เคาะข่าวริมโขง : เตือน “จิ๋ว” ระวังเสียคนตอนแก่ ช่วย “นช.แม้ว” ทรยศชาติ รังแต่จะเสีย ทำตัวเยี่ยงโฆษกเขมร คอยคาบข่าว "ฮุนเซน" มาบอก โม้ผู้นำเขมร สร้างบ้านรอต้อนรับ "นช.แม้ว" ขณะที่ "ตท.10" ตบเท้าเข้า "เพื่อไทย" เต็มใจโดนหลอกช่วยสร้างภาพทหารหนุน "นช.แม้ว"
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.ผมหอม แสวงดี เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ และ นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ พิธีกรรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี มาร่วมพูดคุยในรายการถึงหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้ไปร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย และได้เดินทางไปพบ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณี บรรดา ตท.รุ่น 10 ตบเท้าเข้าสวามิภักดิ์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
น.ส.ผมหอม เปิดประเด็นกรณี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.และพรรคพวก จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้นำ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่หัวหิน ซึ่งวันนี้ มีกระแสข่าวว่า นายอริสมันต์ ไปป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้สถานที่จัดการประชุมแล้ว แต่ทางด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กลับบอกว่า เรื่อง นายอริสมันต์ ไม่น่าเป็นห่วง เพราะได้มีการวางระบบรักษาความปลอดภัยในการประชุมอย่างสูงสุด โดยถ้าหากเกิดเหตุวุ่นวาย ก็สามารถจับกุมแกนนำ นปช.ได้ทันที ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.อีกคน ได้ออกมาระบุว่า หากการประชุมสุดยอดอาเซียน มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นจะไม่รับผิดชอบ เพราะไม่ใช่การกระทำของคนเสื้อแดง โดยอ้างว่า ตอนนี้ได้ข่าวมาว่า รัฐบาลเตรียมจัดฉากแจกเสื้อแดงและไปเล่นละครตบตา เพื่อป้ายสีว่าคนเสื้อแดงเป็นพวกก่อเหตุรุนแรง
นายโสภณ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องจับตาดู ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปก่อเหตุอะไรเหมือนกับครั้งที่จัดการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่พัทยา หรือไม่ ส่วนที่ข่าวมาว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะขึ้นมาก่อเหตุร้ายในการประชุมครั้งดังกล่าว ตนไม่เชื่อข่าวลือนี้ เนื่องจากหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น คนที่น่าสงสัยมากที่สุด คงไม่ใช่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เพราะตนเชื่อว่า มีความคิดมากกว่ากลุ่มคนเสื้อแดง ที่เคยฉีกหน้าประเทศไทยด้วยการบุกไปทำลายการประชุมที่พัทยาเมื่อครั้งที่แล้ว
ต่อมา น.ส.ผมหอม เปิดประเด็นถึงกรณี พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นผู้ส่ง พล.อ.ชวลิต ไปป่วนพรรคเพื่อไทย ทำให้ตนเชื่อว่า พล.อ.ชวลิต เป็นหมากเดินเกมทำหน้าที่เหมือนม้าเมืองทอยด์ ในหนังฮอลลีวูดเรื่องดัง เพราะการที่ พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบ สมเด็จฯ ฮุนเซน แล้วกลับมาให้ข่าวว่า ผู้นำกัมพูชา มีการสร้างบ้านหลังใหญ่โตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หากต้องการลี้ภัยมายังกัมพูชา ซึ่งตนมองว่า เรื่องจริง พ.ต.ท.ทักษิณ มาอยู่กัมพูชา ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะติดข้อ กม.เรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลสำคัญพอที่ พล.อ.ชวลิต จะต้องออกมาให้ข่าวที่ไม่เป็นผลดีกับฝ่ายตัวเอง
