เขียน “หน้ากระดานเรียงห้า” มาร่วมๆ 5 ปี สัปดาห์ละครั้ง ยอมรับว่าบางครั้งก็เป็นเรื่องเป็นราว บางครั้งก็ไม่เป็นเรื่องเป็นราวสักเท่าใดนัก แต่ที่เสมอต้นเสมอปลายแน่ๆ ก็คือคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้น...ไม่ดัดจริต ไม่ลับลวงพราง ไม่มีลีลาอะไรมาก..
สัปดาห์ที่แล้วควงแขน คุณอมรเทพ อมรรัตนานนท์ ไปสุขุมวิท 35 เข้าโรงหมอ (จรัญ) เพื่อผ่าตา จัดการกับขนตาที่มันจาบจ้วงแทงลูกกะตาอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เลยงดไปหนึ่งฉบับ ขอบคุณที่ท่านผู้อ่าน พ่อแม่พี่น้อง (เอ๊ย) บางท่านโทรศัพท์ไปถามว่าหายไปไหน...
ถึงวันนี้ (11พ.ย.) ก็ผ่านมา 9 วันเต็มๆ แล้ว ตายังบวม สมาธิยังไม่นิ่ง ในขณะที่สถานการณ์รอบบ้านผ่านเมืองยิ่งป่วน...สารภาพว่ารู้สึกหงุดหงิด ไม่มีกะจิตกะใจที่จะเขียนอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราว หรืออ่านแล้วได้ความได้สาระจริงๆ
ขอถือวิสาสะใช้คอลัมน์บทความประจำวันนี้เปลี่ยนเป็นกึ่งๆ คอลัมน์สังคมซุบซิบแก้เครียดแก้หงุดหงิดซักครั้ง ก็แล้วกัน...
.................................
0 เสาร์ที่ 7 พ.ย. 52 ที่ผ่านมามัวแต่นอนลูกตาบวมไม่กล้าเจอหน้าผู้คน เลยไม่ได้ไปร่วมงานครบรอบ 62 ปีของเจ้าสำนักบ้านพระอาทิตย์ ว่าที่หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” รุ่งขึ้นท่านเลขาธิการพรรค สุริยะใส กตะศิลา บอกให้ไปร่วมแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของพรรค จึงได้พบกับคุณสนธิ และได้โอกาสมอบกรอบรูปเล็กๆ เป็นของขวัญในวันคล้ายวันเกิด ในกรอบรูปเป็นแค่ภาพเทียนเล่มเดียว และใครคนหนึ่งที่เดินเลือดอาบร่างเพราะระเบิดบาปกระสุนบ้าเมื่อเช้าตรู่วันที่ 17 เม.ย. 52
ลูกสาวเป็นคนออกแบบประกอบกลอนแปด 4 วรรค ที่ผมมอบให้คุณสนธิ
..เทียนเล่มเดียวพลิกโฉมหน้า ประวัติศาสตร์
จุดปัญญากู้ชาติกู้ยุคสมัย
ตำนานเลือด ตำนานธรรม ตอกย้ำใจ
เทียนแห่งธรรม ตอกย้ำชัย ให้แผ่นดิน..
นั่งสนทนาธรรมกับคุณสนธิและสุริยะใสพักหนึ่ง ก่อนผมจะแยกจากด้วยความซาบซึ้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพระห้อยคอบูชาที่คุณลุงฝากถึงหลานสาว...
......................................
0 ร่วม 6 ปีที่ได้ร่วมงานในชายคาบ้านพระอาทิตย์ ผมได้สัมผัสและแลเห็นอย่างชัดเจนว่าคนชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล ได้พิสูจน์ให้สังคมและฟ้าดินทราบและรับรู้ว่าเขาต่อสู้เพื่อความถูกต้องในสังคม สู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แต่บางครั้งความเป็นเครื่องบินที่บินเร็วกว่าเสียง อาจเกิดช่องว่างอยู่บ้าง
ในความคิดทางการเมือง ผมไม่เห็นด้วยกับคนชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล ในบางเรื่อง โดยเฉพาะช่วงปี 2547-48 แต่ส่วนใหญ่แล้วขอคารวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมองภาพรวมของสถานการณ์ มองต้นไม้ทั้งป่า มองผู้คนในแวดวงธุรกิจ-การเมืองแบบทะลุลอด..
กรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (ไทย-กัมพูชา) สนธิคือคนแรกๆ ที่นำมาตีแผ่เงื่อนงำ เงื่อนปมผลประโยชน์ที่โยงใยถึงระบอบทักษิณอย่างทะลุทะลวงและเป็นระบบ จากการจุดชนวน เปิดประเด็นข้อมูลเบื้องต้นของเหยี่ยวข่าวสายทหารผู้อาวุโส ผู้ล่วงลับไปแล้ว นาม ปรีชา กุลปรีชา...
คำนูณ สิทธิสมาน ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คือผู้อยู่เบื้องหลังสืบค้นและสืบสานข้อมูลในวันนั้นและเวลาต่อมา ผมร่วมแจมบ้างก็เป็นเพียงบางครั้ง กระทั่งต่อมาเกิดกรณี ปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2551 ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์, อ.เทพมนตรี ลิมปพยอม และใครต่อใครอีกหลายคนได้ช่วยกันต่อยอด จนมองเห็นภาพจากหลุมก๊าซ – น้ำมันกว่า5 ล้านล้านบาทในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ถึงปราสาทพระวิหารที่กำลังเดิมพันด้วยคำว่า “มรดกโลก” ได้อย่างแจ่มชัด สามารถอ่านทะลุจากเอ็มโอยู และแถลงการณ์ร่วม 2544 จนถึงแถลงการณ์ร่วมไทย –กัมพูชา 2551 รวมทั้งร่างข้อตกลงไทย–กัมพูชา 3 ฉบับที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ขอถอนออกจากวาระการประชุมของรัฐสภาในสัปดาห์นี้..
การขายชาติยุคดิจิตอล ยอกย้อนซ่อนเงื่อน แต่ทุกฆาตกรรมฆาตกรย่อมทิ้งร่องรอยเสมอ..สนธิคือคนสำคัญที่ค้นพบร่องรอยนั้น...
..........................
0 ระหว่าง นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กับ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน หรือ นายฮุนเซน ใครใช้ใครใครขี่ใครก็ว่ากันไป แต่ที่แน่นอนทั้งคู่มี “ผลประโยชน์ร่วม” บางคนบอกว่าการที่ฮุนเซนจัดการให้ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี กษัตริย์กัมพูชาทรงลงนามในพระราชกฤษฎีกากรณีแต่งตั้งทักษิณ มันคือหมากบังคับทักษิณ มันคือความเหนือกว่า...
ฮุนเซนเคยเป็นทหารเขมรแดง วันหนึ่งเอากองทัพเวียดนามมายึดเขมร เขาขึ้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศก่อนจะเป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นกระชับอำนาจแบบดิบๆ สถาปนาตัวเองเป็นสมเด็จฯ และเดินหน้าที่จะเป็นเจ้าหรือประมุขประเทศแต่เพียงหนึ่งเดียว หมายถึงสุดท้ายต้องทำให้สถาบันกษัตริย์ล่มสลาย...
นั่นคือ “ฮุนเซนโมเดล” ที่ ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน และนักวิชาการบางคนพยายามชี้ชวนให้ขบคิด...
ชี้ชวนให้ขบคิดพร้อมๆ กับจับตาก้าวย่างของคนชื่อ “ทักษิณ” ที่นับวันจะไต่เส้นลวด “ฮุนเซนโมเดล” ดังกรณีหลังสุดการให้สัมภาษณ์ทายท้า-จาบจ้วงล่วงเกินต่อสถาบันผ่านนสพ.เดอะไทมส์ ออนไลน์...มันคือหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนว่า “ทักษิณ” วาดภาพวางเกมข้ามช็อตไว้อย่างไร และอุบาทว์ชั่วช้าเพียงใด..
...............................
0 หลังงาน “เพื่อนร่วมร้อง พี่น้องร่วมรบ” 14 พ.ย.ที่เขาใหญ่ กองทัพคนเสื้อแดงก็รอทำศึกใหญ่แตกหักกับรัฐบาล แต่เดิมกำหนดไว้ 24 พ.ย.หรืออย่างเร็ว 20 พ.ย. แต่พอ “คุณพ่อ” นักโทษชายมาสะดุดกรณีบทสัมภาษณ์จาบจ้วงแผนการต่างๆ อาจเปลี่ยนแปลงไป ประการสำคัญ..พลังที่ฮึกห้าวเหิมหาญของแนวร่วมที่รอทำศึกใหญ่วันนี้อาจห่อหดลงไปมาก
วันนี้ “ทักษิณ” อย่าคิดว่าเกมแตกหักรุนแรงแบบนองเลือดจลาจลจะเอาชนะหรือล้มกระดานอำนาจได้ ดีไม่ดีอาจถูกกวาดรอบสอง...
