xs
xsm
sm
md
lg

เคาะข่าวริมโขง : สวดคำพูด “ไอ้ตู่” บังอาจคิดแทน “ในหลวง” พระราชอภัยโทษให้ “นช.แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เคาะข่าวริมโขง : สวดคำพูด “ไอ้ตู่” บังอาจคิดแทน “ในหลวง” พระราชอภัยโทษให้ “นช.แม้ว” ช่วง 5 ธ.ค. เป่านกหวีดนัดหางแดงชุมนุม 17 ต.ค. อ้างรัฐเตะถ่วง ไม่ยอมส่งฎีกาให้สำนักราชเลขาฯ เผยเหตุ "ไอ้ตู่" ปากกล้าเสี่ยงพูดสิ่งมิบังควร เพื่อเอาใจ “นช.แม้ว” หวังสร้างผลงานเอก




 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง” 
 
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยมีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และ นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ มาร่วมพูดคุยถึงหลากหลายประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกรณีวันนี้ดัชนีหุ้นไทยร่วงหนักกว่า 8% ซึ่งโบรกเกอร์ชี้ว่า มาจากสาเหตุ 3 ปัจจัยลบในประเทศ หรือจะเป็นกรณี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวสายทหาร หลังจากเกิดกระแสข่าวว่า พล.อ.เปรม ไปกล่าวหาว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้กลับมาเล่นการเมืองกับพรรคเพื่อไทย เป็นคนทรยศชาติ

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นร้อนแรงอย่างกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า วันที่ 17 ตุลาคมนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมเพื่อทวงถามความคืบหน้าการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เห็นว่ารัฐบาลจงใจดึงเรื่องไว้ ไม่ยอมส่งให้สำนักราชเลขาธิการ โดย นายจตุพร ได้กล่าวสามหาวว่า เหตุที่รัฐบาลต้องการยื้อฎีกาดังกล่าว เพื่อไม่ให้ทันวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสิ่งที่กระทำมาตลอดทุกๆ ปี ก็คือ การพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ที่กระทำผิด

เริ่มต้นรายการ ได้มีการอ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 26 จากสำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช โดยคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา รายงานว่า เสวยพระกระยาหารได้มากขึ้น แต่ยังคงถวายพระโอสถบำรุง และถวายการรักษาฟื้นฟูพระวรกายต่อไป

จากนั้น นายชัชวาลย์ ได้กล่าวเปิดประเด็นถึงกรณี วันนี้ดัชนีหุ้นไทยร่วงหนักกว่า 8% ซึ่งโบรกเกอร์ ชี้ว่า มาจากสาเหตุ 3 ปัจจัยลบในประเทศ โดย นายโสภณ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่นอน ก่อนอื่นขอเอ่ยถึงการแถลงข่าวของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ออกมาชี้แจงด้วยเหตุผลหน่อมแน้ม ไม่มีเหตุผลหนักแน่นพอ เพราะสิ่งเกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์หลังเกิดข่าวลือด้านลบที่ไม่มีมูลความจริง ดังนั้น ทาง ตลท.ควรตรวจสอบที่มาที่ไปเรื่องนี้ให้ชัดเจน ว่า ต้นตอข่าวลือมาจากที่ไหน ไม่ใช่ออกมาแถลงข่าวปลอบใจนักลงทุนเช่นนี้ ทาง ตลท.ต้องไปเช็กดูดีมานด์ของนักลงทุนว่าเป็นอย่างไร มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำตัวเป็นนอมินีปั่นหุ้นเพื่อเก็งกำไรหรือไม่ เนื่องจากดูตามรูปการถือว่าน่าสงสัย

นายอมรเทพ กล่าวเสริมกรณีนี้ ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น จนถึงขณะนี้ตนยังไม่เห็นรัฐบาลแสดงท่าทีใดๆ ออกมา ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน ตนไม่เข้าใจว่า ทำไม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงใจเย็น ปล่อยให้ทาง ตลท.ออกมาแถลงข่าวฝ่ายเดียว แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย ไม่ทำอะไร ทั้งที่มีคนชั่ว ไม่หวังดีกับประเทศปล่อยข่าวไม่ดีเช่นนี้ แต่ไม่มีใครออกมาโต้แย้งว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่จริง โดยคนที่มีน้ำหนักในคำพูดที่สุด คือ นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้นำประเทศ ดังนั้น น่าจะทำอะไรสักอย่าง

