“คำนูณ” ปรบมือ รบ.โต้เขมรรายวัน ทำได้ดี แต่ดักคอ อย่าแผ่วปลายเหมือนช่วงสงกรานต์ เพราะงานนี้โยงถึงราชบัลลังก์ด้วย เผยชนวนเหตุ “นช.แม้ว” ดันเขมรขึ้นทะเบียนเขาวิหาร หวังตัดอุปสรรค์ปักหลักเขตุแดน เร่งนำไปสู่โครงการณ์ทางทะเล ที่ตกลงไว้แล้วใน เอ็มโอยู 44 ขณะที่ “ผศ.ดร.ณัฐฐา” เตือน รบ. อย่าเหลิงโผลชม แนะใช้สื่อให้ ชี้แจง ปชช.ต่อเนื่อง ถ้าไม่อยากให้เกิดรัฐโมเดล ด้าน “ศ.ดร.สุรชัย” แฉ “ฮุนเซน-นช.แม้ว” โกงจนได้เป็นนายกฯ ดังนั้นคนไทยที่สนับสนุนต้องทบทวน ย้ำ เอ็มโอยู ไม่ใช่สัญญา แก้ไขได้หากเห็นต่าง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “รู้ทันประเทศไทย”
รายการ “รู้ทันประเทศไทย” ออกอากาศทาง เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 18.30-20.00 น. สำหรับวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2552 ดำเนินรายการโดย นายสันติสุข มะโรงศรี ได้รับเกียรติจาก นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และศ.ดร.สุรชัย ศิริไกร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาธรรมศาสตร์ พร้อมด้วย ผศ.ดร.ณัฐฐา วินิจนัยภาค รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มาร่วมรู้ทันเกม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นายคำนูณ กล่าวว่าสำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีคำว่าบังเอิญทุกอย่างเป็นไปตามแผน ดูได้จากการส่งทวิตเตอร์ พูดในทำนองขอบคุณ กษัตริย์กัมพูชา พร้อมกับขอลาคนไทยไปรับใช้ประเทศกัมพูชา อ้างคนไทยไม่ให้ความสำคัญ ยศก็จะถอด สัญชาติก็จะริบ และหากริบความเป็นคนไทยได้คงริบไปแล้ว นั้น เป็นการสะท้อนจิตใต้สำนึกได้เป็นอย่างดี ว่า กำลังพูดประชดเสียดสี ตรงนี้หากมองให้ลึกลงไปแล้วตั้งคำถามในใจว่า แล้วใคร มีอำนาจในการถอดยศ แม้ในเบื้องต้นจะเป็นหน้าที่ของ หน่วยราชการที่จะส่งเรื่องไป แต่ท้ายที่สุดก็ตกอยู่ที่พระราชอำนาจ นิสัยของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนช่างคิดช่างแค้น คำพูดผ่านไทม์ ออนไลน์ ที่บอกว่า เห็นไหมไม่เห็นค่าตน ตนก็มีค่าในสายตากษัตริย์ที่อื่น ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก คำพูดอย่างนี้ ไม่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะคิดอย่างไร แต่คนจำนวนหนึ่ง อดคิดไม่ได้ว่า กำลังประชดเบื้องสูง
"จะถูกผิดอย่างไม่รู้ แต่สำคนที่ชอบวิเคราะห์ในคำพูดอย่างตน ทำให้เกิดข้อสงสัย ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังคิดถึง ฮุนเซนโมเดล เพราะการขึ้นเป็นโมเดล ของฮุนเซน คือ1.ใช้กองกำลังต่างชาติ 2.ใช้วิธีการโค่นล้ม จัดการเอาพระมหากษัตริย์ที่ครอบงำไม่ได้ออก แล้วก็เชิดเจ้านายที่คิดครอบงำได้เป็นกษัตริย์แทน 3.ให้กษัตริย์ที่ตัวเองครอบงำได้นั้น แต่งตั้งให้ตัวเอง เป็นเจ้า" นายคำนูณ กล่าว
