ASTVผู้จัดการรายวัน-พธม.ตบเท้าเข้าทำเนียบฯ จันทร์นี้ ยื่นจดหมายถึง “มาร์ค” จี้ยกเลิกแผนที่แสดงเส้นเขตแดนไทย-เขมร มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ของฝรั่งเศส แนะแสดงความกล้าหาญดันทหาร-คนเขมรพ้นชายแดนไทยโดยไม่มีเงื่อนไข ประณามเจตนา “นช.แม้ว” เลือกเป็นข้าในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรกัมพูชาแล้ว
เวลา 12.00 น.วานนี้ (6พ.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ รวมทั้งนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 5/2552 เรื่อง “ประณามระบอบทักษิณ-สนับสนุนรัฐบาลในการปรับระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา และขอให้ยกเลิกแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ในข้อผูกพันระหว่างไทย-กัมพูชา โดยทันที”
นายสุริยะใส กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลตัดสินใจเรียกให้เอกราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับราชอาณาจักรไทยเพื่อเป็นการแสดงออกความไม่พอใจทางการทูต อันเนื่องมาจากนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระเจ้าสีหมุนีให้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนักโทษชายทักษิณ ชินวัตรเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชานั้น แกนนำพันธมิตรมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.เราขอประณาม นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ที่ใช้เล่ห์เพทุบายเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย ทำลายหลักนิติรัฐ และย่ำยีคำพิพากษาของศาลยุติธรรม ซึ่งกระทำภายใต้พระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย โดยเจตนาให้นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร มาเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาด้วยการโปรดเกล้าฯจากกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
2.บัดนี้ผู้นำรัฐบาลกัมพูชา มีพฤติกรรมไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ ได้ทำให้ดินแดนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา กลายเป็นดินแดนแห่งการซ่องสุมของพวกอาชญากรที่กระทำผิดกฎหมายจำนวนมาก ปล่อยให้เป็นดินแดนที่วางแผนมุ่งทำร้ายทำลายชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย เราจึงขอให้ประชาคมทั่วโลกได้ดำเนินทุกวิถีทางเพื่อร่วมกันประณามพฤติกรรมของนายฮุน เซน ที่เป็นภัยคุกคามกับประเทศอื่น และกดดันเพื่อให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กลับมารับโทษในราชอาณาจักรไทยในทุกวิถีทาง
3.เราขอประณามนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่ได้สนับสนุนการรับตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชาของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้มาด้วยการโปรดเกล้าฯ จากกษัตริย์ของราชอาณาจักรกัมพูชา ในขณะที่นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กลับไม่ยอมรับและหนีคำพิพากษาของศาลฎีกาซึ่งกระทำในพระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทย
“เราถือว่า การกระทำอุบาทว์เช่นนี้เป็นการสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติในการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ทำตัวเป็นผู้ทรยศต่อชาติ ทำให้เกิดความแตกแยกกับประเทศเพื่อนบ้าน และยังใช้สถาบันกษัตริย์ชาติอื่นมาทำลายความศักดิ์สิทธิ์และเกียรติภูมิของศาลฎีกาที่กระทำในพระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทยอย่างไร้จริยธรรม”
