มีคนวิจารณ์ผมว่า..เป็นคนปากจัด-ปากเสีย-ปากบ๊อกๆ หรือปากสุนัข!
แปลก..ผมไม่โกรธ..ผมไม่ใส่ใจ และจะไม่เสแสร้งแปรเปลี่ยนหรือเล่นละคร กลายเป็นคนพูดจาสุภาพ-นุ่มนวล-หน้าจอทีวีอย่างเด็ดขาด
ขอบอกว่า..ใครจะคบกับผม-ก็คบ ใครไม่คบกับผม-ก็ไม่ต้องคบ และเหมือนกัน..ผมจะคบกับใคร-ผมก็คบ ผมไม่คบกับใคร-ผมก็ไม่คบ นั่นคือ สันดานของผมเวลาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง..เพราะนั่นเป็นตัวตนของผมครับ
คนที่ต่อสู้ทางการเมืองให้กับมหาเศรษฐีนักโทษชายทักษิณน่ะ ส่วนตัวแล้วมีแต่ได้กับได้..ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเลย..แต่ชาติบ้านเมืองยับเยิน เรามาลองส่องกล้องดูว่าพวกเขาได้อะไรกันบ้าง?
ข้อแรก-ผลประโยชน์ขั้นต่ำที่ได้แน่นอน ก็คือ หากสู้แล้วนักโทษหนีคุกทักษิณยังแพ้พ่าย จนไม่สามารถกลับมาตายในประเทศ จะเพราะด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรืออะไรก็ตามที พวกที่สู้ให้ทักษิณก็ล้วนได้ค่าจ้างกันทุกคน
บ้างได้งานทำเป็นที่ปรึกษามั่นคงเงินเดือนดี ในเครือบริษัททักษิณและพรรคพวก ได้เงินใช้หนี้สิน (หากมี) ได้เงินลงทุนทำธุรกิจ ได้เงินสดไว้ใช้จ่ายและเก็บตุนในตู้เซฟ ได้รถราคาแพงไว้ขับพาเมียน้อยไปจู๋จี๋ ได้บ้านหลังโตไว้อวดโอ่เพื่อนฝูง ได้ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกพร้อมที่อยู่อาศัยหรูหราฟรี ได้พากิ๊กไปเที่ยวชอปปิ้งที่ต่างประเทศเป็นครั้งคราว แถมขากลับยังได้เงินสดติดกระเป๋ากลับบ้านอีกด้วย
ที่อมเก่งหน่อย..ก็เม้มเงินทักษิณไปแอบเปิดร้านอาหารไทย ถึงสองสามแห่งที่ต่างแดนเผื่อมีปัญหาทางการเมืองในไทย..จะได้ลี้ภัยไงล่ะครับ
ข้อสอง-ผลประโยชน์แบบแจ็กพอต หากเกิดจับพลัดจับผลูพรรคทักษิณชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งในสภา พวกทหารรับจ้างหรือพวก “ผี-รับจ้างโม่แป้ง” ของทักษิณหลายคน จะได้เรียงหน้าเข้ายึดอำนาจในรัฐสภาและในรัฐบาลกันอย่างสนุกสนาน
ที่สำคัญหากทักษิณได้รับการนิรโทษกรรมความผิด ด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้ง แล้วหันมาใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 รวมทั้งได้เงินที่ถูกอายัด 7 หมื่นกว่าล้านบาทคืน สุดท้าย..หากเกิดเหตุอาเพศอันเหลือเชื่อ ทักษิณจะได้รางวัลแจ็กพอตเปลี่ยนสถานะ จากนักโทษชายหนีคุกกลายเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทยอีกคำรบหนึ่ง..
หากฝันกลางแดดของทักษิณเป็นจริง ก็คงมีคนฝันสลายกินแห้วกันหลายรายเพราะ...