ศ.ดร.สุรชัย กล่าวถึงวิธีการรวบอำนาจของ ฮุนเซน ว่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก 1.ฮุนเซน ได้อำนาจเพราะกองทัพต่างชาติ แม้จะมีการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งครั้งแรกใน ค.ศง 1993 พรรค CPPของฮุนเซน ได้คะแนนเป็นอันดับสอง แต่ฮุนเซน ไม่ยอมรับให้ ทำให้ สมเด็จเจ้านโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์กัมพูชา ต้องแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีถึงสองคน ต่อมามีการเลือกตั้งครั้งที่สอง ในปี 1998 ฮุนเซน ก็เล่นแง่คิดปฏิวัติ จะจับตัว เจ้ารณฤทธิ์ โดยกล่าวหาว่าเป็นกบฎ ทำให้เจ้ารณฤทธิ์ ต้องหลบหนีไปต่างประเทศ จากนั้นการเลือกตั้งในครั้งต่อๆมา ฮุนเซน จะใช้เทคนิคปูทางสู่อำนาจ ในการเลือกตั้ง ด้วยการขว้างระเบิด สังหารผู้นำฝ่ายตรงข้าม ใช้เงินซื้อตัวส.ส. จนเป็นเหตุให้สามารถรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ แม้กระทั่ง กษัตริย์ กัมพูชา ก็อยู่ในอำนาจของ ฮุนเซน ตรงนี้เองเป็นสาเหตุทำให้ ฮุนเซน กร้าวร้าวอยู่ในขณะนี้ จะว่าไปความจริงแล้วการกระทำของ ฮุนเซน ก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โกงการเลือกตั้ง จนทำให้พรรคถูกยุบถึงสองครั้ง
ศ.ดร.สุรชัย กล่าวต่อว่าต้องพิจารณาสถานภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ใหม่ว่า จะไว้วางใจได้ต่อไปหรือไม่ หลัง ฮุนเซน แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้ประชาชนและรัฐบาลสามารถ ทบทวนได้ตลอดเวลา รวมถึงเอ็มโอยู ต่างๆ ที่ทำขึ้นในรัฐบาลชุดผ่านมา ที่อาจเห็นต่าง หรือเกิดข้อผิดผลาดได้ เพราะ เอ็มโอยู เป็นแค่บันทึกช่วยจำ ไม่ได้เป็นสนธิสัญญา สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นหากรัฐบาล ระแวงสงสัยอะไร ก็ให้เอาข้อมูลมาเปิดเผย แล้วให้นักวิชาการมานั่งวิเคราะห์ ว่า หลักการนั้นตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติหรือไม่ มีอะไรควรแก้ไข
ผศ.ดร.ณัฐฐา กล่าวว่าประเทศไทยจะเป็นระบอบประชาธิปไตย ทั้งเนื้อหาและรูปแบบ หรือไม่ ประชาชนมีส่วนสำคัญอย่างมาก และประชาชนเท่านั้น ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเป็นรัฐโมเดล อย่างประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้ จะผ่านลุล่วงไปโดยสะดวก รัฐบาล ต้องให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง รัฐบาลไม่ควรดีใจเกินกว่าเหตุ ที่โพล บอกว่าประชาชนยังสนับสนุนจำนวนมาก เพราะผลโพล เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดังนั้นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา หลังไทยใช้มาตรการตอบโต้ ด้วยการเรียกทูตกลับประเทศ รัฐบาลต้องใส่ใจ ปรับปรุงเรื่องของสื่อ โดยชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นายคำนูณ กล่าวเสริมว่าการใช้สื่อ เป็นจุดอ่อนของรัฐบาลชุดนี้ เช่นช่วงเหตุการณ์หลังสงกรานต์ การกระทำของรัฐบาล ได้สร้างคะแนนนิยมอย่างมาก แต่เสียดายที่เดินไม่สุดทาง ครั้งนี้ก็เช่นกัน กลัวว่าจะแผ่วปรายเหมือนช่วงสงกรานต์ เหตุ นายกฯ และรองนายกฯ แม้จะอยู่ในพรรคเดียวกัน บางครั้งก็พูดไม่ตรงกัน คิดไม่เหมือนกัน ตรงนี้ตนไม่กล้าไปบอกว่า ให้ปรับครม. แล้วเปลี่ยนรองนายกฯ เสีย เอาล่ะในเมื่อเป็นอย่างนี้ นายกฯ ต้องแก้ด้วยการจับเข้าคุยกัน ประสานกันให้ได้ เพราะขณะนี้ศัตรูมีการร่วมมือกันกับรัฐบาลต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้คิดล้มแค่ พรรคประชาธิปัตย์ หรือรัฐบาล แต่ได้เข้าแทรกแซงราชบัลลังก์ มีแผนการณ์ใหญ่โต ดังที่เห็นปรากฎอย่างชัดแจ้งในทุกวันนี้