**ประณาม นช.แม้ว เป็นข้าแขมร์
นายสุริยะใส กล่าวว่า เมื่อ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ได้หลบหนีจากราชอาณาจักรไทยด้วยคำพิพากษาของศาลในพระปรมาภิไธย แต่ตัดสินใจรับตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาด้วยการโปรดเกล้าฯ จากกษัตริย์กัมพูชา จึงต้องถือว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ได้เลือกเป็นข้าในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรกัมพูชาแล้ว
รัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ ได้จัดทำแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชายกดินแดนปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบให้เป็นของกัมพูชานำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ยังให้สัมภาษณ์โกหกหลายครั้งแสดงความเห็นว่า “เขาพระวิหาร” เป็นของกัมพูชา และยังโกหกยืนยันว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารราชอาณาจักรไทยไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ตลอดจนยังปล่อยให้ทหารและชาวกัมพูชาเข้ามายึดครองพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเป็นบริเวณ 4.6 ตารางกิโลเมตร (3,000 ไร่) โดยไม่เคยมีการผลักดัน จึงถือว่านักโทษชายทักษิณ ชินวัตร คือผู้ทรยศชาติ และขายชาติอย่างแท้จริง
**จี้ กต.-สภาฯกล้าทบทวนข้อตกลง
4.เราขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้ยืนหยัดด้วยพลังแห่งความสามัคคีแห่งคนในชาติ ปกป้องความศักดิ์สิทธิ์และเกียรติภูมิของศาลฎีกาที่กระทำในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทย และต่อต้านภัยอันตรายทั้งหลายที่จะมาจากข้าในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรกัมพูชาผู้ทรยศต่อราชอาณาจักรไทยจนถึงที่สุด
5.เราขอสนับสนุนและให้กำลังใจกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ได้ใช้ความกล้าหาญแสดงออกทางการทูตเพื่อปกป้องเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของราชอาณาจักรไทยในครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้ใช้โอกาสนี้ทบทวนแก้ไขข้อตกลงหรือพันธกรณีใดๆ ที่ทำให้ราชอาณาจักรไทยเสียเปรียบต่อราชอาณาจักรกัมพูชาโดยทันที
6.เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทยได้ใช้โอกาสนี้แก้ไขความผิดและความพลาดในอดีตทั้งหมด ด้วยการยกเลิกข้อผูกพันทุกประเภทระหว่างไทย-กัมพูชาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดความเสียดินแดนไทยทั้งทางบกและทางทะเลในอนาคต
เราขอให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทยยกเลิกข้อผูกพันระหว่างไทย-กัมพูชาทั้งปวงที่ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งจัดทำโดยคณะกรรมการฝรั่งเศสแแต่เพียงฝ่ายเดียวโดยทันที เราขอให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย ขัดขวางและหยุดยั้งการใช้กลไกในการสำรวจ การจัดทำหลักเขตแดน หรือการรับรองการประชุมอื่นใด ที่เกี่ยวพันกับใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 โดยทันที
เราขอให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย ใช้กระบวนการของรัฐบาล ทหาร และรัฐสภา ขัดขวางมิให้กัมพูชานำปราสาทพระวิหารและดินแดนไทยรอบปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกให้เป็นของกัมพูชาในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 นี้ เราขอให้รัฐบาลไทยได้หยุดการอุดหนุนงบประมาณและเงินกู้ในการช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชาทุกประเภทโดยทันที
**ฮุนเซ็น-นช.แม้ว ชั่วบันทอนสัมพันธ์
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า เราขอให้รัฐบาล และทหาร ซึ่งได้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องอธิปไตยและแผ่นดินไทย โดยอาศัยกฎบัตรสหประชาชาติข้อ 51 และกฎอัยการศึก ผลักดันชาวกัมพูชาและสิ่งปลูกสร้างทั้งปวงที่ได้รุกล้ำและยึดครองดินแดนไทยอยู่ตามพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (3,000 ไร่) รอบปราสาทพระวิหาร ให้ออกจากดินแดนไทยโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข พร้อมกับเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อแสดงสิทธิและอธิปไตยเหนือดินแดนของไทย