สม-ชายกระโปรง-นอนฝันกับเมียซาลาเปาแดงแรงฤทธิ์ว่า ขอเป็นนายกฯ อีกสักครั้ง เพราะเป็นนายกฯ คราวที่แล้วโชคร้าย อย่าว่าแต่ไม่ได้หย่อนก้นลงแตะเก้าอี้นายกฯเลย โถ..แม้นแต่รั้วทำเนียบฯ ยังไม่มีวาสนาได้แตะด้วยซ้ำไป
บิ๊กจิ๋ว-ฝันเหมือนทักษิณตรงที่ชาตินี้ก่อนตาย..สาธุ..ขอเป็นนายกฯ ชราอีกครั้งเถอะน่า
สารวัตรเหลิม-สมถะมักน้อยหน่อย..ขอเป็นนายกรัฐมนตรีไทยแค่ 6 เดือนก็แฮปปี้แล้ว
ส่วนเรื่องเงิน 7 หมื่นกว่าล้านบาทน่ะ คนเหล่านี้ขอส่วนแบ่งบ้างเป็นค่าเหนื่อย กับการจงใจ “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” จนบ้านเมืองวินาศสันตะโรอยู่ในวันนี้ไงล่ะครับ
ฝันหวานกลางแดดเช่นนี้ จะเป็นจริงขึ้นมาได้มีเพียง 2 หนทางเท่านั้น นั่นคือ
หนึ่ง-ทหารกับตำรวจบางส่วนที่ “แอบ” ภักดีต่อทักษิณ ทำการรัฐประหารชนะ
สอง-ทหาร-ตำรวจบางส่วน-คนเสื้อแดง-นักการเมืองของทักษิณ ก่อการป่วนบ้านป่วนเมืองจนรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่อ่อนปวกเปียกอยู่ไม่ได้ ต้องลาออกหรือยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง
ซึ่งสาวกระบอบทักษิณต่างเชื่อว่า พวกเขาจะซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้ง จนเอาชนะคู่แข่งจนได้ ส.ส.เข้าสภาฯ เกินกึ่งหนึ่ง ทำให้พวกทักษิณได้เป็นรัฐบาลตามที่ฝันหวานไว้ เพื่อจะได้เกิดมหกรรมสวาปามโครงการใหญ่น้อย ที่จะเกิดขึ้นราวดอกเห็ดอย่างเย้ยฟ้าท้าดินไงล่ะครับ
นั่นเป็นความฝันที่คนส่วนน้อยในระบอบทักษิณ อยากให้ฝันนั้น-เป็นจริง แต่คนไทยโดยส่วนใหญ่..ล้วนอยากให้ความฝันของบรรดานักการเมืองชั่วเหล่านั้น..เป็นฝันสลายครับ
ทว่าวันนี้..คนชั่วหรือนักการเมืองที่เห็นแก่ตัวและพวกพ้อง ที่เห็นแก่เงิน-อำนาจ-ผลประโยชน์ และทำร้ายทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ กำลังเร่งยึดคืนอำนาจรัฐกลับมาไว้ในกำมือของพวกตนให้ได้อีกครั้งหนึ่งด้วยกลวิธี ทั้งลับและเปิดเผยอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการ
ถึงขนาดบังอาจเหิมเกริมเอาสถาบันสำคัญของชาติ ที่ประชาชนคนไทยเคารพรักเทิดทูนมาปล่อยข่าวสุดอัปมงคล เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าและแสวงหาอำนาจทางการเมืองกันแล้วถึง 2 เรื่อง
หนึ่ง-คนไทยชาติชั่วกลุ่มหนึ่ง ได้กระทำการอัปรีย์จัญไรสุดๆ ด้วยการปล่อยข่าวโกหกสุดอัปมงคล โดยให้นักเล่นหุ้นคนหนึ่งในสิงคโปร์ ปล่อยข่าวผ่านสำนักข่าวเศรษฐกิจแห่งหนึ่ง ก่อนจะนำข่าวอัปมงคลที่โกหกหวนกลับมาทุบหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยจนหุ้นร่วงหลายแสนล้านบาท!
สอง-วันที่ 14 ตุลาคม 2552 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย บังอาจแถลงข่าวอันมิบังควรว่า “รัฐบาลขังฎีกาคนเสื้อแดงเอาไว้..ให้เลยวันที่ 4 ธันวาคม..เพราะรัฐบาลรู้ดีว่า หากฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนวันที่ 4 ธันวาคม พระองค์จะมีการพระราชทานอภัยโทษให้กับ...ทักษิณ..”
