เปิดแก๊งทุบหุ้น"หมอยง-เสี่ยยักษ์"

00...เห็น"พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง"แม่ทัพการข่าว ตร.เปิดเกมรุกตามหากลิ่นไอ้คนชั่วปล่อยข่าวลือ ทุบหุ้น หลายคนดีใจ ว่าท่านน่าจะตามจับกลุ่มก๊วนนี้ได้ เพราะท่านพูดเองว่า"ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเบื้องต้นพอจะได้เค้าโครงและได้ข้อมูลพอสมควรแล้ว เหลือเพียงการสอบสวนในบางประเด็นอีกเพียงเล็กน้อยก็จะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ทั้งนี้ เมื่อมีการนำเสนอข่าวดังกล่าวออกมามาก ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่างไหวตัวทัน และทำให้พยานบุคคลซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจลดลงไปมาก ซึ่งตอนนี้คงต้องดูว่าผลของกระแสข่าวที่ออกมานั้น ใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงเพื่อดำเนินการสืบสวนถึงต้นตอของข่าวต่อไป"

ขณะที่ข้อมุลของท่าน ส.ว."สมชาย แสวงการ"ชี้ชัดว่า เรื่องนี้เป็นขบวนการปล่อยข่าวล้มเจ้าของคนบางกลุ่ม อาศัยพระอาการประชวร ปล่อยข่าวทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้ล็อบบี้ยิสต์ป้อนข่าวสำนักข่าว ทั้งในประเทศอังกฤษและสิงค์โปร์ มีการพาดพิงถึงสถาบัน และเชื่อมโยงกับกลุ่มคนไทย ที่ร่วมทุบหุ้นในสิงค์โปร์

พร้อมย้ำว่า"มีหลักฐานค่อยข้างชัดเจนว่าต้นตอของข่าวลือเกิดจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมีทุนกลุ่มใหญ่เป็นนักธุรกิจไทยอักษร ย่อ ย. และ ว. ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เล่นหุ้นที่เชื่อมโยงกับน้องชายของอดีตผู้นำประเทศ"

ซึ่งว่ากันว่า ข้อมูลนี้ ของจริง และหาก สันติบาล ลองตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล พร้อมๆกับตามติดความเคลื่อนไหวของ"หมอยง-เสี่ยยักษ์"เพื่อนน้องชายอดีตผู้นำ ยืนยันได้ 1,000 เปอร์เซ็นต์ พบต้นตอตัวเป็นๆๆแน่นอนครับท่าน!

00...3 สัปดาห์แล้วกับก้าวขึ้นมารับตำแหน่งรักษาราชการแทนผบ.ตร.ของ "พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ" แม้จะไม่ใช่ตัวจริง แต่มีอำนาจจริง จึงใส่เกียร์เดินหน้า ทำงานอย่างเต็มที่

พล.ต.อ.ปทีป นั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความสามารถด้านการบริหาร อย่างหาตัวจับได้ยาก มีวิสัยทัศน์สามารถมองอย่างทะลุปรุโปร่งว่าองค์กรสีกากีแห่งนี้กำลังเผชิญปัญหาอะไรอยู่ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสเข้ามากุมบังเหียนผู้นำหน่วยจึงลงมือทำทันที

ภารกิจแรก คือ การเสริมสร้างความสมานฉันท์ในองค์กร หลังเผชิญการแตกแยก แบ่งก๊กแบ่งเหล่ามานาน โดยนัดรองผบ.ตร.และตำแหน่งเทียบเท่า มาพูดคุย ทำความเข้าใจ โดยให้ทุกคนทำงานตามหน้างานเดิมที่ได้รับการแบ่งงานในยุค พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่มีปรับเปลี่ยน ไม่มีล้างบาง

ภารกิจที่สอง อุดรูรั่วด้านการประชาสัมพันธ์ โดยมีคำสั่ง พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. เป็นโฆษก.ตร. พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย และพ.ต.ต.หญิงฉันฉาย รัตนพานิช เป็น รองโฆษก.ตร.ที่ผ่านมาเมื่อเกิดปัญหา แทนที่จะมีคนออกหน้ามาชี้แจง แต่ทุกคนกลับเก็บตัวเงียบ นั่งภาวนาว่าให้ปัญหานั้นจางหายไปกับเวลาที่ผ่าน แต่ลืมไปว่าระหว่างนั้น ภาพลักษณ์องค์กรย่อยยับไปเรียบร้อยแล้ว