7.เราขอยืนยันว่า ประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทย และประชาชนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นมิตรที่ดีต่อกัน หากแต่การกระทำด้วยพฤติกรรมชั่วร้ายที่บั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศครั้งนี้ ต้องถือเป็นความรับผิดชอบ ของนายฮุน เซน และนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น โดยประชาชนทั้งสองประเทศจะต้องร่วมมือกันกำจัดผู้ทรยศและทำลายชาติ เพื่อนำสันติสุขคืนมาสู่พี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศโดยเร็วที่สุด
**ยืนหนังสือ “มาร์ค” ทบทวน 8 ข้อ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้อ่านแถลงการณ์เรื่อง ขอให้ดำเนินการยกเลิกแผนที่แสดงเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา มาตราส่วน 1ต่อ 200,000 ซึ่งจัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว และ ผลักดันทหารและชาวกัมพูชาออกจากดินแดนไทยโดยไม่มีเงื่อนไข”โดยนายพิภพจะเดินทางไปยื่นหนังสือฉบับนี้ต่อนายกรัฐมนตรีในวันจันทร์ที่ 9 พ.ย. นี้
ทั้งนี้สรุปได้ว่า พันธมิตรฯขอสนับสนุนและให้กำลังใจรัฐบาล จึงเรียกร้องให้รัฐบาลไทยได้ใช้โอกาสนี้ดำเนินการทบทวนพันธะผูกพันระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมกับแก้ไขความผิดและความพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตด้วยแนวทางดังต่อไปนี้
ประการแรก ขอให้ยกเลิก MOU 2543 ที่ได้เริ่มต้นดำเนินการให้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000เป็นครั้งแรก
ประการที่สอง ขอให้ยกเลิก MOU 2544 และ แถลงการณ์ร่วมฯ 2544 ที่รับรองเส้นเขตแดนทางทะเลที่ไม่ได้ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
ประการที่สาม ขอให้ประกาศยกเลิก แถลงการณ์ร่วมฯ 2551กับประเทศกัมพูชา คณะกรรมการมรดกโลก และองค์การยูเนสโก อย่างเป็นทางการ
ประการที่สี่ ขอให้สมาชิกรัฐสภาได้ดำเนินการเพิกถอนมติรัฐสภาเมื่อวันที่ 28ต.ค.51
ประการที่ห้า ขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจยกเลิก TOR 2546
ประการที่หก ขอให้รัฐบาลได้ถอนเรื่องร่างข้อตกลงชั่วคราว 2552ออกจากการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากรัฐสภา และหยุดนำผลการประชุมของ JBC ทั้ง 3ครั้ง
ประการที่เจ็ด ให้รัฐบาลและกองทัพบกดำเนินการปกป้องอธิปไตย โดยอาศัยกฎบัตรสหประชาชาติข้อ 51 และกฎอัยการศึก ทำการผลักดันชาวกัมพูชาที่ได้รุกล้ำและยึดครองพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้าง ให้ออกจากดินแดนไทยโดยไม่มีเงื่อนไข
ประการที่แปด ขอให้รัฐบาลไทยได้พิจารณายกเลิกโครงการและงบประมาณที่ช่วยเหลือประเทศกัมพูชาทั้งหมด ตลอดจนพิจารณาหามาตรการอื่นเพื่อกดดันฝ่ายกัมพูชาเพิ่มเติมต่อไป
**สับคู่หูทรราชแห่งเอเชียตอนใต้
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การเรียกทูตกลับเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องทำเรื่องอื่นๆ ต่อไป ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถรักษาดินแดนไทยไว้ได้ เรื่องนี้เป้นเรื่องสำคัญและจำเป็น เป็นเรื่องของความรักชาติไม่ใช่คลั่งชาติ เราได้พิสูจน์มาตลอดว่าเป็นอันตรายต่อดินแดนไทยอย่างยิ่ง
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ได้กลายเป็นคู่หูทรราชแห่งเอเชียตอนใต้ ไปตั้งกองกำลังที่เป็นปรปักษ์กับราชอาณาจักรไทย กัมพูชา เป็นแหล่งรวมกองกำลังที่เป็นปรปักษ์กับไทย ถือเป็นศัตรูที่จะต้องกำจัดให้สิ้นซาก และเรื่องการเจรจาจะเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะขณะนี้ระบอบทักษิณได้ร่วมมือกับระบอบฮุน เซน ด่า คมช.แต่ไปคบกับ นายฮุน เซน นายทักษิณใช้มือ นายฮุน เซน ทิ่มแทงประเทศไทย ดังนั้นการเจรจาต้องเป็นแบบที่ลดความสัมพันธ์ทางการทูต และใช้มาตรการทางความมั่นคงควบคู่กันไป