นายโสภณ กล่าวต่อว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ถือว่ามีความฉลาด ที่พูดแบบได้กับได้ คือ ไม่เสียมิตรอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่รู้ว่ายังไงก็มาอยู่ไม่ได้ แต่ก็พูดเพื่อเอาใจ ส่วนทาง พล.อ.ชวลิต ที่กลับมาให้ข่าว ทางสมเด็จฯ ฮุนเซน เอง ก็คงตกใจเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ ตนเชื่อว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ได้ต้องการอยากจะเป็นข่าว แต่ต้องส่งสัญญาณบางอย่างไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ทราบเรื่องนี้ เพื่อที่จะหักหน้ารัฐบาลไทย
นายอมรเทพ กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้ ตนก็เคยได้ยินข่าวที่ พล.อ.เปรม เป็นคนส่ง พล.อ.ชวลิต ไปสลายพรรคเพื่อไทย โดยถือเป็นการสร้างวีรกรรมหลังเกษียณของ พล.อ.ชวลิต ที่เคยอยู่ร่วมเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองมามากมาย ดังนั้น การที่ พล.อ.ชวลิต หันไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ตนว่าเป็นปฏิบัติการสลายกลุ่มสีแดง เพราะขณะนี้โทรทัศน์ช่องสีแดง ก็เริ่มมีเนื้อหานำเสนอที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งที่ หากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ก็นับว่า พล.อ.ชวลิต เป็นหมากตัวสำคัญ แต่ถ้าหากมองในมุมกลับ การที่ พล.อ.ชวลิต ทำเช่นนี้ อาจเป็นความต้องการเงินตอบแทนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ ไม่แน่บางทีไปเยือนกัมพูชาครั้งนี้ อาจได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมา
นายอมรเทพ กล่าวอีกว่า พล.อ.ชวลิต เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี และตำแหน่งสำคัญของประเทศมากมาย แต่ไม่รู้หรืออย่างไรว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนเช่นไร อีกคนที่น่าตำหนิที่สุด คือ ทาง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ควรจะตอบโต้คำตอบ สมเด็จฯ ฮุนเซน ไปเลย ที่มีสิทธิ์อะไรมาสามหาววิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมไทย ว่า ไม่ยุติธรรมต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่มีสถานะเป็นนักโทษหนีคดีหลบหนีอยู่
“ผมงงมากว่าคนอย่าง พล.อ.ชวลิต ผ่านอะไรมาเยอะ แต่กลับหันไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย สิ่งเหล่านี้มันทำให้รู้ว่า พล.อ.ชวลิต ที่เคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และตำแหน่งสำคัญระดับประเทศมากมาย แต่สิ่งที่ พล.อ.ชวลิต ไม่เคยทำเลย คือ การเป็นผู้ออกมาปกป้องชาติชื่อเสียงของชาติตัวเอง” นายอมรเทพ กล่าว
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า พอกลับจากกัมพูชา พล.อ.ชวลิต ให้ข่าวเสมือนเป็นโฆษกของ สมเด็จฯ ฮุนเซน ที่คอยปกป้องผลประโยชน์ประเทศเพื่อนบ้าน มากกว่าผลประโยชน์ของประเทศตัวเอง มีการออกมาให้ข่าวสวยหรู ว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน สร้างบ้านหลังใหญ่สมเกียรติให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ตามข่าวจริงๆ เป็นการปรับปรุงตึกร้างเก่าๆ ให้ดูดีขึ้นเท่านั้น
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ชวลิต สมเด็จฯ ฮุนเซน หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ล้วนแล้วแต่เคยเป็นศัตรูกันในอดีต ดังนั้น ตนเชื่อว่า การคบหากันเพื่อผลประโยชน์ มันไม่มีความยั่งยืนและความจีรัง ทั้งที่เมื่อก่อนเกลียดกันถึงขั้นไม่เผาผี แต่ตอนนี้ต้องมาแสร้งดีกัน เพราะผลประโยชน์จำนวนมหาศาล