ขอเสนอให้เอาบุญถ้าอยากล้มรัฐบาลแบบ “เปลี่ยนผ่านอย่างสันติ” ต้องเคลื่อนขบวนประชาชนออกมาสัก 5 แสนหรือ 1 ล้านคนตามราคาคุย เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา โดยมีเงื่อนไขว่าคนเสื้อแดง –พรรคเพื่อไทยขอทำสัญญาประชาคมว่าจะไม่ป่วนในสนามการหาเสียงเลือกตั้ง ขณะเดียวกันก่อนการเลือกตั้งจะอ้อนวอนให้ “คุณพ่อ” กลับมารับโทษทัณฑ์ให้จงได้...
รับรอง “ทักษิณ” กลับมาเข้าคุกก่อนเลือกตั้งสัก 7 วัน พรรคเพื่อไทยอาจชนะถล่มทลาย...แต่หากว่าคนหน้าเหลี่ยมต้องตรอมใจหรืออกแตกตายเสียก่อนก็ช่วยไม่ได้..!!
..............................
0 แม้จะพูดรู้เรื่องมากกว่าเก่าก่อน แต่กรณี “รัฐปัตตานี” แม้จะฟังกี่เที่ยวก็ยังแปลความไม่ได้ว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะเอายังไง ต้องไปถอดรหัสมาจากหนังสือ “สงครามครั้งสุดท้าย” ของเจ้าตัว จึงพอจะคาดเดาได้ว่า รูปแบบโครงสร้างของรัฐปัตตานี (ของจิ๋ว) น่าจะหมายถึง รูปแบบการปกครองส่วนท้องถิ่นแบบพิเศษขนาดใหญ่กว่า อบจ.หรือเทศบาล แต่เป็นการเลือกตั้งระดับนคร (รัฐ) โน่น...
สัปดาห์นี้ “บิ๊กจิ๋ว” จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ขายฝัน “รัฐปัตตานี” เป็นครั้งที่สอง บางกลุ่มฟังแล้วอาจเคลิ้ม แต่เมื่อจับทางได้ว่าวันนี้ “พ่อใหญ่จิ๋ว” เป็นเพียงลูกกระจ๊อกของนักโทษชายคนขายชาติคนจาบจ้วงสถาบัน มันจะเหลือราคาค่างวดใดๆ อีกหรือ..??
สัปดาห์ที่แล้วควงแขน คุณอมรเทพ อมรรัตนานนท์ ไปสุขุมวิท 35 เข้าโรงหมอ (จรัญ) เพื่อผ่าตา จัดการกับขนตาที่มันจาบจ้วงแทงลูกกะตาอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เลยงดไปหนึ่งฉบับ ขอบคุณที่ท่านผู้อ่าน พ่อแม่พี่น้อง (เอ๊ย) บางท่านโทรศัพท์ไปถามว่าหายไปไหน...
ถึงวันนี้ (11พ.ย.) ก็ผ่านมา 9 วันเต็มๆ แล้ว ตายังบวม สมาธิยังไม่นิ่ง ในขณะที่สถานการณ์รอบบ้านผ่านเมืองยิ่งป่วน...สารภาพว่ารู้สึกหงุดหงิด ไม่มีกะจิตกะใจที่จะเขียนอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราว หรืออ่านแล้วได้ความได้สาระจริงๆ
ขอถือวิสาสะใช้คอลัมน์บทความประจำวันนี้เปลี่ยนเป็นกึ่งๆ คอลัมน์สังคมซุบซิบแก้เครียดแก้หงุดหงิดซักครั้ง ก็แล้วกัน...
.................................
0 เสาร์ที่ 7 พ.ย. 52 ที่ผ่านมามัวแต่นอนลูกตาบวมไม่กล้าเจอหน้าผู้คน เลยไม่ได้ไปร่วมงานครบรอบ 62 ปีของเจ้าสำนักบ้านพระอาทิตย์ ว่าที่หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” รุ่งขึ้นท่านเลขาธิการพรรค สุริยะใส กตะศิลา บอกให้ไปร่วมแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของพรรค จึงได้พบกับคุณสนธิ และได้โอกาสมอบกรอบรูปเล็กๆ เป็นของขวัญในวันคล้ายวันเกิด ในกรอบรูปเป็นแค่ภาพเทียนเล่มเดียว และใครคนหนึ่งที่เดินเลือดอาบร่างเพราะระเบิดบาปกระสุนบ้าเมื่อเช้าตรู่วันที่ 17 เม.ย. 52
ลูกสาวเป็นคนออกแบบประกอบกลอนแปด 4 วรรค ที่ผมมอบให้คุณสนธิ
..เทียนเล่มเดียวพลิกโฉมหน้า ประวัติศาสตร์
จุดปัญญากู้ชาติกู้ยุคสมัย
ตำนานเลือด ตำนานธรรม ตอกย้ำใจ
เทียนแห่งธรรม ตอกย้ำชัย ให้แผ่นดิน..
