เลขาฯ รมว.ต่างประเทศ มั่นใจจะเจรจาขอพบวิศวกรไทยในเรือนจำกัมพูชาให้ได้ ตั้งธงถามตกเป็นผู้ต้องโทษในคดีอะไร ท้าพิสูจน์ข้อหาล้วงความลับ ยันรัฐบาลไม่มีนโยบายจารกรรมข้อมูลกัมพูชา ชี้ชัดงานนี้การเมืองเบื้องหลัง เมินคำทักท้วง “สุเทพ” ให้ทบทวนความสัมพันธ์เขมร ยืนยันใช้ความอดกลั้นตอบโต้โดยใช้ช่องทางการทูต แต่ต้องรักษาเกียรติภูมิของประเทศด้วย ย้ำปัญหานี้ รบ.ไม่ได้เป็นคนก่อ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (16 พ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการให้การช่วยเหลือนายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วิศวกรบริษัทสามารถเทเลคอม ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมในข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินในประเทศกัมพูชาว่า ตอนนี้กำลังจะไปคุยกับทางกรมราชทัณฑ์กัมพูชาว่า ต้องดำเนินการอย่างไร เพราะทางกัมพูชาต้องชี้แจงเราว่า ข้อกล่าวหาที่จับกุมคนของไทยเรื่องอะไร สาเหตุคืออะไร สภาพความเป็นอยู่เป็นอย่างไร ต้องให้เราเข้าไปเยี่ยม ซึ่งจนถึงขณะนี้ทางกัมพูชายังไม่แจงไทยเลยว่า จับกุมข้อหาอะไร เป็นเพียงข่าวที่ออกตามหน้าหนังสือพิมพ์ ขณะที่ นายคำรบ ปาลวิวัฒน์วิชัย เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ได้เข้ารายงานตัวกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานไปยังบริษัท สามารถ แล้ว ในการเร่งรัดตั้งทนายเข้าไปดำเนินการ และทางกระทรวงการต่างประเทศก็ช่วยหาทนายมือดีๆ ในกรณีแบบนี้มีใครบ้างที่กัมพูชา และแนะนำให้ทางบริษัทสามารถ เขาติดต่อเป็นทนายให้กับนายศิวรักษ์
นายชวนนน์กล่าวต่อว่า ส่วนทางครอบครัวของนายศิวรักษ์ได้มีการประสานเรียบร้อยแล้วกับทางคุณแม่ของศิวรักษ์ นางสิมารักษ์ ณ นครพนม โดยได้เล่าให้ฟังถึงกระบวนการขั้นตอนว่า ได้ดำเนินการอะไรอยู่ ก็ขอให้วางใจในระดับหนึ่งว่า เราพยายามช่วยอยู่อย่างเต็มที่ สำหรับแนวทางการให้การช่วยเหลือวิศวกรของไทย ที่ถูกจับกุมในกัมพูชานั้น นายชวนนท์กล่าวว่า เราก็ต้องดูก่อนว่าข้อกล่าวหาเป็นเรื่องอะไร ถ้ามันมาพาดพิงว่าเป็นการจารกรรมข้อมูลให้กับรัฐบาล อันนี้เราก็ต้องปฏิเสธทันที ช่วยเขาเต็มที่ เราไม่มีนโยบาย และสามารถพิสูจน์ได้ อีกอย่างเขาต้องเสนอหลักฐานออกมาให้ชัดเจน ในการมากล่าวหาคนไทย แต่เนื่องจากกัมพูชายังไม่ตอบเราว่า จับด้วยข้อหาอะไร จึงไม่อยากพูดอะไรล่วงหน้าไปก่อน ตนยืนยันว่าวันนี้ในการเจรจาขอเข้าพบนายศิวรักษ์ต้องทำให้ได้ สมมุติถ้ากัมพูชาปฏิเสธก็ต้องมีเหตุผลดีพอที่จะบอกเรา หรือกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างไรก็ต้องบอกเรา จะปฏิเสธไทยเฉยๆ ไม่ได้
ส่วนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ระบุว่าอยากให้กระทรวงการต่างประเทศมีท่าทีที่อ่อนลงมากกว่านี้นั้น
“คิดว่าเราทำด้วยความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด ระมัดระวังมาโดยตลอด ประคับประคองอยู่ในช่องทางการทูตมาโดยตลอด เราก็คงต้องรักษาเกียรติภูมิ รักษาความสมดุลทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ส่วนการที่นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชาควรมีการเจรจากัน เพราะถึงอย่างไรสัมพันธ์ต้องมีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์อยู่ดี ผมก็พร้อมรับคำแนะนำอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลไม่ได้เป็นคนก่อ คำตอบต่างๆ หรือทางออกต่างๆ ความจริงก็อยู่ที่กัมพูชา ที่เขาทราบดีว่าจะเริ่มต้นหรือแก้ไขปัญหาอย่างไร เจรจาได้ แต่เท่าที่เห็นยังไม่เห็นท่าทีของสมเด็จฯ ฮุนเซนว่า อยากเจรจา ซึ่งก็ต้องดูเหตุดูผลด้วยว่า เขาพร้อมที่จะเจรจากับเราหรือไม่” นายชวนนท์ กล่าว
