เคาะข่าวริมโขง : จี้ “มาร์ค” ล่าไอ้โม่งปล่อยข่าวกระทบสถาบัน-ทุบตลาดหุ้นไทย หลังมีไอ้โม่งใช้สิงคโปร์เป็นฐานปล่อยข่าวเสื่อมเสีย จนตลาดหุ้นไทยปั่นป่วน จากนั้นตามช้อนซื้อทำกำไรที่หลัง จวก ขบวนการทหารแก่ถังแตกรับจ๊อบ "นช.แม้ว" ทั้งที่ถูกนำมาเป็นตัวประกอบเสริมบารมีของคนที่ชอบสร้างราคาให้ตัวเอง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นายยุทธยง ลิ้มเลิศวาที น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และนายสำเริง คำพะอุ นักหนังสือพิมพ์อาวุโสระดับบรรณาธิการ มาร่วมพูดคุยในรายการ
ทั้งนี้ วันนี้มีการหยิบยกหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจมานำเสนอ อาทิ กรณีกระแสข่าวลือที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปั่นป่วน และกรณี มีนายทหารเก่าที่เกษียณอายุไปแล้ว แสดงเจตนารมย์ ว่าอยากร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวเบิกทางมาแล้วก่อนหน้านี้
โดยเริ่มรายการ นายชัชวาลย์ได้กล่าวถึงบรรยากาศการลงนามถวายพระพร ที่วันนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ได้เดินทางไปที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช เพื่อไปลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ส่วนบรรยากาศอื่นๆ ได้มีพสกนิกรชาวไทย เดินทางไปลงนามถวายพระพรเป็นจำนวนมาก ไว้เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติและสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่ปักหลักทำข่าว หลังจากซาบซึ้งและประทับใจกับความจงรักภักดีของคนไทยที่มีต่อพระเจ้าแผ่นดิน
จากนั้น น.ส.อัญชะลี เปิดประเด็นถึงกรณีวิทยุชุมชนมีการปล่อยข่าวเพื่อทำลายสถาบัน โดยใช้ถ้อยคำทิ่มแทงและเสียดสีอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งที่ไม่มีมูลความจริง ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไม่มีการออกมาชี้แจง หรือปกป้องสถาบันแต่อย่างใด นอกจากนี้ กระแสข่าวลือดังกล่าว ไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย เพราะส่งผลกระทบอย่างหนักเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นกว่าเมื่อวาน โดยฝากให้ผู้ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้วิจารณญาณก่อนหลงเชื่อข่าวลือใดๆ ว่ามีมูลความจริงหรือไม่
นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนที่จะดำเนินการอะไรต้องรอให้ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ส่งข้อมูลมาก่อน เพราะนับเป็นเรื่องยาก ที่จะให้รัฐบาลคอยออกไปชี้แจงทุกกระแสข่าวที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกฝ่ายนำเรื่องนี้ไปเป็นบทเรียน รวมทั้งมีความหนักแน่น มั่นใจว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ส่วนกระแสข่าวที่สำนักข่าวต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหตุการณ์บ้านเมืองไทยไม่ปกติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรส่อเค้าเช่นนั้น พร้อมทั้งกำลังเตรียมตรวจสอบเรื่องความผิดปกติในตลาดหุ้นไทยที่เกิดขึ้น
นายโสภณกล่าวเสริมว่า วันนี้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่ที่สังเกตได้อย่างชัดเจน คือ มีการทำงานกันเป็นทีม ในการซื้อและขาย เสมือนมีการตกลงกันไว้ล่วงหน้า แล้วค่อยมาแบ่งผลประโยชน์กัน เนื่องจากตลอดทั้งวันที่ผ่านมา มีฝ่ายรับและมีฝ่ายแลกกันอยู่ตลอด ทำให้รู้ว่าเวลานี้มีคนรวยจากเหตุการณ์ดังกล่าวนับพันล้านบาท ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น หาก นายกรัฐมนตรี ต้องการตรวจสอบเรื่องนี้จริง ให้รีบขอข้อมูลจาก ก.ล.ต.ว่ามีนอมินีเข้ามาซื้อขายหุ้นหรือไม่ แต่ก็ต้องว่ากันไปตามความจริงว่า มีคนใน ก.ล.ต.รู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้ด้วย
นายสำเริงกล่าวกรณีเดียวกันว่า เมื่อมีคนเสียก็ต้องมีคนได้ผลประโยชน์ โดยเรื่องที่มีคนปล่อยข่าวลือเสียหายให้แก่ประเทศไทย เป็นความพยายามเพื่อจะปั่นป่วนสถานการณ์ และทำเหมือนว่ารัฐบาลควบคุมไม่ได้ แล้วเข้าไปฉวยโอกาสจากวิกฤตดังกล่าว
นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.) โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทย ทำให้คนคนหนึ่งร่ำรวยขึ้น ทั้งที่รวยอยู่แล้ว ซึ่งคนที่จะใช้เงินจำนวนมหาศาลกว้านซื้อหุ้นเมื่อวันก่อนได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาที่มีเงินมากมายขนาดนั้น อีกทั้ง หากดูว่าข่าวลือมาจากที่ใด ก็มีการปล่อยข่าวจากสิงคโปร์ โดยไม่ต้องบอกว่าใครที่สนิทสนมกับสิงคโปร์ถึงขนาดมีการทำธุรกิจขนาดใหญ่ร่วมกัน
นายชัชวาลย์กล่าวต่อว่า การที่ตลาดหุ้นไทยเกิดปัญหา มีการบัญชาการให้ปั่นข่าวและช้อนซื้อหุ้นเป็นจำนวนมาก แล้วค่อยเทขายทำกำไรตอนหลัง ได้กำไรคืนกลับมามหาศาล เพื่อเตรียมใช้เคลื่อนไหววันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.) ถือเป็นวิธีการหาเงินที่มีมานานแล้ว
นายสำเริงกล่าวว่า ชัดเจนมากเรื่องนี้ เพราะนอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีความเคลื่อนไหว ทางด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ก็ออกมาปล่อยกระแสกรณี กล่าวหาว่ารัฐบาลขังฎีกา ไม่ยอมส่งเรื่องให้สำนักราชเลขาธิการ ดำเนินการเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยอ้างว่า รัฐบาลพยายามเตะถ่วง ยื้อเวลาให้เลยวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะมีการพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้กระทำความผิด ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษด้วย
นายสำเริงกล่าวต่อว่า การที่นายจตุพรพูดเช่นนั้น ล้วนไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง เพราะรู้ได้อย่างไรว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะพระราชอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธ.ค.นี้
นายโสภณกล่าวเสริมว่า เมื่อเกิดข่าวลือเช่นนี้ขึ้น ทางรัฐบาลต้องออกมาชี้แจงความจริงโดยเร่งด่วน เพราะเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเป็นกระแสข่าวด้านลบที่แต่งขึ้นด้วยกลุ่มคนไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง อีกทั้งยังมีแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ยืนยันพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งวัน ทำไมจึงปล่อยให้มีข่าวลือเช่นนี้ ทั้งที่ควรจะรีบหาคนปล่อยข่าวและจัดการเสีย ซึ่งเรื่องแบบนี้ หาก นายอภิสิทธิ์ จะทำจริงๆ ย่อมทำได้ เพราะเป็นถึงนายกรัฐมนตรี
นายสำเริงกล่าวกรณีนี้ว่า นายอภิสิทธิ์ ต้องรีบแก้เกมเรื่องนี้ด้วยความไว เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันแล้ว ยังมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งต้องรีบดำเนินการจัดการทันที ไม่ต้องรอให้ทาง ก.ล.ต. ขยับหรือออกมาชี้แจง เพราะเรื่องนี้ใหญ่กว่าที่จะมีแต่เพียง ก.ล.ต.เท่านั้นที่ออกมารับหน้า ทางที่ดี นายอภิสิทธิ์ ควรสู้กับข่าวลือด้วยความจริงที่เกิดขึ้น
นายยุทธยงกล่าวต่อว่า กระบวนการข่าวลือมีมานานแล้ว โดยข่าวลือมันเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่คอยปล่อยข่าวมั่ว
ช่วงต่อมาในช่วงนำเสนอศิลปวัฒนธรรม ได้มีการเปิดสกู๊ปปราสาทหินในดินแดนอีสานใต้
จากนั้น น.ส.อัญชะลี เปิดประเด็นกรณีมีนายทหารเก่าที่เกษียรอายุไปแล้ว แสดงเจตนารมย์ ว่าอยากร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวเบิกทางมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยนายโสภณกล่าวประเด็นนี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเพียงขบวนการทหารเก่าที่ถังแตก และต้องการหาเงินใช้หลังเกษียณ เพราะทำไมก่อนหน้านี้ที่รับราชการอยู่ ไม่แสดงเจตนารมย์ว่าจะเล่นการเมือง ดังนั้น จึงทำให้ผู้คนคิดไปในทิศทางนี้กันหมดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากเงินตัวเดียว
นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้น ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามสร้างภาพว่ามีแต่ทหารอยากร่วมงานทางการเมืองด้วย เสมือนว่าตนมีบารมีอยู่ ถือเป็นการสร้างราคาให้ตัวเอง โดยสิ่งที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทรงอิทธิพลได้ถึงทุกวันนี้ มีเพียงปัจจัยเดียว คือ เงินอย่างเดียว หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีเงิน ก็จะหมดสิ้นทุกอย่าง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นายยุทธยง ลิ้มเลิศวาที น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และนายสำเริง คำพะอุ นักหนังสือพิมพ์อาวุโสระดับบรรณาธิการ มาร่วมพูดคุยในรายการ
ทั้งนี้ วันนี้มีการหยิบยกหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจมานำเสนอ อาทิ กรณีกระแสข่าวลือที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปั่นป่วน และกรณี มีนายทหารเก่าที่เกษียณอายุไปแล้ว แสดงเจตนารมย์ ว่าอยากร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวเบิกทางมาแล้วก่อนหน้านี้
โดยเริ่มรายการ นายชัชวาลย์ได้กล่าวถึงบรรยากาศการลงนามถวายพระพร ที่วันนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ได้เดินทางไปที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช เพื่อไปลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ส่วนบรรยากาศอื่นๆ ได้มีพสกนิกรชาวไทย เดินทางไปลงนามถวายพระพรเป็นจำนวนมาก ไว้เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติและสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่ปักหลักทำข่าว หลังจากซาบซึ้งและประทับใจกับความจงรักภักดีของคนไทยที่มีต่อพระเจ้าแผ่นดิน
จากนั้น น.ส.อัญชะลี เปิดประเด็นถึงกรณีวิทยุชุมชนมีการปล่อยข่าวเพื่อทำลายสถาบัน โดยใช้ถ้อยคำทิ่มแทงและเสียดสีอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งที่ไม่มีมูลความจริง ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไม่มีการออกมาชี้แจง หรือปกป้องสถาบันแต่อย่างใด นอกจากนี้ กระแสข่าวลือดังกล่าว ไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย เพราะส่งผลกระทบอย่างหนักเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นกว่าเมื่อวาน โดยฝากให้ผู้ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้วิจารณญาณก่อนหลงเชื่อข่าวลือใดๆ ว่ามีมูลความจริงหรือไม่
นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนที่จะดำเนินการอะไรต้องรอให้ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ส่งข้อมูลมาก่อน เพราะนับเป็นเรื่องยาก ที่จะให้รัฐบาลคอยออกไปชี้แจงทุกกระแสข่าวที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกฝ่ายนำเรื่องนี้ไปเป็นบทเรียน รวมทั้งมีความหนักแน่น มั่นใจว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ส่วนกระแสข่าวที่สำนักข่าวต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหตุการณ์บ้านเมืองไทยไม่ปกติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรส่อเค้าเช่นนั้น พร้อมทั้งกำลังเตรียมตรวจสอบเรื่องความผิดปกติในตลาดหุ้นไทยที่เกิดขึ้น
นายโสภณกล่าวเสริมว่า วันนี้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่ที่สังเกตได้อย่างชัดเจน คือ มีการทำงานกันเป็นทีม ในการซื้อและขาย เสมือนมีการตกลงกันไว้ล่วงหน้า แล้วค่อยมาแบ่งผลประโยชน์กัน เนื่องจากตลอดทั้งวันที่ผ่านมา มีฝ่ายรับและมีฝ่ายแลกกันอยู่ตลอด ทำให้รู้ว่าเวลานี้มีคนรวยจากเหตุการณ์ดังกล่าวนับพันล้านบาท ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น หาก นายกรัฐมนตรี ต้องการตรวจสอบเรื่องนี้จริง ให้รีบขอข้อมูลจาก ก.ล.ต.ว่ามีนอมินีเข้ามาซื้อขายหุ้นหรือไม่ แต่ก็ต้องว่ากันไปตามความจริงว่า มีคนใน ก.ล.ต.รู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้ด้วย
นายสำเริงกล่าวกรณีเดียวกันว่า เมื่อมีคนเสียก็ต้องมีคนได้ผลประโยชน์ โดยเรื่องที่มีคนปล่อยข่าวลือเสียหายให้แก่ประเทศไทย เป็นความพยายามเพื่อจะปั่นป่วนสถานการณ์ และทำเหมือนว่ารัฐบาลควบคุมไม่ได้ แล้วเข้าไปฉวยโอกาสจากวิกฤตดังกล่าว
นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.) โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทย ทำให้คนคนหนึ่งร่ำรวยขึ้น ทั้งที่รวยอยู่แล้ว ซึ่งคนที่จะใช้เงินจำนวนมหาศาลกว้านซื้อหุ้นเมื่อวันก่อนได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาที่มีเงินมากมายขนาดนั้น อีกทั้ง หากดูว่าข่าวลือมาจากที่ใด ก็มีการปล่อยข่าวจากสิงคโปร์ โดยไม่ต้องบอกว่าใครที่สนิทสนมกับสิงคโปร์ถึงขนาดมีการทำธุรกิจขนาดใหญ่ร่วมกัน
นายชัชวาลย์กล่าวต่อว่า การที่ตลาดหุ้นไทยเกิดปัญหา มีการบัญชาการให้ปั่นข่าวและช้อนซื้อหุ้นเป็นจำนวนมาก แล้วค่อยเทขายทำกำไรตอนหลัง ได้กำไรคืนกลับมามหาศาล เพื่อเตรียมใช้เคลื่อนไหววันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.) ถือเป็นวิธีการหาเงินที่มีมานานแล้ว
นายสำเริงกล่าวว่า ชัดเจนมากเรื่องนี้ เพราะนอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีความเคลื่อนไหว ทางด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ก็ออกมาปล่อยกระแสกรณี กล่าวหาว่ารัฐบาลขังฎีกา ไม่ยอมส่งเรื่องให้สำนักราชเลขาธิการ ดำเนินการเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยอ้างว่า รัฐบาลพยายามเตะถ่วง ยื้อเวลาให้เลยวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะมีการพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้กระทำความผิด ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษด้วย
นายสำเริงกล่าวต่อว่า การที่นายจตุพรพูดเช่นนั้น ล้วนไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง เพราะรู้ได้อย่างไรว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะพระราชอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธ.ค.นี้
นายโสภณกล่าวเสริมว่า เมื่อเกิดข่าวลือเช่นนี้ขึ้น ทางรัฐบาลต้องออกมาชี้แจงความจริงโดยเร่งด่วน เพราะเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเป็นกระแสข่าวด้านลบที่แต่งขึ้นด้วยกลุ่มคนไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง อีกทั้งยังมีแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ยืนยันพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งวัน ทำไมจึงปล่อยให้มีข่าวลือเช่นนี้ ทั้งที่ควรจะรีบหาคนปล่อยข่าวและจัดการเสีย ซึ่งเรื่องแบบนี้ หาก นายอภิสิทธิ์ จะทำจริงๆ ย่อมทำได้ เพราะเป็นถึงนายกรัฐมนตรี
นายสำเริงกล่าวกรณีนี้ว่า นายอภิสิทธิ์ ต้องรีบแก้เกมเรื่องนี้ด้วยความไว เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันแล้ว ยังมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งต้องรีบดำเนินการจัดการทันที ไม่ต้องรอให้ทาง ก.ล.ต. ขยับหรือออกมาชี้แจง เพราะเรื่องนี้ใหญ่กว่าที่จะมีแต่เพียง ก.ล.ต.เท่านั้นที่ออกมารับหน้า ทางที่ดี นายอภิสิทธิ์ ควรสู้กับข่าวลือด้วยความจริงที่เกิดขึ้น
นายยุทธยงกล่าวต่อว่า กระบวนการข่าวลือมีมานานแล้ว โดยข่าวลือมันเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่คอยปล่อยข่าวมั่ว
ช่วงต่อมาในช่วงนำเสนอศิลปวัฒนธรรม ได้มีการเปิดสกู๊ปปราสาทหินในดินแดนอีสานใต้
จากนั้น น.ส.อัญชะลี เปิดประเด็นกรณีมีนายทหารเก่าที่เกษียรอายุไปแล้ว แสดงเจตนารมย์ ว่าอยากร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวเบิกทางมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยนายโสภณกล่าวประเด็นนี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเพียงขบวนการทหารเก่าที่ถังแตก และต้องการหาเงินใช้หลังเกษียณ เพราะทำไมก่อนหน้านี้ที่รับราชการอยู่ ไม่แสดงเจตนารมย์ว่าจะเล่นการเมือง ดังนั้น จึงทำให้ผู้คนคิดไปในทิศทางนี้กันหมดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากเงินตัวเดียว
นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้น ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามสร้างภาพว่ามีแต่ทหารอยากร่วมงานทางการเมืองด้วย เสมือนว่าตนมีบารมีอยู่ ถือเป็นการสร้างราคาให้ตัวเอง โดยสิ่งที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทรงอิทธิพลได้ถึงทุกวันนี้ มีเพียงปัจจัยเดียว คือ เงินอย่างเดียว หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีเงิน ก็จะหมดสิ้นทุกอย่าง