นายโสภณ กล่าวประเด็นเดียวกันว่า การกระทำของ พล.อ.ชวลิต ถือเป็นการชักศึกเข้าบ้านและนำหอกข้างแคร่มาอยู่ใกล้ประเทศตัวเองด้วย ซึ่งสำหรับตนแล้ว นับว่าเหลือเชื่อมากที่มีคนเช่นนี้อยู่ในประเทศ โดยตนไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้ร้องเพลงชาติได้อย่างไร ทั้งที่เคยปฏิญาณตนไว้ว่าจะทำเพื่อชาติ ปกป้องสถาบัน แต่พอถอดชุดสีเขียว ก็หันไปใส่เสื้อแดงทันที คนพวกนี้ แม้เกษียณไปแล้ว แต่ก็ยังกินเงินภาษีประชาชน แต่เป็นพวกที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้แก่ประเทศตัวเอง
นายชัชวาลย์ กล่าวถึงกระแสข่าวลือที่มีนายทหารออกมาพูดจาสองแง่สองง่าม ส่อว่าจาบจ้วงเบื้องสูง โดยระบุว่า ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญที่ต่อกรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้อายุขัยมากแล้ว และเชื่อว่า จะอยู่อีกไม่นานเท่าไหร่
นายโสภณ กล่าวประเด็นนี้ว่า คงไม่ต้องสงสัยว่านายทหารคนนี้หมายถึงใคร แต่สิ่งที่คิดต่อเรื่องนี้ได้ คือ บรรดาทหารที่ไปด้วยกันนี้ คิดอย่างไรกับสิ่งที่นายทหารคนนี้พูดมา เพราะชัดเจนเวลากำลังพูดถึงบุคคลใด เนื่องจาก พล.อ.เปรม เวลานี้ก็ยังคงแข็งแรงดี ดังนั้น คงไม่ใช่ พล.อ.เปรม แน่นอน ที่นายทหารคนนั้นต้องการพาดพิงถึง ตนจึงไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้ที่เคยไปเดินสวนสนาม และปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ทำไมถึงออกมาทำเช่นนี้ มันแสดงให้เห็นว่าเป็นพวกรักเพื่อนมากกว่าชาติหรือ สำหรับเตรียมทหาร รุ่น 10 ต่อให้พรรคพวกกระทำผิดอย่างไร ก็จะมองว่าคนๆ นั้น ทำถูก ทั้งที่คนพวกนี้ต้องการเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
นายอมรเทพ กล่าวเสริมว่า ตนคิดว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังคิดหรือกำลังทำอยู่ ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ยุทธศาสตร์ขั้นสุดท้ายแล้ว โดยสอดคล้องกับการปล่อยข่าวเข้าหูเสื้อแดง เรื่องการตั้งรัฐไทยใหม่ ซึ่งตนอยากเตือนฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาล ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กหรือเรื่องเล่นๆ ตนอยากให้ทางการเข้มแข็งและจริงจังมากกว่านี้ ต้องจัดการคนพวกนี้ที่เป็นทหารรับจ้าง ที่นับวันจะยิ่งหาคุณนามความดีไม่เจอ
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า เตรียมทหารรุ่น 10 เดินตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่า เป็นการจัดฉากเท่านั้น พวกนี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักของคนในประเทศเลย บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาจากไหน ตนจึงถือว่าเป็นการเอาตัวประกอบมาทำให้ประชาชนเห็นถึงปรากฏการณ์จอมปลอมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามสร้างขึ้น ให้เห็นว่า การที่ทหารมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำถูกมาตลอด แต่โดนรัฐบาลกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการจุดประเด็นใหม่ เป็นการเล่นเกมการเมืองนอกสนาม ทั้งที่จริงๆ แล้ว พวกทหารที่ตบเท้าร่วมพรรคเพื่อไทย เป็นแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเตรียมทหารทั้งหมด เนื่องจาก หากถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำถูก หรือพรรคเพื่อไทย ดีจริง ทำไมไม่มีเตรียมทหารรุ่นอื่น ทำไมมีแค่รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายอมรเทพ กล่าวปิดท้ายว่า เท่าที่ตนทราบ คงไม่ใช่ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ที่นายทหารคนดังกล่าวออกมาระบุ ว่า จะอยู่อีกไม่นาน แต่ตนคิดว่า คนที่ดูไบมากกว่าที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะเท่าที่รู้ ก็ป่วยด้วยหลายโรครุมเร้า ทั้งมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือโรคเลือดเป็นพิษ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย น.