นั่งสนทนาธรรมกับคุณสนธิและสุริยะใสพักหนึ่ง ก่อนผมจะแยกจากด้วยความซาบซึ้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพระห้อยคอบูชาที่คุณลุงฝากถึงหลานสาว...
......................................
0 ร่วม 6 ปีที่ได้ร่วมงานในชายคาบ้านพระอาทิตย์ ผมได้สัมผัสและแลเห็นอย่างชัดเจนว่าคนชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล ได้พิสูจน์ให้สังคมและฟ้าดินทราบและรับรู้ว่าเขาต่อสู้เพื่อความถูกต้องในสังคม สู้เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แต่บางครั้งความเป็นเครื่องบินที่บินเร็วกว่าเสียง อาจเกิดช่องว่างอยู่บ้าง
ในความคิดทางการเมือง ผมไม่เห็นด้วยกับคนชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล ในบางเรื่อง โดยเฉพาะช่วงปี 2547-48 แต่ส่วนใหญ่แล้วขอคารวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมองภาพรวมของสถานการณ์ มองต้นไม้ทั้งป่า มองผู้คนในแวดวงธุรกิจ-การเมืองแบบทะลุลอด..
กรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (ไทย-กัมพูชา) สนธิคือคนแรกๆ ที่นำมาตีแผ่เงื่อนงำ เงื่อนปมผลประโยชน์ที่โยงใยถึงระบอบทักษิณอย่างทะลุทะลวงและเป็นระบบ จากการจุดชนวน เปิดประเด็นข้อมูลเบื้องต้นของเหยี่ยวข่าวสายทหารผู้อาวุโส ผู้ล่วงลับไปแล้ว นาม ปรีชา กุลปรีชา...
คำนูณ สิทธิสมาน ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คือผู้อยู่เบื้องหลังสืบค้นและสืบสานข้อมูลในวันนั้นและเวลาต่อมา ผมร่วมแจมบ้างก็เป็นเพียงบางครั้ง กระทั่งต่อมาเกิดกรณี ปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2551 ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์, อ.เทพมนตรี ลิมปพยอม และใครต่อใครอีกหลายคนได้ช่วยกันต่อยอด จนมองเห็นภาพจากหลุมก๊าซ – น้ำมันกว่า5 ล้านล้านบาทในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ถึงปราสาทพระวิหารที่กำลังเดิมพันด้วยคำว่า “มรดกโลก” ได้อย่างแจ่มชัด สามารถอ่านทะลุจากเอ็มโอยู และแถลงการณ์ร่วม 2544 จนถึงแถลงการณ์ร่วมไทย –กัมพูชา 2551 รวมทั้งร่างข้อตกลงไทย–กัมพูชา 3 ฉบับที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ขอถอนออกจากวาระการประชุมของรัฐสภาในสัปดาห์นี้..
การขายชาติยุคดิจิตอล ยอกย้อนซ่อนเงื่อน แต่ทุกฆาตกรรมฆาตกรย่อมทิ้งร่องรอยเสมอ..สนธิคือคนสำคัญที่ค้นพบร่องรอยนั้น...
..........................
0 ระหว่าง นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กับ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน หรือ นายฮุนเซน ใครใช้ใครใครขี่ใครก็ว่ากันไป แต่ที่แน่นอนทั้งคู่มี “ผลประโยชน์ร่วม” บางคนบอกว่าการที่ฮุนเซนจัดการให้ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี กษัตริย์กัมพูชาทรงลงนามในพระราชกฤษฎีกากรณีแต่งตั้งทักษิณ มันคือหมากบังคับทักษิณ มันคือความเหนือกว่า...