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ก่อนหุ้นตก มีกระแสข่าวลือเรื่องพระอาการประชวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีคนปล่อยจากต่างประเทศ จนทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้ผิดปกติ เพราะพระอาการประชวร คนไทยก็ทราบกันดี เนื่องจากทางสำนักพระราชวัง รายงานให้ทราบทุกวัน แต่ทำไมข่าวลือดังนั้น จึงแพร่สะพัดจนส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย กลายเป็นข่าวใหญ่โต โดยหลังจากมีการสืบสาวราวเรื่อง ทำให้ทราบว่าต้นตอข่าวมาจากสิงคโปร์ ซึ่งตนคงไม่ต้องบอกว่า ใครมีความสนิทสนมกับสิงคโปร์มากเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่ต้องพูด ทุกคนก็คงทราบดี เพราะเหตุการณ์หุ้นไทยตกกว่า 8% เป็นเรื่องของเทคนิคการเล่นหุ้น ที่กลุ่มไม่หวังดี เข้าไปฉวยโอกาสช้อนซื้อหุ้นที่ราคาตกจากข่าวลือดังกล่าว นับว่ามีไม่กี่คนที่หากินด้วยวิธีนี้

นายโสภณ กล่าวเสริมว่า วิธีป่วนกระแสและสร้างข่าว เป็นการหาเงินที่ง่ายที่สุดในการเล่นหุ้น เพราะเมื่อค่าเงินตก ก็สามารถช้อนซื้อหุ้นได้ในราคาถูก แล้วค่อยเอามาทำกำไร ซึ่งวิธีมีคนหากินกันมานาน โดยสิงคโปร์ถือเป็นฐานกำลังหลักที่นักปั่นหุ้นตัวฉกาจจะใช้เป็นฐานในการบัญชาการ

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเจ็บใจ คือ การเอาสถาบันเบื้องสูงที่คนไทยเคารพรักไปหากิน กอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง ตนเชื่อว่า มีแต่พวกหน้าเหลี่ยมเท่านั้นที่ทำได้

นายโสภณ กล่าวเสริมว่า หลังเกิดเหตุการณ์ ทำให้สงสัยว่า การที่ไม่มีใครทำอะไรมากกว่านี้ หลังจากที่เกิดเรื่อง เพราะมีคนในรัฐรู้เห็นเป็นใจให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ทำไมไม่ออกมาชี้แจงความจริง ทั้งๆ ที่ข้อมูลเรื่องนี้มีรอบด้าน แต่ถึงอย่างไร ต้องจับตาดูพรุ่งนี้อีกครั้ง ว่า สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยจะเป็นอย่างไร โดยพรุ่งนี้ถือเป็นวันสุดท้ายที่ตลาดหุ้นจะทำการในสัปดาห์นี้

ช่วงต่อมา นายชัชวาลย์ กล่าวประเด็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวสายทหาร หลังจากเกิดกระแสข่าวว่า พล.อ.เปรม ไปกล่าวหาว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้กลับมาเล่นการเมืองกับพรรคเพื่อไทย เป็นคนทรยศชาติ โดย นายโสภณ กล่าวกรณีนี้ ว่า เรื่องนี้แท้จริงแล้ว พล.อ.เปรม ได้ส่งตัวแทนไปเตือน พล.อ.ชวลิต ในฐานะมิตรสหายเท่านั้น ว่าจะทำอะไรขอให้คิดให้ดีก่อน สำหรับเรื่องไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเรื่องนี้ ตนมองว่า ที่ผ่านมา พล.อ.เปรม ตั้งอยู่ในความเป็นธรรม และหวังดีกับชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง ดังนั้น เมื่อเห็นว่า พล.อ.ชวลิต จะเดินไปในทางมิชอบ ในฐานะที่เป็นมิตรสหายกัน จึงเอ่ยปากเตือน

นายอมรเทพ กล่าวเสริมว่า ตอนนี้มีแต่คนเป็นห่วง พล.อ.ชวลิต เพราะกลัวว่าจะเข้ามาเล่นการเมืองกับพรรคเพื่อไทย เพื่อจะเคลื่อนไหวทางการเมือง และนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศ เนื่องจากเวลานี้ชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร

นายชัชวาลย์ กล่าวเปิดประเด็น กรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า วันที่ 17 ตุลาคมนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมเพื่อทวงถามความคืบหน้าการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เห็นว่า รัฐบาลจงใจดึงเรื่องไว้ ไม่ยอมส่งให้สำนักราชเลขาธิการ โดย นายจตุพร ได้กล่าวสามหาวว่า เหตุที่รัฐบาลต้องการยื้อฎีกาดังกล่าว เพื่อไม่ให้ทันวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสิ่งที่กระทำมาตลอดทุกๆ ปี ก็คือ การพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ที่กระทำผิด