เรื่องที่หนึ่งนั้น..สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ทรงยุติข่าวลืออันแสนอัปมงคลลงโดยสิ้นเชิง เมื่อพระองค์ทรงประทานให้สัมภาษณ์ถึง 2 ครั้ง ที่ประเทศเยอรมนี ผ่านสื่อมวลชนให้คนไทยทั้งชาติได้ชุ่มชื่นหัวใจ ด้วยใจความข้อสรุปสั้นๆ ว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย ไม่มีอันตรายอันใดกับอาการที่ทรงเกิดพระประชวรในครั้งนี้!
ส่วนเรื่องที่สองนั้น-มีคำถามมากมายว่า นายจตุพรรู้ได้ไง-รู้จากใครหน้าไหน? นายจตุพรเป็นใคร-จึง (บังอาจ) รู้ล่วงหน้า-และรู้ได้ไงว่า จะเป็นจริงตามที่พล่อยปากพูดว่า
พระองค์ (ในหลวง) จะมีการพระราชทานอภัยโทษให้กับ..ทักษิณ.. (วันที่ 4 ธันวา) ???
เหลือเชื่อที่ว่า..ขณะที่ “พ่อของแผ่นดิน” ยังทรงพระประชวรอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช และคนไทยทั้งชาติใจจดใจจ่อรวมใจกันส่งกระแสจิตภาวนาขอให้ “พ่อของแผ่นดิน” ทรงหายจากอาการทรงพระประชวรโดยไว เพื่อจะได้เป็นร่มโพธิ์-ร่มไทรทองตลอดไปให้กับพสกนิกรชาวไทยทุกคน
ไอ้พวกทุบหุ้นต่างประเทศกับพวกคนไทย ชื่อย่อ “อ-ส-ว-พ” และนักการเมือง “ท” กับพวกกลับบังอาจปล่อยข่าวอัปรีย์ชั่วช้าเหล่านี้อย่างหน้าตาเฉย เพียงแค่หวังเงินทองเข้ากระเป๋า และเอาเงินไปทำกิจกรรมแสวงหาอำนาจทางการเมืองเท่านั้น!
คำถาม-ที่สำคัญก็คือ..ทำไมวันนี้ นักทุบหุ้นกลุ่มหนึ่งที่สนิทกับพวกนักการเมืองใหญ่เหล่านี้ ถึงกล้าและบังอาจเหิมเกริมกระทำเรื่องอันมิบังควร และชั่วช้าเป็นประวัติการณ์ได้ถึงขนาดนี้?
คำตอบ คือ นักการเมืองใหญ่ที่ละโมบและคดโกง ไม่ได้เงินทองที่โกงมากลับคืน และมิได้อำนาจตามใจปรารถนา จึงจงใจทำลายชาติบ้านเมืองอย่างเลือดเย็นเช่นนี้แหละ!
แต่ที่น่าผิดหวังและเสียใจยิ่งก็คือ รัฐบาลอภิสิทธิ์และส่วนความมั่นคงของชาติ แกล้งไม่รู้หรือไม่รู้เท่าทัน รวมทั้งยังแก้ปัญหาไม่ทันการณ์กับข่าวลืออันแสนอัปมงคลที่มีมานับเดือน และเผยแพร่อยู่ในพื้นที่กลุ่มนักการเมืองอำนาจเก่าทั้งในเมืองและชนบท?
รวมทั้งมีขบวนการจาบจ้วง-ทำลาย-ล้มล้าง-สถาบันพระมหากษัตริย์ หวังจะเปลี่ยนแปลงการปกครองรัฐไทยในปัจจุบันให้กลายเป็น “รัฐไทยใหม่” โดยมีนักการเมืองเลวทั้งในและนอกประเทศบางคน ให้การสนับสนุนทั้งลับและเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือเป็นที่ประจักษ์ ในการพิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และปราบปรามพวกนักการเมืองคอร์รัปชันทั้งในอดีตและปัจจุบันบ้าง?