ส.ผมหอม แสวงดี เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ และ นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ พิธีกรรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี มาร่วมพูดคุยในรายการถึงหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้ไปร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย และได้เดินทางไปพบ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณี บรรดา ตท.รุ่น 10 ตบเท้าเข้าสวามิภักดิ์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
น.ส.ผมหอม เปิดประเด็นกรณี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.และพรรคพวก จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้นำ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่หัวหิน ซึ่งวันนี้ มีกระแสข่าวว่า นายอริสมันต์ ไปป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้สถานที่จัดการประชุมแล้ว แต่ทางด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กลับบอกว่า เรื่อง นายอริสมันต์ ไม่น่าเป็นห่วง เพราะได้มีการวางระบบรักษาความปลอดภัยในการประชุมอย่างสูงสุด โดยถ้าหากเกิดเหตุวุ่นวาย ก็สามารถจับกุมแกนนำ นปช.ได้ทันที ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.อีกคน ได้ออกมาระบุว่า หากการประชุมสุดยอดอาเซียน มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นจะไม่รับผิดชอบ เพราะไม่ใช่การกระทำของคนเสื้อแดง โดยอ้างว่า ตอนนี้ได้ข่าวมาว่า รัฐบาลเตรียมจัดฉากแจกเสื้อแดงและไปเล่นละครตบตา เพื่อป้ายสีว่าคนเสื้อแดงเป็นพวกก่อเหตุรุนแรง
นายโสภณ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องจับตาดู ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปก่อเหตุอะไรเหมือนกับครั้งที่จัดการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่พัทยา หรือไม่ ส่วนที่ข่าวมาว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะขึ้นมาก่อเหตุร้ายในการประชุมครั้งดังกล่าว ตนไม่เชื่อข่าวลือนี้ เนื่องจากหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น คนที่น่าสงสัยมากที่สุด คงไม่ใช่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เพราะตนเชื่อว่า มีความคิดมากกว่ากลุ่มคนเสื้อแดง ที่เคยฉีกหน้าประเทศไทยด้วยการบุกไปทำลายการประชุมที่พัทยาเมื่อครั้งที่แล้ว
ต่อมา น.ส.ผมหอม เปิดประเด็นถึงกรณี พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นผู้ส่ง พล.อ.ชวลิต ไปป่วนพรรคเพื่อไทย ทำให้ตนเชื่อว่า พล.อ.ชวลิต เป็นหมากเดินเกมทำหน้าที่เหมือนม้าเมืองทอยด์ ในหนังฮอลลีวูดเรื่องดัง เพราะการที่ พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบ สมเด็จฯ ฮุนเซน แล้วกลับมาให้ข่าวว่า ผู้นำกัมพูชา มีการสร้างบ้านหลังใหญ่โตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หากต้องการลี้ภัยมายังกัมพูชา ซึ่งตนมองว่า เรื่องจริง พ.ต.ท.ทักษิณ มาอยู่กัมพูชา ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะติดข้อ กม.เรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลสำคัญพอที่ พล.อ.ชวลิต จะต้องออกมาให้ข่าวที่ไม่เป็นผลดีกับฝ่ายตัวเอง
