xs
xsm
sm
md
lg

ทางรอดของทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

กษัตริย์กัมพูชาแต่งตั้ง ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นที่ปรึกษาของฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ยังความปลาบปลื้มประโลมใจแก่ทักษิณและบรรดากองเชียร์ทักษิณเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับออกแถลงการณ์สดุดีฮุนเซนเป็นการใหญ่ว่าเป็นผู้ที่มีสายตายาวไกลบ้าง เป็นรัฐบุรุษบ้าง ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลไทยยังงงๆ มึนๆ เนื่องจากรับสถานการณ์ดังกล่าวไม่ทัน

ตกบ่ายคล้อยค่อยนึกขึ้นได้ กระทรวงการต่างประเทศไทย โดยนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการจึงได้เรียกทูตไทยกลับ เป็นการแสดงออกให้เห็นว่า ประเทศไทยไม่พอใจกับพฤติการณ์เช่นนั้นของฮุนเซน

การที่ผู้นำประเทศใดประเทศหนึ่งจะแต่งตั้งคนไทยเป็นที่ปรึกษาในด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอันใด ซ้ำถือว่าเป็นเกียรติยศของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเสียด้วย แต่กรณีของทักษิณเป็นคนละเรื่อง

โลกทั้งโลกรู้อยู่แล้วว่า ทักษิณคืออดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ระหว่างที่ครองอำนาจอยู่ 5-6 ปีนั้น ทักษิณได้ทำร้ายประเทศไทยและประชาชนคนไทยอย่างหนัก บริหารประเทศด้วยการมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้สามารถเพิ่มพูนทรัพย์สินได้เป็นแสนล้าน จากเดิมที่ร่ำรวยอยู่แล้วนับหมื่นๆ ล้านบาท ส่งสัญญาณให้มีการเข่นฆ่าประชาชนในสงครามปราบปรามยาเสพติด มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 พันคน (ซึ่งแยกไม่ได้ว่าใครบริสุทธิ์ ใครค้ายาเสพติด และแม้ว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของศาลที่จะพิจารณาตัดสิน)

นอกจากหนีคุกแล้ว ทักษิณยังมีคดีอีกหลายคดีในศาล

แต่กัมพูชาแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและที่ปรึกษาฮุนเซน แถมยังประกาศอีกว่า ถ้าหากทางการไทยขอตัวทักษิณ ก็จะไม่ส่งให้ เพราะคดีที่ทักษิณถูกจำคุกนั้นไม่เป็นธรรมกับทักษิณ เป็นการกลั่นแกล้งทักษิณ

ตรงนี้แหละครับที่ทำให้ประชาชนที่รักชาติ รักประเทศไทยทนไม่ได้ ยอมไม่ได้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฮุนเซนพูดถึงทักษิณว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเท่ากับแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย แทรกแซงอำนาจตุลาการของไทย ทักษิณ ชินวัตร ถูกตัดสินจำคุก 2 ปีโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นศาลที่อยู่ในขบวนการยุติธรรมของไทย มิใช่ศาลการเมือง หรือมิใช่ศาลที่จัดตั้งขึ้นมาพิเศษ

ไทยเคยชี้แจงข้อเท็จจริงนี้ให้คนทั้งโลกรวมทั้งฮุนเซนให้รับรู้แล้ว คนทั้งโลกเขาก็เข้าใจ จะมีก็แต่ฮุนเซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและบรรดาบริษัทบริวารของทักษิณในประเทศไทยเท่านั้นที่ยังไม่เข้าใจ ซึ่งไม่รู้ว่าโง่จริงๆ หรือพวกมันแกล้งโง่กันแน่

เมื่อไทยเราเรียกทูตของเรากลับ กัมพูชาก็เรียกทูตเขากลับบ้าง เชื่อว่าต่อไปจะต้องมีการตอบโต้กันมากกว่านี้

ทักษิณพูดถึงรัฐบาลไทยว่า “เด็กจัง”

คำว่า เด็กจัง ของทักษิณก็คือคำพูดดูแคลนอย่างที่เขาเคยพูดถึงมาแล้ว รัฐบาลผสมที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ทักษิณพูดทำนองว่า จะฝากบ้านนี้เมืองนี้ไว้กับเด็กสองคนได้หรือ ประเทศไทยจะต้องมีเขาเท่านั้นดูแลจึงจะอยู่ได้และอยู่รอดอะไรทำนองนี้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงก็คือ ประเทศไทยดำรงความเป็นประเทศชาติมาช้านานแล้ว ก่อนที่ทักษิณและพ่อของทักษิณเกิดเสียอีก ทักษิณโชคดีที่ได้สัมปทานผูกขาดในกิจการโทรคมนาคม ได้สัมปทานผูกขาดโทรศัพท์ ดาวเทียม โดยการได้สัมปทานผูกขาดนั้น ทักษิณก็ไปยืนกุมเป้ากางเกงให้บรรดานายทหารที่ทำปฏิวัติรัฐประหาร ที่ทักษิณและบรรดาลูกกระแป้ของเขาเกลียดนักเกลียดหนา (กับการปฏิวัติรัฐประหาร) ต่อเมื่อร่ำรวยขึ้นมา ทักษิณจึงเข้าสู่การเมือง เมื่อแรกเข้าสู่การเมืองก็ไปเจอกับพรรคที่มีข้อจำกัด ต้องประพฤติดีประพฤติชอบอย่างพรรคพลังธรรม ก็ต้องมาตั้งพรรคใหม่ ที่จะสามารถเทคโอเวอร์พรรคเล็กพรรคน้อยได้ กวาดต้อนเอานักการเมืองจากพรรคการเมืองอื่นเข้ามาอยู่ในพรรคของเขาได้

