“วรินทร์” โวย! ก.ล.ต. หย่อนกติกา ไม่ต่างจากบ่อนพนัน ปั้นนโยบายหรู ดักแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ซัด“มาร์ค”หากปัดความรับผิดชอบ ก็ลาออกไปเสีย อย่ารอให้ถึงขั้นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และหากจับต้นตอไม่ได้ ก็เตรียมกลับไปเป็นฝ่ายค้านได้เลย แนะใช้สื่อให้เต็มที่อย่าปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นงานฝ่ายเดียว ด้าน“ชัชวาลย์” เผยใต๋ปริศนาตัวย่อไอ้โม่งทุบหุ้น ชี้คนในพรรคร่วมรัฐบาลมีเอี่ยวด้วย พบช่องโหว่หาก รมว.คลังไม่ซื่อ ปั่นหุ้นได้สบาย เหน็บ“มาร์ค”เก่งแต่พูด นายกฯจริงอยู่สุราษฎร์หรือไม่
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คนในข่าว”
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2552 โดยมีนางสาวรัตน์ติกรณ์ จารุเกษตรวิทย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจากนายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา และนายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นักวิชาการอิสระ มาร่วมพูดคุยถึงเบื้องหลังขบวนการปล่อยข่าวลือ
นายวรินทร์ กล่าวว่า คนที่มีอิทธิพลในตลาดหลักทรัพย์ พวกนี้เป็นที่น่าจับตาอย่างมาก เพราะเป็นยิ่งกว่าอาชญากร ไม่ใช่ฆ่าแค่คนๆ เดียว แต่กำลังฆ่าคนไทยทั้งประเทศ ด้วยการทำลายระบบเศรษฐกิจ เรื่องใหญ่แบบนี้นายกฯ จะโยนให้ ก.คลังฯ เข้าไปดูแลเพียงลำพัง ไม่ได้ และหากยังปัดความรับผิดชอบอยู่อย่างนี้ คนแรกที่จะถูกถอดถอนจากวุฒิสภา คือตัวนายกฯ ไม่ใช่กระทรวงการคลัง
“ในบริษัทที่สามารถควบคุมได้ ตัวการจัดสรรหุ้น จะจัดหุ้นให้กับผู้อุปถัมภ์(นักการเมือง) เพื่อปั่นให้ราคาผิดไปจากธรรมชาติ จะได้ไม่มีใครค้าน ตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่มีกติกา ไม่ต่างจากบ่อนการพนัน ที่สำคัญนายบ่อนกับผู้เล่นรู้เห็นเป็นใจกันด้วย สร้างนโยบายสวยหรูหลอกนักธุรกิจเข้ามาเล่น โดยคนที่เข้ามาก็ไม่ต่างจากแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เดี๋ยวก็ตายหมด” นายวรินทร์ กล่าว
ชัชวาล กล่าวเสริมว่าในประวัติศาสตร์ ก.ล.ต. ไม่เคยจับนักปั่นหุ้นได้เลย อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร่ำรวยมาจากหุ้น ในเวลาสั้นๆ มีเงินเกือบแสนล้าน ทั้งนี้หากจะควบคุมหุ้นจะต้องยึด ก.ล.ต. ให้ได้ก่อน เพราะในห้อง รมว.คลัง จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่เครื่องหนึ่ง หากใครซื้อหุ้นข้อมูลจะโชว์ที่คอมพ์ของ รมว.คลัง สามารถรู้ได้ทันที ว่าหุ้นตัวไหนเด่น ตรงนี้หากรมต.คลังคนนั้นไม่ซื่อสัตย์ เขาอินไซด์เดอร์ให้พรรคพวกได้เลย นอกจากนี้เลขาธิการ รมต.คลัง และคนสำคัญบางตำแหน่งก็รู้ข้อมูลได้ ไม่ต่างจาก รมต.คลัง
นายวรินทร์ กล่าวถึงตัวละคร ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ว่า เป็นทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้เสียในตลาดหุ้น ข่าวลือนี้มีการส่งสัญญาณตั้งแต่ 30 ก.ย. หากทำในเว็บบอร์ดในประเทศไทยตำรวจเว็บสามารถจับได้ทันที่ จึงต้องไปฟอกข่าวในต่างประเทศ แล้วส่งข้อมูลกลับเข้ามาอีกที ตรงนี้หลายคนอาจเข้าใจว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ เป็นความเข้าใจที่ผิด ดีเอสไอ ต้องเอากฎหมาย ว่าด้วยความมั่นคงของรัฐ มาปรับกับ กม. คอมพิวเตอร์ ใช้บังคับ และต้องลงโทษอย่างเด็ดขาดไม่อย่างนั้นจะไม่สามรถหยุดได้ อาจส่งผลกระทบให้นักลงทุนหนี เพราะไม่เชื่อมั่นประเทศไทย
