กัมพูชาส่งหนังสือตอบกลับ แจงข้อกล่าวหา “ศิวรักษ์” แล้ว ยันต้องใช้ทนายกัมพูชาเท่านั้น และต้องเป็นคนที่ปกป้องเรื่องสิทธิมนุษยชนด้วย แต่กระทรวงยุติธรรม จัด จนท.ชั้นผู้ใหญ่เข้าไปดูแลร่วม ปัดไม่มีการสั่งการให้ขโมยตารางบิน วอน “ทักษิณ” อย่าก้าวก่ายเจรจาช่วยเหลือ เกรงปัญหาซับซ้อนขึ้น
วันนี้ (18 พ.ย.) นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ได้รายงานว่า ทางการกัมพูชามีหนังสือชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการจับกุมตัว นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ พนักงานบริษัท คัมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิส (CATS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท สามารถฯ รวมถึงแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวถือว่าอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานเพื่อจัดหาทนายความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ เนื่องจากในกฎหมายกัมพูชา ได้ระบุว่า ต้องเป็นทนายความชาวกัมพูชาเท่านั้น จึงจะสามารถว่าความด้วยได้ แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ นายศิวรักษ์ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายในการจัดหาทนายความให้ แต่จะสำรองจ่ายไปก่อน หากนายศิวรักษ์ ยังไม่พร้อมในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จะมั่นใจได้อย่างไร ว่า นายศิวรักษ์ จะได้รับความเป็นธรรม หากให้ทนายความชาวกัมพูชาว่าความให้ นายธานี กล่าวว่า ทนายที่ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อให้เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ทำคดีต่างๆ เรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยในชั้นนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาจะจัดส่งทนายคนไทยไปเป็นที่ปรึกษา แต่เห็นว่า ทางกระทรวงยุติธรรมได้ส่งผู้ใหญ่ในกระทรวงไปดูแลเรื่องดังกล่าวแล้ว
ถามว่า ขณะนี้ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะทบทวนท่าทีต่อความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาหรือไม่ นายธานี กล่าวว่า นายกษิต ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งการทบทวนความสัมพันธ์ต้องประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้รายงานนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ เพื่อให้รับทราบสถานการณ์ล่าสุดเป็นระยะ
เมื่อถามว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ อ้างว่า ทางกัมพูชามีเทปลับเกี่ยวกับการพูดคุยระหว่างนายกษิต กับ นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกของสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ และเทปลับระหว่างเลขานุการเอก กับ นายศิวรักษ์ เกี่ยวกับการโจรกรรมข้อมูลการบิน ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไร นายธานี กล่าวว่า หากเป็นเรื่องจริงก็แปลกใจ ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่เคยดำเนินการตามข้อกล่าวหา ที่จะขัดต่อกฎหมายของกัมพูชา หาก นายจตุพร มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ต้องดูว่า เป็นข้อมูลในบริบทใด อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการต่างประเทศ ขอย้ำว่า เราไม่เคยทำอะไรที่ขัดต่อสถานภาพข้าราชการนักการทูต
ส่วนกรณีที่มีข่าว ระบุว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทย จะเข้าไปช่วยเหลือนายศิวรักษ์ กลับประเทศไทยอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการช่วยเหลือของรัฐบาลหรือไม่ นายธานี กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากการเดินทางของอดีตนายกรัฐมนตรีในกัมพูชา แต่หากใครยื่นมือมาช่วยก็เป็นเรื่องดี แต่อย่าทำให้เรื่องซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ส่วนที่มีการมองว่า เรื่องนี้เป็นเกมการเมือง นายธานี กล่าวว่า ควรมอง นายศิวรักษ์ เป็นตัวตั้ง หากมีการปล่อยตัวก็เป็นเรื่องน่ายินดีอยู่แล้ว ฝ่ายไทยยังมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา และหวังว่า ฝ่ายกัมพูชาจะให้เป็นธรรมกับนายศิวรักษ์ นอกจากนี้ นายธานี เปิดเผยว่า นางสาวมธุรพจนา อินธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้พามารดาและน้องชายของนายศิวรักษ์ ไปทำหนังสือเดินทางที่สำนักงานหนังสือเดินทางจังหวัดนครราชสีมา เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อม หากมีการประสานมาจากทางกัมพูชาอนุญาตให้เยี่ยม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า จะได้เดินทางไปเมื่อใด ส่วนค่าใช้จ่ายการเดินทางไปกัมพูชาของมารดา นายศิวรักษ์ นายธานี กล่าวว่า กรณีนี้ ทางรัฐบาลจะพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยจะดูอีกทีว่าจะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการเดินทางอย่างไรบ้าง