ผมมั่นใจและเชื่อว่า..วันนี้และวันหน้า รัฐบาลอภิสิทธิ์ผู้อ่อนหัดหน่อมแน้มไร้ฝีมือ คงไม่มีวันที่จะจับนักทุบ-นักปั่นหุ้นและนักการเมืองชั่วเหล่านั้น มาลงโทษตามกบิลเมืองได้อย่างแน่นอน
นั่นเป็นความหดหู่ของคนไทยในวันนี้ ที่ทำได้แค่พึ่งพระสยามเทวาธิราชและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในผืนแผ่นดิน ช่วยลงโทษคนชั่วช้าเหล่านั้นให้ตกนรกหมกไหม้ ในเร็ววันเท่านั้นแหละครับ
ธงชาติไทยประกอบด้วยสามสี สีแดง-หมายถึงชาติ สีขาว-หมายถึงศาสนา สีน้ำเงิน-หมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะนี้..สีน้ำเงินบนธงชาติถูกย่ำยี-เหยียบย่ำ-ล้มล้าง-ทำลายตลอดเวลา
พระมหากษัตริย์ของปวงชนชาวไทยพระองค์นี้ ทรงพระปรีชาสามารถล้นเหลือและทรงเคยตรัสให้พวกเราชาวไทยช่วยกันทำให้คนดี ได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และกีดกันคนชั่วมิให้เป็นใหญ่
แน่นอน..คนชั่วทั้งหลายย่อมไม่ชื่นชอบในพระองค์ผู้เป็น “พ่อของแผ่นดิน”!
แต่สำหรับคนไทยที่ดีทุกคนนั้น พระองค์ทรงเป็น “พ่อของแผ่นดิน” ที่สถิตอยู่ในดวงใจผองเราชั่วนิรันดร์กาล
การจาบจ้วงเหิมเกริมบังอาจกระทำเรื่องอัปรีย์สารเลว-ชั่วช้าของคนไทยบางคนเช่นนี้ เท่ากับเป็นการหาเงินและแสวงหาอำนาจ “บนความทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ” และยังเป็นการเหยียบย่ำหัวใจประชาชนคนไทย อย่างไม่อาจให้อภัยได้อีกต่อไป
ผมไม่รู้จะสรรหาถ้อยคำอะไรที่แสบสันต์แต่สุภาพและเหมาะสม-สาสม-สมควรกับความชั่วของคนพวกนี้ได้!
ผมยอมรับว่า..ไร้ความสามารถ-ไร้ปัญญาแล้วล่ะ ผมคงต้องขอฝากท่านผู้อ่านช่วยคิด ช่วยหาถ้อยคำที่เหมาะเจาะแทนผมด้วยครับ!
(หมายเหตุ : ทีมงานได้มีการแก้ไขรายละเอียดของบทความตามที่ท่านผู้อ่านได้แจ้งมาแล้ว)
แปลก..ผมไม่โกรธ..ผมไม่ใส่ใจ และจะไม่เสแสร้งแปรเปลี่ยนหรือเล่นละคร กลายเป็นคนพูดจาสุภาพ-นุ่มนวล-หน้าจอทีวีอย่างเด็ดขาด
ขอบอกว่า..ใครจะคบกับผม-ก็คบ ใครไม่คบกับผม-ก็ไม่ต้องคบ และเหมือนกัน..ผมจะคบกับใคร-ผมก็คบ ผมไม่คบกับใคร-ผมก็ไม่คบ นั่นคือ สันดานของผมเวลาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง..เพราะนั่นเป็นตัวตนของผมครับ
คนที่ต่อสู้ทางการเมืองให้กับมหาเศรษฐีนักโทษชายทักษิณน่ะ ส่วนตัวแล้วมีแต่ได้กับได้..ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเลย..แต่ชาติบ้านเมืองยับเยิน เรามาลองส่องกล้องดูว่าพวกเขาได้อะไรกันบ้าง?
