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดงานคอนเสิร์ต เพื่อร่วมผสานพลังสร้างการเมืองใหม่ ซึ่งภายในงาน บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก บรรดาแกนนำพันธมิตรฯ ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 ต่างตบเท้าร่วมงานคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกสัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า นอกจากนี้ ยังมีแนวร่วมพันธมิตรฯ และสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมงานนี้ด้วย อาทิ นายสำราญ รอดเพชร นายประพันธ์ คูณมี
ด้าน เนื้อหาสาระการปราศรัยบนเวทีเป็นการกล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้พี่น้องพันธมิตรฯ ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง ในการเตรียมพร้อมต่อสู้เพื่อปกป้องชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ หลังจากที่คนชั่วเต็มบ้านเต็มเมือง จนต้องอาศัยพลังจากทุกคน มาร่วมกันต่อต้าน
ทั้งนี้ งานดังกล่าว ได้มีการศิลปินพันธมิตรฯ ในพื้นที่และส่วนกลาง มาร่วมมอบความบันเทิงให้แก่พี่น้องพันธมิตรฯ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและสนุกสนาน เพราะได้รับเสียงตอบรับและเสียงเชียร์เนื่องแน่น
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.นางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ขึ้นเวทีกล่าวว่า แทบไม่น่าเชื่อว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ ในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต์ ขณะนี้ จะต้องตกอยู่ในสภาพเลื่อนพักชำระหนี้สิ้น โดยเมื่อเกิดวิกฤตการณ์การเงินในนครดูไบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ จนเป็นเหตุให้ศาลอาญา แผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยึดนครดูไบ เป็นที่พำนักอยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้นี้ เตรียมชิงหนีไปประจบประแจงราชวงศ์อาบูดาบี เนื่องจากเวลานี้ นครดูไบหมดประโยชน์กับตัวเองแล้ว
นางมาลีรัตน์ กล่าวอีกว่า ประเด็นต่อไปที่ตนอยากจะกล่าว คือ การอนุมัติแบบสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งรวมมูลค่าทั้งหมด 16,000 ล้านบาท เพื่อเป็นสถานที่ทำงานของบรรดา ส.ส.ทั้งหลาย ทั้งนี้ แบบแปลนรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ชนะการประกวด สำหรับตนแล้วเหมือนเมรุเผาศพ อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ ขั้นตอนคัดเลือก ได้มีการเฟ้นจากทั้งหมด เพื่อให้เหลือแค่ 2 บริษัท จนได้แบบดังกล่าว โดยเฉือนเอาชนะด้วยเหตุผลที่ว่า แบบที่ชนะนี้ สามารถนำ ส.ส. เข้าสู่ห้องประชุมได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ซึ่งตนมองว่า เป็นเหตุผลที่ง่ายเกินไปในการพิจารณา นอกจากนี้ ยังทราบมาอีกว่า ต้องมีการจ่ายใต้โต๊ะเป็นเงิน 30 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยมูลค่าการก่อสร้างที่สูง ตนจะไม่เสียดาย หาก ส.ส. ที่จะเข้าไปทำงาน หัดทำหน้าที่ในสภาของตนอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เอาเวลารับใช้ประชาชน มัวแต่ไปหาเรื่องขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง
นางมาลีรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมประชุมกับหอการค้า โดยให้เหตุผลว่า ฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า เหตุการณ์ไม่ค่อยปลอดภัย อาจเกิดเหตุร้ายกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเหตุผลนี้ ตนก็เห็นใจ นายอภิสิทธิ์ เพราะใจคงอยากเดินทางไป แต่ในเมื่อฝ่ายความมั่นคงไม่เอาด้วย จึงทำอะไรลำบาก ทั้งนี้ ประเด็นนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรี ถูกตำหนิเรื่องภาวะความเป็นผู้นำ แต่ถึงอย่างไร ก็สมควรเดินทางไปในฐานะผู้นำประเทศ