แล้วก็ได้จัดตั้งรัฐบาล ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

จากวันนั้นประเทศไทยทั้งประเทศก็ตกอยู่ภายใต้ตีนของเขา เขาตั้งตัวเป็นเจ้ามือหวยเองด้วยการออกสลาก 2 ตัว 3 ตัว นัยว่าต้องการปราบหวยเถื่อน แต่รายได้ไม่ได้เข้าคลัง ทักษิณเก็บไว้ใช้เป็นทุนการศึกษานักเรียนบ้าง ให้วัดต่างๆ บ้าง ไม่มีการตรวจสอบ ไม่มีรายละเอียดในการใช้เงินดังกล่าว ให้พม่ากู้พัฒนาระบบโทรคมนาคม โดยการเพิ่มวงเงินกู้ให้อีกที่ต้องซื้อสินค้าจากครอบครัวทักษิณ สนามบินเปิดใหม่คือสุวรรณภูมิเปิดโอกาสให้พวกพ้องน้องนุ่งเข้าไปแสวงหาประโยชน์จากรถเข็น จากที่จอดรถ จากร้านค้าภายในสนามบิน (ซึ่งเป็นคดีความกันอยู่ขณะนี้)

ทักษิณแก้สัญญาสัมปทานโทรคมนาคมของเขา เปลี่ยนมาเสียภาษีสรรพสามิตแทน ต่อมาเขาก็อาศัยเสียงข้างมาก ยอมให้ต่างชาติถือหุ้นในบริษัทโทรคมนาคมได้มากขึ้น แล้วเขาก็ขายหุ้นบริษัทที่เขาได้สัมปทานมาให้กับต่างประเทศ ยังความไม่พอใจให้กับประชาชนไทยเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งเกิดการประท้วงขับไล่รัฐบาลทักษิณขึ้น

ทักษิณแก้ปัญหาด้วยการยอมที่จะให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการอภิปรายโดยที่ไม่มีการลงมติ และถึงจะลงมติเสียงที่สนับสนุนทักษิณก็เป็นเสียงข้างมากอยู่แล้ว ถึงวันที่จะมีการอภิปราย ทักษิณประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่

การเลือกตั้งใหม่ คณะกรรมการการเลือกตั้งช่วยทักษิณทุกอย่าง ภายหลังศาลตัดสินจำคุก กกต. 3คนเพราะช่วยทักษิณ ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างฎีกา

ตั้งแต่ระเหระหนออกจากประเทศไทยก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินคดีที่ดินรัชดาฯ ทักษิณดิ้นทุรนทุรายหนักเพื่อที่จะกลับมาประเทศไทย เขาไม่ได้คิดว่าจะกลับมาอย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องเท่านั้น บางครั้งก็ยังเพ้อละเมอว่าจะกลับมาเป็นใหญ่ มาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกเสียด้วยซ้ำ

ปฏิบัติการเมื่อครั้งเดือนเมษายนที่ผ่านมา นั่นถึงขั้นที่จะบอกว่าเป็นการก่อกบฏของบทักษิณ และบรรดาลิ่วล้อของเขาก็ได้ แต่บังเอิญว่า รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ค่อนข้างใหม่ หัดขับ พรรคร่วมรัฐบาลก็ล้วนแต่เคยคบหาสมาคมกับทักษิณทั้งนั้น ทักษิณก็เลยลอยนวลอยู่ได้ ตำรวจ อัยการ ทำตัวเป็นเกียร์ว่างปล่อยให้ทักษิณเหิมเกริมขึ้นทุก

เป็นเหตุให้ฮุนเซนถือโอกาสตบหน้าประเทศไทย แต่งตั้งคนที่ทางการไทยต้องการตัวมาติดคุกเป็นที่ปรึกษามันเสียเลย ซ้ำยังบอกด้วยว่า ทางการไทยขอตัวก็ไม่ส่งให้ เพราะคดีที่ตัดสินลงโทษทักษิณไม่เป็นธรรม

ทักษิณคงจะกำลังปลาบปลื้มประโลมใจที่ได้ตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา จะให้ดีก็ควรที่จะขอสัญชาติเขมรมันเสียเลย เพราะถ้าหากถือสัญชาติเขมรแล้ว ก็แก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาได้ เพราะทางการไทยจะไปขอตัวทักษิณให้เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไม่ได้

มีแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่เคยส่งคนไทยไปให้ต่างประเทศ (ประเทศอื่นเขาไม่ทำกัน)

จะให้ดีขอให้กัมพูชาอวยยศเป็นสมเด็จเสียเลยก็เห็นจะเหมาะ บรรดาลิ่วล้อทั้งหลายที่เห่าหอนอยู่เวลานี้ก็กวาดต้อนไปอยู่เสียที่กัมพูชาก็จะดี แผ่นดินไทยจะได้เบาลง

นี่คือหนทางแก้ปัญหาที่นิ่มนวลที่สุด

กำลังโหลดความคิดเห็น