ภารกิจที่สาม เรียกประชุม รอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร.สายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม รวมถึงหน่วยปฏิบัติ ได้แก่ บช.น. บช.ก. บช.ภ.1-9 ผบช.ศชต. ผบช.ตชด.และ ผบช.ปส. เพื่อขันน็อตงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม อย่างที่ทราบว่ายามใดที่ตำรวจมีปัญหาภายใน โจรผู้ร้ายก็มักจะฉวยจังหวะก่อเหตุ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

ภารกิจที่สี่ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รับทราบข้อเท็จจริง ปัญหาข้อขัดข้องต่างๆจากผู้ปฏิบัติ เพื่อนำมาสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม จากภารกิจข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ พล.ต.อ.ปทีป ได้ลงมือทำ แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการแสดงให้เห็นถึง วิสัยทัศน์ของ พล.ต.อ.ปทีป ที่สามารถมองเห็นปัญหาสำคัญๆ ซึ่งผู้นำองค์กรจะต้องเร่งสะสาง ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า สตช.ขาดผู้นำที่มองเห็นปัญหา ปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้กลายเป็นสนิมที่คอยเกาะกินองค์กรแห่งนี้เสมอมา จึงต้องรอดูฝีมือของ พล.ต.อ.ปทีป ซึ่งท่านก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้เลือกคนผิด

00...ปิดท้ายที่เรื่อง แจ้งเพื่อทราบ ตำรวจเข้าข้างเสื้อแดงครับท่าน..วันก่อน ทีมข่าวอาชญากรรม เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน ได้รับสายจากคนเสื้อเหลืองเมืองสองแคว"พิษณุโลก"ว่าแม้วันนี้ สตช.เปลี่ยนโฉมหน้าผู้นำหน่วย แต่วันนี้ สำหรับผู้นำโรงพักที่เมืองพิษณุโลก ยังฝักใฝ่เสื้อแดง โดยเขาบอกว่า หากใส่เสื้อแดง แต่ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม เขาก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่เล่นเตรียมจ้องจับผิด หรือ ดำเนินคดี กลุ่มคนเสื้อเหลือง รวมทั้ง สื่อเสื้อเหลือง ชนิดเอาเป็นเอาตาย

เรื่องมีอยู่ว่า ทางแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดี สื่อเสื้อเหลืองในพื้นที่ ว่าหมิ่นประมาท กรณีไปกล่าวหาเขาว่ารับเงินเคลื่อนไหว ทันใดนั้น ตำรวจกลับเชื่อสนิทใจ ไม่มีการสอบสวนเบื้องต้น ซ้ำร้ายกลับทำคดีแบบเข้าข้างเสื้อแดงสุดๆๆๆ

ในลักษณะ"สอบสวนโดยไม่สุจริต ตั้งข้อหากลั่นแกล้งให้ผู้บริสุทธิ์ต้องรับโทษทางอาญาโดยไม่เป็นธรรม และเรื่องนี้ไม่แน่เร็วๆนี้อาจถึงมือ ป.ป.ช."

ไม่เพียงแค่นั้น จากคดีเล็กๆเขาทำเป็นเรื่องใหญ่ ด้วยการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อต้องการสร้างภาพว่า เขานี้แหละคือ ตำรวจที่ทำงานด้วยความยุติธรรม แต่สำหรับหัวใจของตำรวจผู้นี้เขารู้กันทั้งเมืองว่า "รักทักษิณ" สุดๆ

เรื่องนี้ จะเป็นจริงทั้งหมด หรือ จริงบางส่วน"ท่านปทีป"น่าจะสั่งตำรวจคนดี ลองไปตรวจสอบดูนะครับ เพราะ ตำรวจระดับผู้นำโรงพักนี่แหละ ถือเป็นมือวางอันดับต้นๆของตัวสร้างปัญหาความแตกแยกในหมู่ประชาชนเชียวหละ!