เมื่อเวลา 23.25 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ และส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถือว่ามีลักษณะนิสัยที่คล้ายคลึงกัน โดยทั้งคู่มีโมเดลเป็นของตัวเอง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของ "ทักษิโณมิกส์ โมเดล" ส่วนทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นเจ้าของ "ฮุนเซน โมเดล" ทั้งนี้ ก่อนที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน จะยึดอำนาจทุกอย่างในกัมพูชาไว้ เป็นเพียงลูกชาวนาธรรมดา ไม่ได้มียศมีตำแหน่งอะไร ดังนั้น จึงพยายามถีบตัวเองขึ้นสูง ด้วยการยืมมือเวียดนาม มาก่อกบฏที่ประเทศตัวเอง จนทำให้ได้ชื่อว่าเป็นหุ่นเชิดให้เวียดนาม นอกจากนี้ ครั้งหนึ่งเคยเอ่ยปากขอ สมเด็จพระนโรดม สีหนุ กษัตริย์ของกัมพูชาว่า ให้ สมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของประเทศ หลังจากที่ตัวเองพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง เพราะชาวกัมพูชาขณะนั้นต่อต้านที่ไม่ให้ความเคารพสถาบันกษัติรย์เท่าที่ควร รวมทั้ง สมเด็จฯ ฮุนเซน เคยต่อรองขอยศตำแหน่งสูงๆ จากผู้เป็นกษัตริย์ถึง 2 ครั้ง จนมียศเต็มๆ เช่นปัจจุบันว่า สมเด็จอัครมหาเดโชฮุนเซน ทั้งนี้ ผู้นำกัมพูชาคนปัจจุบัน ได้ข่มขู่ว่า หากไม่ยอมแต่งตั้งยศสูงให้แก่ตัวเอง จะเปลี่ยนระบอบการปกครองประเทศใหม่ หลังจากกุมอำนาจทุกอย่างไว้ในมือทั้งหมดแล้ว
"สมเด็จฯ ฮุนเซน มีนิสัยโหดร้ายมาก โดยเฉพาะสิ่งที่เคยกระทำไว้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศตัวเอง ซึ่งการกระทำดังกล่าวพูดง่ายๆ คือ ต้องการยกฐานะตัวเองจากลูกชาวนาธรรมดา จ่อขึ้นเป็นกษัตริย์กัมพูชาองค์ต่อไป" นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถือว่าเชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน แต่เป็นพวกชำนาญในการใช้กลอุบายเพื่อหลอกลวงประชาชน และมีแนวคิดโค่นล้มสถาบัน ดังนั้น เมื่อมาคบกับ สมเด็จฯ ฮุนเซน จึงเข้าตำราสุภาษิตไทย ที่ว่า ฝนตกขี้หมูไหล.... นับว่าเป็นชะตากรรมที่น่าสงสาร ที่ต้องมาเจอะเจอ 2 ทรราชเช่นนี้ ดังนั้น ตนจึงถือว่า สงครามครั้งนี้ เดิมพันด้วยชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ ตนอยากฝากให้ทุกคนช่วยกันร่วมปกป้อง เพราะลำพังหวังพึ่งทหารที่ชอบเอางบประเทศไปซื้อรถถังคงไม่ได้ เพราะคนเหล่านี้ ไม่ยอมทำหน้าที่ให้สมกับเป็นทหารพระราชากับพระราชินี ฉะนั้น ตนอยากให้พันธมิตรฯ ภาคภูมิใจในตัวเองและเชื่อมั่นคุณนามความดี
"การที่หมอดูฟันธง ออกมาทำนายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมายิ่งใหญ่ ตนเห็นพูดเช่นนี้มาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้นจริง สิ่งเหล่านี้ เป็นเพียงให้กำลังใจคนผิด เพราะมีเดิมพันสูงเป็นเงินจำนวน 76,000 ล้านบาท ซึ่งผมอยากให้ทุกคน อย่าเพิ่งวางใจระบบตุลาการวิภัฒน์ เนื่องจาก ที่ผ่านมา เห็นได้ในหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีกล้ายางหรือหวยบนดิน ผมไม่เห็นจับมือใครดมได้ มีแต่โทษรอลงอาญาทั้งนั้น ดังนั้น ผมอยากย้ำว่า โปรดอย่าวางใจใครทั้งสิ้น นอกจากตัวเอง แต่ถึงอย่างไร เชื่อว่าอย่างไร ธรรมะต้องชนะอธรรมแน่นอน" นายสมเกียรติ กล่าว