ข้อแรก-ผลประโยชน์ขั้นต่ำที่ได้แน่นอน ก็คือ หากสู้แล้วนักโทษหนีคุกทักษิณยังแพ้พ่าย จนไม่สามารถกลับมาตายในประเทศ จะเพราะด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรืออะไรก็ตามที พวกที่สู้ให้ทักษิณก็ล้วนได้ค่าจ้างกันทุกคน
บ้างได้งานทำเป็นที่ปรึกษามั่นคงเงินเดือนดี ในเครือบริษัททักษิณและพรรคพวก ได้เงินใช้หนี้สิน (หากมี) ได้เงินลงทุนทำธุรกิจ ได้เงินสดไว้ใช้จ่ายและเก็บตุนในตู้เซฟ ได้รถราคาแพงไว้ขับพาเมียน้อยไปจู๋จี๋ ได้บ้านหลังโตไว้อวดโอ่เพื่อนฝูง ได้ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกพร้อมที่อยู่อาศัยหรูหราฟรี ได้พากิ๊กไปเที่ยวชอปปิ้งที่ต่างประเทศเป็นครั้งคราว แถมขากลับยังได้เงินสดติดกระเป๋ากลับบ้านอีกด้วย
ที่อมเก่งหน่อย..ก็เม้มเงินทักษิณไปแอบเปิดร้านอาหารไทย ถึงสองสามแห่งที่ต่างแดนเผื่อมีปัญหาทางการเมืองในไทย..จะได้ลี้ภัยไงล่ะครับ
ข้อสอง-ผลประโยชน์แบบแจ็กพอต หากเกิดจับพลัดจับผลูพรรคทักษิณชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งในสภา พวกทหารรับจ้างหรือพวก “ผี-รับจ้างโม่แป้ง” ของทักษิณหลายคน จะได้เรียงหน้าเข้ายึดอำนาจในรัฐสภาและในรัฐบาลกันอย่างสนุกสนาน
ที่สำคัญหากทักษิณได้รับการนิรโทษกรรมความผิด ด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทิ้ง แล้วหันมาใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 รวมทั้งได้เงินที่ถูกอายัด 7 หมื่นกว่าล้านบาทคืน สุดท้าย..หากเกิดเหตุอาเพศอันเหลือเชื่อ ทักษิณจะได้รางวัลแจ็กพอตเปลี่ยนสถานะ จากนักโทษชายหนีคุกกลายเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทยอีกคำรบหนึ่ง..
หากฝันกลางแดดของทักษิณเป็นจริง ก็คงมีคนฝันสลายกินแห้วกันหลายรายเพราะ...
สม-ชายกระโปรง-นอนฝันกับเมียซาลาเปาแดงแรงฤทธิ์ว่า ขอเป็นนายกฯ อีกสักครั้ง เพราะเป็นนายกฯ คราวที่แล้วโชคร้าย อย่าว่าแต่ไม่ได้หย่อนก้นลงแตะเก้าอี้นายกฯเลย โถ..แม้นแต่รั้วทำเนียบฯ ยังไม่มีวาสนาได้แตะด้วยซ้ำไป
บิ๊กจิ๋ว-ฝันเหมือนทักษิณตรงที่ชาตินี้ก่อนตาย..สาธุ..ขอเป็นนายกฯ ชราอีกครั้งเถอะน่า
สารวัตรเหลิม-สมถะมักน้อยหน่อย..ขอเป็นนายกรัฐมนตรีไทยแค่ 6 เดือนก็แฮปปี้แล้ว
ส่วนเรื่องเงิน 7 หมื่นกว่าล้านบาทน่ะ คนเหล่านี้ขอส่วนแบ่งบ้างเป็นค่าเหนื่อย กับการจงใจ “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” จนบ้านเมืองวินาศสันตะโรอยู่ในวันนี้ไงล่ะครับ
ฝันหวานกลางแดดเช่นนี้ จะเป็นจริงขึ้นมาได้มีเพียง 2 หนทางเท่านั้น นั่นคือ
หนึ่ง-ทหารกับตำรวจบางส่วนที่ “แอบ” ภักดีต่อทักษิณ ทำการรัฐประหารชนะ
สอง-ทหาร-ตำรวจบางส่วน-คนเสื้อแดง-นักการเมืองของทักษิณ ก่อการป่วนบ้านป่วนเมืองจนรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่อ่อนปวกเปียกอยู่ไม่ได้ ต้องลาออกหรือยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง
ซึ่งสาวกระบอบทักษิณต่างเชื่อว่า พวกเขาจะซื้อเสียงและโกงการเลือกตั้ง จนเอาชนะคู่แข่งจนได้ ส.ส.เข้าสภาฯ เกินกึ่งหนึ่ง ทำให้พวกทักษิณได้เป็นรัฐบาลตามที่ฝันหวานไว้ เพื่อจะได้เกิดมหกรรมสวาปามโครงการใหญ่น้อย ที่จะเกิดขึ้นราวดอกเห็ดอย่างเย้ยฟ้าท้าดินไงล่ะครับ