เมื่อถามว่า มองว่าทางกัมพูชาเองพยายามเยื้อการเจรจาออกไปหรือไม่ เลขาฯ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ก็ต้องวิเคราะห์ดู เพราะดูเหมือนว่า มีขบวนการสร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชาอยู่ ยิ่งมามีขบวนการแบบนี้การดำเนินการใดๆ ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง มันชัดเจนว่า เรื่องนี้พี่น้องประชาชนไม่เกี่ยว มันเป็นเรื่องระหว่างรัฐต่อรัฐ การที่มีผู้พยายามทำให้มันแย่ลง หรือเลวร้ายบานปลายขึ้น อันนี้เราก็ต้องระมัดระวัง ไม่ให้กระทบต่อพี่น้องประชาชน ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เดี๋ยวก็ถูกปล่อยตัว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง นายชวนนท์กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งชัดว่าเป็นเรื่องการเมือง
“ก็แสดงว่ามีการกลั่นแกล้งคนไทย จับคนไทยไป 2-3 วันเพื่อจะเอาคะแนนชื่อเสียงให้กับตัวเอง การที่ก่อนหน้านี้เคยมีผู้สื่อข่าวติดต่อขอเข้าพบนายศิวรักษ์แต่ไม่ได้ ก็ชัดเจนเรื่องนี้อาจจะมีอะไรเบื้องหลังอยู่ เพราะทางกรมราชทัณฑ์เองต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาการ โดยทางอุปทูต กำลังไปเจรจากับอธิบดีกรมการกงสุลของที่กัมพูชาอยู่” นายชวนนท์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง ส.ส.พรรคเพื่อไทยเองระบุว่าในช่วงนี้ พ.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมายังประเทศกัมพูชาบ่อยขึ้น นายชวนนท์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเข้าไปกี่ครั้ง เราก็ดำเนินการเหมือนเดิม ก็จะทำหนังสือของตัวไปเอง เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่อยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ทำก็เท่ากับว่า เป็นการละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยเขาก็ยืนยันว่าจะดูอย่างเต็มที่ ในเรือนจำก็มีหมอถ้าเกิดอะไรขึ้นเขาก็ดูแลได้อย่างทันท่วงที
นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าให้ดำเนินการพบกับนายศิวรักษ์ให้ได้ ถ้าเขาจะกีดกันแล้วต้องมีเหตุผลดีพอที่จะบอกเรา เพราะวันนี้คุณศิวรักษ์เป็นเพียงผู้ที่ถูกกล่าวหา ยังไม่มีการพิสูจน์ เราก็ต้องดูแลคนของเราอย่างดี กระบวนการที่กล่าวหาคนไทย รัฐบาลไทยก็ปฏิเสธได้ตรงนี้เลยว่าไม่จริง การจารกรรมข้อมูลซึ่งไม่มีเหตุมีผล ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความลับ และรัฐบาลไม่เคยมีการสั่งการให้ไปขโมยข้อมูลของใคร ถ้าเป็นกรณีนี้เราต้องดำเนินการชัดเจน หนักแน่นมากขึ้น
เมื่อถามว่า หลังจากนี้ต้องดูแลเจ้าหน้าที่และประชาชนที่อยู่กัมพูชาอย่างไรบ้าง นายชวนนท์กล่าวว่า ต้องบอกคนไทยทุกคนที่อยู่ในกัมพูชาว่า สถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ มีความพยายามบิดเบือนมากขึ้น ถ้าอาศัยอยู่ในกัมพูชาต้องระมัดระวัง และมีอะไรให้ประสานสถานทูตไทยในกัมพูชามากขึ้น เราต้องดูแลคนของเราอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่อยากพูดล่วงหน้าว่า จะทำอะไรต่อไปบ้าง สำหรับคนไทยที่กัมพูชาเป็นหลักพัน แต่ไม่ถึงหลักหมื่น ซึ่งมาตรการฉุกเฉินในการอพยพคนไทยกลับหากเกิดเหตุการณ์บานปลาย ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงมีมาตรการอยู่แล้ว