“เจ๊วา” เตรียมแจง ครม. หลังโครงการประกันรายได้พืชผลเกษตรกร พบสารพัดปัญหา รายงานระบุถึงอุปสรรคสำคัญขับเคลื่อนโครงการเกิดจากชาวบ้านเข้าใจยาก เตรียมใช้สื่อสารรูปแบบใหม่เข้าใจง่ายช่วยสอน พร้อมชงของบ 1.7 พันล้าน เดินหน้าประกันพืชผล
วันนี้ (9 พ.ย.) นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพาณิชย์ เตรียมเสนอรายงานผลการดำเนินโครงการประกันรายได้พืชผลเกษตรกรให้ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบ ทั้งนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์อ้างว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการตลาด ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนเกษตรกร และผู้ประกอบการค้าข้าว กระทรวงพาณิชย์ ได้รับทราบปัญหา รวมทั้งข้อร้องเรียนต่างๆ
กระทรวงพาณิชย์ระบุในรายงานว่า การปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถรับช่วงกันได้ทันตามขั้นตอนที่กำหนด ทั้งนี้จากข้อมูลเดือน ต.ค. มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนการปลูกข้าวนาปี จำนวน 2.8 ล้านครัวเรือน ทำประชาคม 1.7 ล้านครัวเรือน แต่มีการทำสัญญาประกันรายได้กับธนาคารเพื่อเกษตรและสหกรณ์ 502,802 ครัวเรือน เนื่องจากเกษตรกรที่ทำประชาคมยังไม่สามารถทำสัญญาได้ จะต้องผ่านการสอบทานข้อมูลของคณะกรรมการระดับอำเภอและตำบล
“เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีความเข้าใจหลักการของการประกันรายได้ ยังเข้าใจว่าจะต้องมีการซื้อขายผลผลิตก่อนขอรับเงินชดเชยรายได้รวมทั้งขาดความเข้าใจในกระบวนการที่จะใช้สิทธิประกันรายได้ และมีความเห็นว่ารัฐบาลประกาศราคาตลาดอ้างอิง (เกณฑ์อ้างอิง) สูงเกินกว่าราคาตลาดรับซื้อเกษตรกร ไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตได้ตามราคาที่ประกาศ” รายงานระบุ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์เสนอแนวทางแก้ไขต่อ ครม.ว่า หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องบูรณาการร่วมกันในการเร่งดำเนินการสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรในการประกันรายได้สินค้าเกษตรเพื่อให้เกษตรกรเข้าใจหลักการขั้นตอนการใช้สิทธิ รวมทั้งยอมรับเกณฑ์ปริมาณการใช้สิทธิของเกษตรกรรายครัวเรือน ซึ่งมีเกษตรกรบางส่วนที่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากโครงการต่ำกว่ามาตรฐานการรับจำนำ
แต่ในภาพรวมมีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% ทั้งนี้ การดำเนินการสร้างความเข้าใจจะต้องดำเนินการลักษณะปูพรมทั่วประเทศในช่วงระยะเวลาสั้นโดยเจาะจงถึงตัวเกษตรกร ใช้การสื่อสารที่เข้าใจง่ายซึ่งแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ให้ทันต่อสถานการณ์ที่ขณะนี้เกษตรกรได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตและจะขอใช้สิทธิตามโครงการแล้ว
วันเดียวกัน กระทรวงการคลัง เสนอเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรให้ ครม.พิจารณา โดยกำหนดค่าใช้จ่ายของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จำนวนเงิน 382 บาทต่อเกษตรกร 1 ราย และในกรณีที่เกษตรกรไม่ใช้สิทธิตามสัญญาการประกันรายได้เพื่อรับเงินชดเชยส่วนตัวระหว่างราคาประกันกับเกณฑ์กลางอ้างอิง จะกำหนดค่าใช้จ่ายจำนวน 356 บาทต่อเกษตรกร 1 ราย ประมาณการเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 4.47 ล้านคน คิดเป็นวงเงิน 1,706 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. จะเบิกรับค่าใช้จ่ายตามจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น