นั่นเป็นความฝันที่คนส่วนน้อยในระบอบทักษิณ อยากให้ฝันนั้น-เป็นจริง แต่คนไทยโดยส่วนใหญ่..ล้วนอยากให้ความฝันของบรรดานักการเมืองชั่วเหล่านั้น..เป็นฝันสลายครับ
ทว่าวันนี้..คนชั่วหรือนักการเมืองที่เห็นแก่ตัวและพวกพ้อง ที่เห็นแก่เงิน-อำนาจ-ผลประโยชน์ และทำร้ายทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ กำลังเร่งยึดคืนอำนาจรัฐกลับมาไว้ในกำมือของพวกตนให้ได้อีกครั้งหนึ่งด้วยกลวิธี ทั้งลับและเปิดเผยอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการ
ถึงขนาดบังอาจเหิมเกริมเอาสถาบันสำคัญของชาติ ที่ประชาชนคนไทยเคารพรักเทิดทูนมาปล่อยข่าวสุดอัปมงคล เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าและแสวงหาอำนาจทางการเมืองกันแล้วถึง 2 เรื่อง
หนึ่ง-คนไทยชาติชั่วกลุ่มหนึ่ง ได้กระทำการอัปรีย์จัญไรสุดๆ ด้วยการปล่อยข่าวโกหกสุดอัปมงคล โดยให้นักเล่นหุ้นคนหนึ่งในสิงคโปร์ ปล่อยข่าวผ่านสำนักข่าวเศรษฐกิจแห่งหนึ่ง ก่อนจะนำข่าวอัปมงคลที่โกหกหวนกลับมาทุบหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยจนหุ้นร่วงหลายแสนล้านบาท!
สอง-วันที่ 14 ตุลาคม 2552 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย บังอาจแถลงข่าวอันมิบังควรว่า “รัฐบาลขังฎีกาคนเสื้อแดงเอาไว้..ให้เลยวันที่ 4 ธันวาคม..เพราะรัฐบาลรู้ดีว่า หากฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนวันที่ 4 ธันวาคม พระองค์จะมีการพระราชทานอภัยโทษให้กับ...ทักษิณ..”
เรื่องที่หนึ่งนั้น..สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ทรงยุติข่าวลืออันแสนอัปมงคลลงโดยสิ้นเชิง เมื่อพระองค์ทรงประทานให้สัมภาษณ์ถึง 2 ครั้ง ที่ประเทศเยอรมนี ผ่านสื่อมวลชนให้คนไทยทั้งชาติได้ชุ่มชื่นหัวใจ ด้วยใจความข้อสรุปสั้นๆ ว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย ไม่มีอันตรายอันใดกับอาการที่ทรงเกิดพระประชวรในครั้งนี้!
ส่วนเรื่องที่สองนั้น-มีคำถามมากมายว่า นายจตุพรรู้ได้ไง-รู้จากใครหน้าไหน? นายจตุพรเป็นใคร-จึง (บังอาจ) รู้ล่วงหน้า-และรู้ได้ไงว่า จะเป็นจริงตามที่พล่อยปากพูดว่า
พระองค์ (ในหลวง) จะมีการพระราชทานอภัยโทษให้กับ..ทักษิณ.. (วันที่ 4 ธันวา) ???
เหลือเชื่อที่ว่า..ขณะที่ “พ่อของแผ่นดิน” ยังทรงพระประชวรอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช และคนไทยทั้งชาติใจจดใจจ่อรวมใจกันส่งกระแสจิตภาวนาขอให้ “พ่อของแผ่นดิน” ทรงหายจากอาการทรงพระประชวรโดยไว เพื่อจะได้เป็นร่มโพธิ์-ร่มไทรทองตลอดไปให้กับพสกนิกรชาวไทยทุกคน
ไอ้พวกทุบหุ้นต่างประเทศกับพวกคนไทย ชื่อย่อ “อ-ส-ว-พ” และนักการเมือง “ท” กับพวกกลับบังอาจปล่อยข่าวอัปรีย์ชั่วช้าเหล่านี้อย่างหน้าตาเฉย เพียงแค่หวังเงินทองเข้ากระเป๋า และเอาเงินไปทำกิจกรรมแสวงหาอำนาจทางการเมืองเท่านั้น!
คำถาม-ที่สำคัญก็คือ..ทำไมวันนี้ นักทุบหุ้นกลุ่มหนึ่งที่สนิทกับพวกนักการเมืองใหญ่เหล่านี้ ถึงกล้าและบังอาจเหิมเกริมกระทำเรื่องอันมิบังควร และชั่วช้าเป็นประวัติการณ์ได้ถึงขนาดนี้?