นายโสภณ กล่าวว่า สิ่งที่ นายจตุพร ความจริงตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ เพียงแต่ต้องการบอกแค่ว่า การต่อสู้ของ นายจตุพร เป็นการทำเพื่อคนๆ เดียว และเหตุผลข้อเดียว คือ ต้องการเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ และพาอดีตนายกรัฐมนตรีโกงชาติกลับบ้าน ซึ่งตนบอกได้เลยว่า ตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีเงินอยู่ ปรากฏการณ์เช่นนี้จะมีให้เห็นอีกแน่นอน และกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะไม่หยุดเคลื่อนไหว แต่จะป่วนประเทศไปเรื่อยๆ แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศ เขารู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ดังนั้น ผู้คนที่ยังตกเป็นเหยื่ออยู่ จึงมีจำนวนไม่มากนัก

นายอมรเทพ กล่าวว่า คำพูดของ นายจตุพร ตนไม่แน่ใจว่า เข้าข่ายจาบจ้วงเบื้องสูงหรือไม่ แต่อยากฝากให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องดังกล่าว ลงมาตรวจสอบเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ตนรู้สึกมาตลอด คือ แท้จริงแล้วเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จ้างกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหว ไม่ได้ต้องการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ เพราะมีเป้าหมายที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือ การทวงเงิน 76,000 ล้านบาท ที่ถูกยึดคืน ดังนั้น เมื่อไหร่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สิ่งที่ต้องการ ก็เชื่อว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะถูกถีบหัวส่งแน่นอน เนื่องจากหมดผลประโยชน์แล้ว

นายโสภณ กล่าวเสริมว่า ทุกวันนี้ ระบบบ้านเมืองไทยแย่ เพราะมีทหารเก่าที่กว่าจะไต่เต้าขึ้นมามียศสูงๆ และเคยปฏิญาณตนเองว่าจะรับใช้ชาติ บัดนี้ อุดมการณ์ได้เปลี่ยนไป กลับไปช่วยนักโทษโกงชาติคนเดียวให้พ้นจากความผิด ไปช่วยคนชั่วให้ได้กลับบ้าน โดยจะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะกว่าจะเติบใหญ่มาขนาดนี้ ต้องผ่านอะไรมากมาย ดังนั้น จึงสะท้อนให้เห็นว่า ทหารเก่าบางคนแยกแยะไม่ออกว่าคนชั่วกับคนดีแตกต่างกันอย่างไร

นายอมรเทพ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมยังมีคนเชื่อคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ผ่านมา ไม่เคยทำจริงอย่างที่พูด เคยบอกว่าจะกลับมานำทัพคนเสื้อแดงต่อสู้ บัดนี้ยังไม่เห็นกลับมา สิ่งนี้ทำให้สะท้อนว่า การที่ทหารเก่าบางคน เดินตามเกม พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะหวังผลอะไร หรือว่าในเมื่อหมดวาระในการรับใช้ชาติแล้ว ก็ไปประกอบอาชีพเป็นทหารรับจ้างให้นักการเมืองขี้โกงต่อ

นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ตน คือ นายจตุพร หาว่ารัฐบาลขังใบฎีกา ไม่ยอมดำเนินการตามขั้นตอน และยังระบุว่า ที่รัฐบาลทำเช่นนั้น เพราะต้องการเตะถ่วงให้เลยวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนขอถาม นายจตุพร ว่า ทำไมบังอาจไปล่วงรู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะพระราชอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตนอยากถามว่า นายจตุพร พูดเช่นนี้รู้จักที่ต่ำที่สูงหรือไม่ ทำไมกล้าไปคิดแทนพระองค์

นายโสภณ กล่าวปิดท้ายว่า นายจตุพร พูด เพื่อต้องการแสดงความกล้าหาญให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็น เพื่อเอาบิลไปเบิกเงินต่อ ถือเป็นเอาคำพูดมาสร้างราคาให้ตนเอง ถึงแม้จะเสี่ยง แต่ผลที่ได้คงคิดว่าคุ้มค่า แต่นอกเหนือไปกว่านั้น คือ ทำไมทหารเก่าบางคน ถึงกลับไปรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมคิดเช่นนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น