นายโสภณ กล่าวต่อว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ถือว่ามีความฉลาด ที่พูดแบบได้กับได้ คือ ไม่เสียมิตรอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่รู้ว่ายังไงก็มาอยู่ไม่ได้ แต่ก็พูดเพื่อเอาใจ ส่วนทาง พล.อ.ชวลิต ที่กลับมาให้ข่าว ทางสมเด็จฯ ฮุนเซน เอง ก็คงตกใจเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ ตนเชื่อว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ได้ต้องการอยากจะเป็นข่าว แต่ต้องส่งสัญญาณบางอย่างไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ทราบเรื่องนี้ เพื่อที่จะหักหน้ารัฐบาลไทย
นายอมรเทพ กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้านี้ ตนก็เคยได้ยินข่าวที่ พล.อ.เปรม เป็นคนส่ง พล.อ.ชวลิต ไปสลายพรรคเพื่อไทย โดยถือเป็นการสร้างวีรกรรมหลังเกษียณของ พล.อ.ชวลิต ที่เคยอยู่ร่วมเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองมามากมาย ดังนั้น การที่ พล.อ.ชวลิต หันไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ตนว่าเป็นปฏิบัติการสลายกลุ่มสีแดง เพราะขณะนี้โทรทัศน์ช่องสีแดง ก็เริ่มมีเนื้อหานำเสนอที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งที่ หากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ก็นับว่า พล.อ.ชวลิต เป็นหมากตัวสำคัญ แต่ถ้าหากมองในมุมกลับ การที่ พล.อ.ชวลิต ทำเช่นนี้ อาจเป็นความต้องการเงินตอบแทนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ ไม่แน่บางทีไปเยือนกัมพูชาครั้งนี้ อาจได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมา
นายอมรเทพ กล่าวอีกว่า พล.อ.ชวลิต เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี และตำแหน่งสำคัญของประเทศมากมาย แต่ไม่รู้หรืออย่างไรว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนเช่นไร อีกคนที่น่าตำหนิที่สุด คือ ทาง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ควรจะตอบโต้คำตอบ สมเด็จฯ ฮุนเซน ไปเลย ที่มีสิทธิ์อะไรมาสามหาววิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมไทย ว่า ไม่ยุติธรรมต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่มีสถานะเป็นนักโทษหนีคดีหลบหนีอยู่
“ผมงงมากว่าคนอย่าง พล.อ.ชวลิต ผ่านอะไรมาเยอะ แต่กลับหันไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย สิ่งเหล่านี้มันทำให้รู้ว่า พล.อ.ชวลิต ที่เคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และตำแหน่งสำคัญระดับประเทศมากมาย แต่สิ่งที่ พล.อ.ชวลิต ไม่เคยทำเลย คือ การเป็นผู้ออกมาปกป้องชาติชื่อเสียงของชาติตัวเอง” นายอมรเทพ กล่าว
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า พอกลับจากกัมพูชา พล.อ.ชวลิต ให้ข่าวเสมือนเป็นโฆษกของ สมเด็จฯ ฮุนเซน ที่คอยปกป้องผลประโยชน์ประเทศเพื่อนบ้าน มากกว่าผลประโยชน์ของประเทศตัวเอง มีการออกมาให้ข่าวสวยหรู ว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน สร้างบ้านหลังใหญ่สมเกียรติให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ตามข่าวจริงๆ เป็นการปรับปรุงตึกร้างเก่าๆ ให้ดูดีขึ้นเท่านั้น
นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ชวลิต สมเด็จฯ ฮุนเซน หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ล้วนแล้วแต่เคยเป็นศัตรูกันในอดีต ดังนั้น ตนเชื่อว่า การคบหากันเพื่อผลประโยชน์ มันไม่มีความยั่งยืนและความจีรัง ทั้งที่เมื่อก่อนเกลียดกันถึงขั้นไม่เผาผี แต่ตอนนี้ต้องมาแสร้งดีกัน เพราะผลประโยชน์จำนวนมหาศาล