นายคำนูณ กล่าวชื่นชมนายกฯ และ ก. ต่างประเทศ ในการตอบโต้กัมพูชา ด้วยการเอาบันทึกความเข้าใจหรือ เอ็มโอยู 2544 มาเป็นประเด็นในการพิจารณา โดยได้พูด ให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของ เอ็มโอยู 44 ว่า เดิมทีกัมพูชาแบ่งเขตุแดนด้วยการ ลากเส้นผ่าเกาะกรูด ซึ่งเป็นพื้นที่ของไทยกว่าครึ่ง แต่ไทยไม่เห็นด้วย ก็ลากขึ้นมาอีกเส้นหนึ่ง ต่อมาถึงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ไปตกลงว่า ในเมื่อต่างฝ่ายก็ลากเส้นแบ่งเขตุแดนขึ้นมา ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ แล้วไปตกลงแบ่งผลประโยชน์ในทะเลก่อน ทั้งนี้การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดประเด็นเรื่อง ผลประโยชน์ทางทะเล เมื่อปี 2544 หากลองวิเคราะห์ดู คงพอจำกันได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ร่ำรวย มาจากการผูกขาดสัมปทานสื่อ แล้วมีแผนจะย้ายไปลงทุนธุรกิจพลังงานแทน จนได้เดินทางไปยูเครน ไปคบกับปูติน ไปรัสเซีย ส่งผลให้ต่อมาเกิด นโยบายการแปลรูป ปตท. จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เข้ามาฮุบ ทีพีไอ ผ่านทาง ปตท. ผ่านทางกระทรวงการคลัง ฉะนั้นเมื่อทุกย่างสองคล้องกัน ก็เป็นธรรมดาที่คนทั่วไปจะต้องคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เอื้อประโยชน์ ให้กัมพูชา หรือผลักดันให้กัมพูชา นำเขาวิหารไปจดทะเบียนเป็นมรดกโลก เพราะต้องการให้มีการปักหลักเขตุแดนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อจะได้เดินหน้าโครงการณ์ทางทะเล ที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าแล้วนั้น ให้ลุล่วงต่อไป ดังนั้นการที่รัฐบาล ยกเรื่องเอ็มโอยู 44 ขึ้นมาพิจารณายกเลิกในวันที่ 10 พ.ย. นี้ ถือว่าได้ทำถูกต้อง
ผศ.ดร.ณัฐฐา กล่าวถึงกรณีที่หลายคนที่พูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นนายกฯ ดังนั้นการไปเป็นที่ปรึกษาของ ฮุนเซน ไม่นายจะเสียหายต่อประเทศไทย ว่า หากจะมองอย่างนั้นก็ไม่เป็นธรรมสำหรับประเทศไทย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ข้อมูลอย่างดี หากเอาข้อมูลนี้ ไปใช้ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศอื่น ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ประเด็นพวกนี้รัฐบาล ต้องทำความเข้าใจต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซ้ำๆ ให้ประชาชนเข้าใจอย่างทั่วถึง อย่าคิดว่าประชาชนน่าจะรู้เรื่องแล้ว เพราะยังมีประชาชนจำนวนมาก ที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครว อาจไม่มีเวลามานั้งติดตามข่าว