เวลา 12.00 น.วานนี้ (6พ.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ รวมทั้งนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 5/2552 เรื่อง “ประณามระบอบทักษิณ-สนับสนุนรัฐบาลในการปรับระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชา และขอให้ยกเลิกแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ในข้อผูกพันระหว่างไทย-กัมพูชา โดยทันที”
นายสุริยะใส กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลตัดสินใจเรียกให้เอกราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับราชอาณาจักรไทยเพื่อเป็นการแสดงออกความไม่พอใจทางการทูต อันเนื่องมาจากนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระเจ้าสีหมุนีให้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนักโทษชายทักษิณ ชินวัตรเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชานั้น แกนนำพันธมิตรมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.เราขอประณาม นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ที่ใช้เล่ห์เพทุบายเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย ทำลายหลักนิติรัฐ และย่ำยีคำพิพากษาของศาลยุติธรรม ซึ่งกระทำภายใต้พระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราชอาณาจักรไทย โดยเจตนาให้นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร มาเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาด้วยการโปรดเกล้าฯจากกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
2.บัดนี้ผู้นำรัฐบาลกัมพูชา มีพฤติกรรมไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ ได้ทำให้ดินแดนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา กลายเป็นดินแดนแห่งการซ่องสุมของพวกอาชญากรที่กระทำผิดกฎหมายจำนวนมาก ปล่อยให้เป็นดินแดนที่วางแผนมุ่งทำร้ายทำลายชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย เราจึงขอให้ประชาคมทั่วโลกได้ดำเนินทุกวิถีทางเพื่อร่วมกันประณามพฤติกรรมของนายฮุน เซน ที่เป็นภัยคุกคามกับประเทศอื่น และกดดันเพื่อให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กลับมารับโทษในราชอาณาจักรไทยในทุกวิถีทาง
3.เราขอประณามนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่ได้สนับสนุนการรับตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชาของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้มาด้วยการโปรดเกล้าฯ จากกษัตริย์ของราชอาณาจักรกัมพูชา ในขณะที่นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กลับไม่ยอมรับและหนีคำพิพากษาของศาลฎีกาซึ่งกระทำในพระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทย
“เราถือว่า การกระทำอุบาทว์เช่นนี้เป็นการสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติในการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ทำตัวเป็นผู้ทรยศต่อชาติ ทำให้เกิดความแตกแยกกับประเทศเพื่อนบ้าน และยังใช้สถาบันกษัตริย์ชาติอื่นมาทำลายความศักดิ์สิทธิ์และเกียรติภูมิของศาลฎีกาที่กระทำในพระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทยอย่างไร้จริยธรรม”
**ประณาม นช.แม้ว เป็นข้าแขมร์
นายสุริยะใส กล่าวว่า เมื่อ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ได้หลบหนีจากราชอาณาจักรไทยด้วยคำพิพากษาของศาลในพระปรมาภิไธย แต่ตัดสินใจรับตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาด้วยการโปรดเกล้าฯ จากกษัตริย์กัมพูชา จึงต้องถือว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ได้เลือกเป็นข้าในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรกัมพูชาแล้ว
รัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ ได้จัดทำแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชายกดินแดนปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบให้เป็นของกัมพูชานำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ยังให้สัมภาษณ์โกหกหลายครั้งแสดงความเห็นว่า “เขาพระวิหาร” เป็นของกัมพูชา และยังโกหกยืนยันว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารราชอาณาจักรไทยไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ตลอดจนยังปล่อยให้ทหารและชาวกัมพูชาเข้ามายึดครองพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเป็นบริเวณ 4.6 ตารางกิโลเมตร (3,000 ไร่) โดยไม่เคยมีการผลักดัน จึงถือว่านักโทษชายทักษิณ ชินวัตร คือผู้ทรยศชาติ และขายชาติอย่างแท้จริง
**จี้ กต.-สภาฯกล้าทบทวนข้อตกลง
4.เราขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้ยืนหยัดด้วยพลังแห่งความสามัคคีแห่งคนในชาติ ปกป้องความศักดิ์สิทธิ์และเกียรติภูมิของศาลฎีกาที่กระทำในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทย และต่อต้านภัยอันตรายทั้งหลายที่จะมาจากข้าในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรกัมพูชาผู้ทรยศต่อราชอาณาจักรไทยจนถึงที่สุด
5.เราขอสนับสนุนและให้กำลังใจกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ได้ใช้ความกล้าหาญแสดงออกทางการทูตเพื่อปกป้องเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของราชอาณาจักรไทยในครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้ใช้โอกาสนี้ทบทวนแก้ไขข้อตกลงหรือพันธกรณีใดๆ ที่ทำให้ราชอาณาจักรไทยเสียเปรียบต่อราชอาณาจักรกัมพูชาโดยทันที
6.เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทยได้ใช้โอกาสนี้แก้ไขความผิดและความพลาดในอดีตทั้งหมด ด้วยการยกเลิกข้อผูกพันทุกประเภทระหว่างไทย-กัมพูชาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดความเสียดินแดนไทยทั้งทางบกและทางทะเลในอนาคต
เราขอให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทยยกเลิกข้อผูกพันระหว่างไทย-กัมพูชาทั้งปวงที่ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งจัดทำโดยคณะกรรมการฝรั่งเศสแแต่เพียงฝ่ายเดียวโดยทันที เราขอให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย ขัดขวางและหยุดยั้งการใช้กลไกในการสำรวจ การจัดทำหลักเขตแดน หรือการรับรองการประชุมอื่นใด ที่เกี่ยวพันกับใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 โดยทันที
เราขอให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย ใช้กระบวนการของรัฐบาล ทหาร และรัฐสภา ขัดขวางมิให้กัมพูชานำปราสาทพระวิหารและดินแดนไทยรอบปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกให้เป็นของกัมพูชาในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 นี้ เราขอให้รัฐบาลไทยได้หยุดการอุดหนุนงบประมาณและเงินกู้ในการช่วยเหลือรัฐบาลกัมพูชาทุกประเภทโดยทันที
**ฮุนเซ็น-นช.แม้ว ชั่วบันทอนสัมพันธ์
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า เราขอให้รัฐบาล และทหาร ซึ่งได้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องอธิปไตยและแผ่นดินไทย โดยอาศัยกฎบัตรสหประชาชาติข้อ 51 และกฎอัยการศึก ผลักดันชาวกัมพูชาและสิ่งปลูกสร้างทั้งปวงที่ได้รุกล้ำและยึดครองดินแดนไทยอยู่ตามพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (3,000 ไร่) รอบปราสาทพระวิหาร ให้ออกจากดินแดนไทยโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข พร้อมกับเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อแสดงสิทธิและอธิปไตยเหนือดินแดนของไทย