คำตอบ คือ นักการเมืองใหญ่ที่ละโมบและคดโกง ไม่ได้เงินทองที่โกงมากลับคืน และมิได้อำนาจตามใจปรารถนา จึงจงใจทำลายชาติบ้านเมืองอย่างเลือดเย็นเช่นนี้แหละ!
แต่ที่น่าผิดหวังและเสียใจยิ่งก็คือ รัฐบาลอภิสิทธิ์และส่วนความมั่นคงของชาติ แกล้งไม่รู้หรือไม่รู้เท่าทัน รวมทั้งยังแก้ปัญหาไม่ทันการณ์กับข่าวลืออันแสนอัปมงคลที่มีมานับเดือน และเผยแพร่อยู่ในพื้นที่กลุ่มนักการเมืองอำนาจเก่าทั้งในเมืองและชนบท?
รวมทั้งมีขบวนการจาบจ้วง-ทำลาย-ล้มล้าง-สถาบันพระมหากษัตริย์ หวังจะเปลี่ยนแปลงการปกครองรัฐไทยในปัจจุบันให้กลายเป็น “รัฐไทยใหม่” โดยมีนักการเมืองเลวทั้งในและนอกประเทศบางคน ให้การสนับสนุนทั้งลับและเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือเป็นที่ประจักษ์ ในการพิทักษ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และปราบปรามพวกนักการเมืองคอร์รัปชันทั้งในอดีตและปัจจุบันบ้าง?
ผมมั่นใจและเชื่อว่า..วันนี้และวันหน้า รัฐบาลอภิสิทธิ์ผู้อ่อนหัดหน่อมแน้มไร้ฝีมือ คงไม่มีวันที่จะจับนักทุบ-นักปั่นหุ้นและนักการเมืองชั่วเหล่านั้น มาลงโทษตามกบิลเมืองได้อย่างแน่นอน
นั่นเป็นความหดหู่ของคนไทยในวันนี้ ที่ทำได้แค่พึ่งพระสยามเทวาธิราชและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในผืนแผ่นดิน ช่วยลงโทษคนชั่วช้าเหล่านั้นให้ตกนรกหมกไหม้ ในเร็ววันเท่านั้นแหละครับ
ธงชาติไทยประกอบด้วยสามสี สีแดง-หมายถึงชาติ สีขาว-หมายถึงศาสนา สีน้ำเงิน-หมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะนี้..สีน้ำเงินบนธงชาติถูกย่ำยี-เหยียบย่ำ-ล้มล้าง-ทำลายตลอดเวลา
พระมหากษัตริย์ของปวงชนชาวไทยพระองค์นี้ ทรงพระปรีชาสามารถล้นเหลือและทรงเคยตรัสให้พวกเราชาวไทยช่วยกันทำให้คนดี ได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง และกีดกันคนชั่วมิให้เป็นใหญ่
แน่นอน..คนชั่วทั้งหลายย่อมไม่ชื่นชอบในพระองค์ผู้เป็น “พ่อของแผ่นดิน”!
แต่สำหรับคนไทยที่ดีทุกคนนั้น พระองค์ทรงเป็น “พ่อของแผ่นดิน” ที่สถิตอยู่ในดวงใจผองเราชั่วนิรันดร์กาล
การจาบจ้วงเหิมเกริมบังอาจกระทำเรื่องอัปรีย์สารเลว-ชั่วช้าของคนไทยบางคนเช่นนี้ เท่ากับเป็นการหาเงินและแสวงหาอำนาจ “บนความทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ” และยังเป็นการเหยียบย่ำหัวใจประชาชนคนไทย อย่างไม่อาจให้อภัยได้อีกต่อไป
ผมไม่รู้จะสรรหาถ้อยคำอะไรที่แสบสันต์แต่สุภาพและเหมาะสม-สาสม-สมควรกับความชั่วของคนพวกนี้ได้!
ผมยอมรับว่า..ไร้ความสามารถ-ไร้ปัญญาแล้วล่ะ ผมคงต้องขอฝากท่านผู้อ่านช่วยคิด ช่วยหาถ้อยคำที่เหมาะเจาะแทนผมด้วยครับ!
(หมายเหตุ : ทีมงานได้มีการแก้ไขรายละเอียดของบทความตามที่ท่านผู้อ่านได้แจ้งมาแล้ว)