ฮุนเซนเคยเป็นทหารเขมรแดง วันหนึ่งเอากองทัพเวียดนามมายึดเขมร เขาขึ้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศก่อนจะเป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นกระชับอำนาจแบบดิบๆ สถาปนาตัวเองเป็นสมเด็จฯ และเดินหน้าที่จะเป็นเจ้าหรือประมุขประเทศแต่เพียงหนึ่งเดียว หมายถึงสุดท้ายต้องทำให้สถาบันกษัตริย์ล่มสลาย...
นั่นคือ “ฮุนเซนโมเดล” ที่ ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน และนักวิชาการบางคนพยายามชี้ชวนให้ขบคิด...
ชี้ชวนให้ขบคิดพร้อมๆ กับจับตาก้าวย่างของคนชื่อ “ทักษิณ” ที่นับวันจะไต่เส้นลวด “ฮุนเซนโมเดล” ดังกรณีหลังสุดการให้สัมภาษณ์ทายท้า-จาบจ้วงล่วงเกินต่อสถาบันผ่านนสพ.เดอะไทมส์ ออนไลน์...มันคือหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนว่า “ทักษิณ” วาดภาพวางเกมข้ามช็อตไว้อย่างไร และอุบาทว์ชั่วช้าเพียงใด..
...............................
0 หลังงาน “เพื่อนร่วมร้อง พี่น้องร่วมรบ” 14 พ.ย.ที่เขาใหญ่ กองทัพคนเสื้อแดงก็รอทำศึกใหญ่แตกหักกับรัฐบาล แต่เดิมกำหนดไว้ 24 พ.ย.หรืออย่างเร็ว 20 พ.ย. แต่พอ “คุณพ่อ” นักโทษชายมาสะดุดกรณีบทสัมภาษณ์จาบจ้วงแผนการต่างๆ อาจเปลี่ยนแปลงไป ประการสำคัญ..พลังที่ฮึกห้าวเหิมหาญของแนวร่วมที่รอทำศึกใหญ่วันนี้อาจห่อหดลงไปมาก
วันนี้ “ทักษิณ” อย่าคิดว่าเกมแตกหักรุนแรงแบบนองเลือดจลาจลจะเอาชนะหรือล้มกระดานอำนาจได้ ดีไม่ดีอาจถูกกวาดรอบสอง...
ขอเสนอให้เอาบุญถ้าอยากล้มรัฐบาลแบบ “เปลี่ยนผ่านอย่างสันติ” ต้องเคลื่อนขบวนประชาชนออกมาสัก 5 แสนหรือ 1 ล้านคนตามราคาคุย เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา โดยมีเงื่อนไขว่าคนเสื้อแดง –พรรคเพื่อไทยขอทำสัญญาประชาคมว่าจะไม่ป่วนในสนามการหาเสียงเลือกตั้ง ขณะเดียวกันก่อนการเลือกตั้งจะอ้อนวอนให้ “คุณพ่อ” กลับมารับโทษทัณฑ์ให้จงได้...
รับรอง “ทักษิณ” กลับมาเข้าคุกก่อนเลือกตั้งสัก 7 วัน พรรคเพื่อไทยอาจชนะถล่มทลาย...แต่หากว่าคนหน้าเหลี่ยมต้องตรอมใจหรืออกแตกตายเสียก่อนก็ช่วยไม่ได้..!!
..............................
0 แม้จะพูดรู้เรื่องมากกว่าเก่าก่อน แต่กรณี “รัฐปัตตานี” แม้จะฟังกี่เที่ยวก็ยังแปลความไม่ได้ว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะเอายังไง ต้องไปถอดรหัสมาจากหนังสือ “สงครามครั้งสุดท้าย” ของเจ้าตัว จึงพอจะคาดเดาได้ว่า รูปแบบโครงสร้างของรัฐปัตตานี (ของจิ๋ว) น่าจะหมายถึง รูปแบบการปกครองส่วนท้องถิ่นแบบพิเศษขนาดใหญ่กว่า อบจ.หรือเทศบาล แต่เป็นการเลือกตั้งระดับนคร (รัฐ) โน่น...
สัปดาห์นี้ “บิ๊กจิ๋ว” จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ขายฝัน “รัฐปัตตานี” เป็นครั้งที่สอง บางกลุ่มฟังแล้วอาจเคลิ้ม แต่เมื่อจับทางได้ว่าวันนี้ “พ่อใหญ่จิ๋ว” เป็นเพียงลูกกระจ๊อกของนักโทษชายคนขายชาติคนจาบจ้วงสถาบัน มันจะเหลือราคาค่างวดใดๆ อีกหรือ..??