นายโสภณ กล่าวประเด็นเดียวกันว่า การกระทำของ พล.อ.ชวลิต ถือเป็นการชักศึกเข้าบ้านและนำหอกข้างแคร่มาอยู่ใกล้ประเทศตัวเองด้วย ซึ่งสำหรับตนแล้ว นับว่าเหลือเชื่อมากที่มีคนเช่นนี้อยู่ในประเทศ โดยตนไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้ร้องเพลงชาติได้อย่างไร ทั้งที่เคยปฏิญาณตนไว้ว่าจะทำเพื่อชาติ ปกป้องสถาบัน แต่พอถอดชุดสีเขียว ก็หันไปใส่เสื้อแดงทันที คนพวกนี้ แม้เกษียณไปแล้ว แต่ก็ยังกินเงินภาษีประชาชน แต่เป็นพวกที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้แก่ประเทศตัวเอง
นายชัชวาลย์ กล่าวถึงกระแสข่าวลือที่มีนายทหารออกมาพูดจาสองแง่สองง่าม ส่อว่าจาบจ้วงเบื้องสูง โดยระบุว่า ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญที่ต่อกรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้อายุขัยมากแล้ว และเชื่อว่า จะอยู่อีกไม่นานเท่าไหร่
นายโสภณ กล่าวประเด็นนี้ว่า คงไม่ต้องสงสัยว่านายทหารคนนี้หมายถึงใคร แต่สิ่งที่คิดต่อเรื่องนี้ได้ คือ บรรดาทหารที่ไปด้วยกันนี้ คิดอย่างไรกับสิ่งที่นายทหารคนนี้พูดมา เพราะชัดเจนเวลากำลังพูดถึงบุคคลใด เนื่องจาก พล.อ.เปรม เวลานี้ก็ยังคงแข็งแรงดี ดังนั้น คงไม่ใช่ พล.อ.เปรม แน่นอน ที่นายทหารคนนั้นต้องการพาดพิงถึง ตนจึงไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้ที่เคยไปเดินสวนสนาม และปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ทำไมถึงออกมาทำเช่นนี้ มันแสดงให้เห็นว่าเป็นพวกรักเพื่อนมากกว่าชาติหรือ สำหรับเตรียมทหาร รุ่น 10 ต่อให้พรรคพวกกระทำผิดอย่างไร ก็จะมองว่าคนๆ นั้น ทำถูก ทั้งที่คนพวกนี้ต้องการเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
นายอมรเทพ กล่าวเสริมว่า ตนคิดว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังคิดหรือกำลังทำอยู่ ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ยุทธศาสตร์ขั้นสุดท้ายแล้ว โดยสอดคล้องกับการปล่อยข่าวเข้าหูเสื้อแดง เรื่องการตั้งรัฐไทยใหม่ ซึ่งตนอยากเตือนฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาล ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กหรือเรื่องเล่นๆ ตนอยากให้ทางการเข้มแข็งและจริงจังมากกว่านี้ ต้องจัดการคนพวกนี้ที่เป็นทหารรับจ้าง ที่นับวันจะยิ่งหาคุณนามความดีไม่เจอ
นายอมรเทพ กล่าวต่อว่า เตรียมทหารรุ่น 10 เดินตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่า เป็นการจัดฉากเท่านั้น พวกนี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักของคนในประเทศเลย บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาจากไหน ตนจึงถือว่าเป็นการเอาตัวประกอบมาทำให้ประชาชนเห็นถึงปรากฏการณ์จอมปลอมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามสร้างขึ้น ให้เห็นว่า การที่ทหารมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำถูกมาตลอด แต่โดนรัฐบาลกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการจุดประเด็นใหม่ เป็นการเล่นเกมการเมืองนอกสนาม ทั้งที่จริงๆ แล้ว พวกทหารที่ตบเท้าร่วมพรรคเพื่อไทย เป็นแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเตรียมทหารทั้งหมด เนื่องจาก หากถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำถูก หรือพรรคเพื่อไทย ดีจริง ทำไมไม่มีเตรียมทหารรุ่นอื่น ทำไมมีแค่รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายอมรเทพ กล่าวปิดท้ายว่า เท่าที่ตนทราบ คงไม่ใช่ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ที่นายทหารคนดังกล่าวออกมาระบุ ว่า จะอยู่อีกไม่นาน แต่ตนคิดว่า คนที่ดูไบมากกว่าที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะเท่าที่รู้ ก็ป่วยด้วยหลายโรครุมเร้า ทั้งมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือโรคเลือดเป็นพิษ