7.เราขอยืนยันว่า ประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทย และประชาชนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นมิตรที่ดีต่อกัน หากแต่การกระทำด้วยพฤติกรรมชั่วร้ายที่บั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศครั้งนี้ ต้องถือเป็นความรับผิดชอบ ของนายฮุน เซน และนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น โดยประชาชนทั้งสองประเทศจะต้องร่วมมือกันกำจัดผู้ทรยศและทำลายชาติ เพื่อนำสันติสุขคืนมาสู่พี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศโดยเร็วที่สุด
**ยืนหนังสือ “มาร์ค” ทบทวน 8 ข้อ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้อ่านแถลงการณ์เรื่อง ขอให้ดำเนินการยกเลิกแผนที่แสดงเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา มาตราส่วน 1ต่อ 200,000 ซึ่งจัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว และ ผลักดันทหารและชาวกัมพูชาออกจากดินแดนไทยโดยไม่มีเงื่อนไข”โดยนายพิภพจะเดินทางไปยื่นหนังสือฉบับนี้ต่อนายกรัฐมนตรีในวันจันทร์ที่ 9 พ.ย. นี้
ทั้งนี้สรุปได้ว่า พันธมิตรฯขอสนับสนุนและให้กำลังใจรัฐบาล จึงเรียกร้องให้รัฐบาลไทยได้ใช้โอกาสนี้ดำเนินการทบทวนพันธะผูกพันระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมกับแก้ไขความผิดและความพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตด้วยแนวทางดังต่อไปนี้
ประการแรก ขอให้ยกเลิก MOU 2543 ที่ได้เริ่มต้นดำเนินการให้ใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000เป็นครั้งแรก
ประการที่สอง ขอให้ยกเลิก MOU 2544 และ แถลงการณ์ร่วมฯ 2544 ที่รับรองเส้นเขตแดนทางทะเลที่ไม่ได้ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
ประการที่สาม ขอให้ประกาศยกเลิก แถลงการณ์ร่วมฯ 2551กับประเทศกัมพูชา คณะกรรมการมรดกโลก และองค์การยูเนสโก อย่างเป็นทางการ
ประการที่สี่ ขอให้สมาชิกรัฐสภาได้ดำเนินการเพิกถอนมติรัฐสภาเมื่อวันที่ 28ต.ค.51
ประการที่ห้า ขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจยกเลิก TOR 2546
ประการที่หก ขอให้รัฐบาลได้ถอนเรื่องร่างข้อตกลงชั่วคราว 2552ออกจากการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากรัฐสภา และหยุดนำผลการประชุมของ JBC ทั้ง 3ครั้ง
ประการที่เจ็ด ให้รัฐบาลและกองทัพบกดำเนินการปกป้องอธิปไตย โดยอาศัยกฎบัตรสหประชาชาติข้อ 51 และกฎอัยการศึก ทำการผลักดันชาวกัมพูชาที่ได้รุกล้ำและยึดครองพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้าง ให้ออกจากดินแดนไทยโดยไม่มีเงื่อนไข
ประการที่แปด ขอให้รัฐบาลไทยได้พิจารณายกเลิกโครงการและงบประมาณที่ช่วยเหลือประเทศกัมพูชาทั้งหมด ตลอดจนพิจารณาหามาตรการอื่นเพื่อกดดันฝ่ายกัมพูชาเพิ่มเติมต่อไป
**สับคู่หูทรราชแห่งเอเชียตอนใต้
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การเรียกทูตกลับเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องทำเรื่องอื่นๆ ต่อไป ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถรักษาดินแดนไทยไว้ได้ เรื่องนี้เป้นเรื่องสำคัญและจำเป็น เป็นเรื่องของความรักชาติไม่ใช่คลั่งชาติ เราได้พิสูจน์มาตลอดว่าเป็นอันตรายต่อดินแดนไทยอย่างยิ่ง
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ได้กลายเป็นคู่หูทรราชแห่งเอเชียตอนใต้ ไปตั้งกองกำลังที่เป็นปรปักษ์กับราชอาณาจักรไทย กัมพูชา เป็นแหล่งรวมกองกำลังที่เป็นปรปักษ์กับไทย ถือเป็นศัตรูที่จะต้องกำจัดให้สิ้นซาก และเรื่องการเจรจาจะเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะขณะนี้ระบอบทักษิณได้ร่วมมือกับระบอบฮุน เซน ด่า คมช.แต่ไปคบกับ นายฮุน เซน นายทักษิณใช้มือ นายฮุน เซน ทิ่มแทงประเทศไทย ดังนั้นการเจรจาต้องเป็นแบบที่ลดความสัมพันธ์ทางการทูต และใช้มาตรการทางความมั่นคงควบคู่กันไป