“ที่นายนพดล ปัทมะ ร้อนตัวออกมาพูดดักคอว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่คนทำเพราะไม่ได้เล่นหุ้น ตรงนี้ตนไม่ขอพูดถึง แต่เชื่อว่าใครทำกรรมไว้ ย่อมได้รับกรรมนั้น ที่สำคัญใครทำกรรมที่เกี่ยวกับสถาบัน องค์พระประมุข โบราณเขาเคยเตือนไว้ ว่า จะเกิดอีกกี่ชาติก็ไม่รุ่งเรือง มีแต่จะตกต่ำ” นายวรินทร์ กล่าว
นายวรินทร์ กล่าวว่ารัฐบาลนี้สอบตก มีสื่ออยู่ในมือแต่ไม่รู้จักใช้ แม้แต่เรื่องความมั่นคง ยังแก้ไม่ได้ ก็คงต้องเตรียมตัวกลับไปเป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม หากนายกฯจะปัดความรับผิดชอบไปให้ ก.คลังแก้ ก็ลาออกไปเสีย อย่าต้องให้ถึงขั้นเปิดสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงวันนี้ก็ผ่านมาห้าวัน รัฐบาลต้องบอกได้แล้ว ว่า ขบวนการส่งข้อมูลข่าวสารอัปยศนั้น เป็นมาอย่างไร เพราะขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล พยายามสร้างแรงจูงใจ เช่นกระแส รถไฟ ปัญหาในเดือนตุลา มากลบปัญหาเหล่านี้ ซึ่งอาจทำให้ลืมว่า ประเด็นกลักของบ้านเมืองตอนนี้ คือ การทุบหุ้น และทำลายความมั่นคงของชาติ
นายวรินทร์ กล่าวต่อว่าคนบางคน เชื่อว่าดวงของเขา จะกลับมาเป็นนายกฯ จึงพยายามรักษาตำแหน่งของตนไว้ ตรงนี้ตนขอเตือนว่า คนทุกคนต้องอาศัยบุญเก่าและบุญใหม่ บุญเก่าสามารถทำให้เป็นนายกฯ ได้ แต่ขณะเดียวกันชะตาของบ้านเมืองกำลังมีปัญหา ดังนั้นคนที่อยู่ในตำแหน่ง ต้องทำงาน เพื่อสร้างบุญใหม่ จะรอแต่บุญเก่าไม่ได้อีกแล้ว เสียดายหลายคนที่จบ เศรษฐศาสตร์ จบการเงินการคลัง ไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถแก้วิกฤติ อย่าคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเราอยู่กับอาชญากร จะต้องเอาคนพวกนี้มาลงโทษให้ได้ และไม่ใช่มาร้องขอข้อมูลจากประชาชน แต่ต้องใช้กลไกของรัฐร่วมมือกัน ซึ่งต้องเปิดวอร์รูม โดยเฉพาะ อย่ารอแต่ให้ รมต.คลังทำฝ่ายเดียว ไม่อย่างนั้นจะไม่ทัน กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้แล้ว
“คำพิพากษายึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน จะทำให้การยึดทรัพย์สินเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่สามารถเอาคืนได้ ฉะนั้นจะต้องเผด็จศึกก่อนมีคำพิพากษา ซึ่งรัฐบาลและประชาชนต้องจับตาดูว่ามีสัญญาณบอกเหตุว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นการพูดในเวทีสารธารณะว่า ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรัฐใหม่ ประชาธิปไตยของมหาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากเพราะนั่นคือการปฏิวัติประชาชน ตรงนี้ รัฐบาลต้องนำสื่อทั้งหมด มาให้ความรู้เกี่ยวกับสถาบัน ประวัติศาสตร์ มากกว่านี้ ถึงเวลาแล้วที่ ต้องประกาศเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ช่วงชิงพื้นที่ข่าวให้มากที่สุด ทำให้สังคมไทยเป็นแหล่งเรียนรู้ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของรัฐบาลหากจะอยู่ต่อ” นายวรินทร์ กล่าว
นายชัชวาล กล่าวถึงคำพูดของนายกฯ ที่บอกเข้าไปเกี่ยวไม่ได้ เป็นเรื่อง ก.ล.ต. สอบสวน ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องของเงินในตลาดหุ้นอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องความมั่นคงของสถาบันสำคัญของชาติด้วย เพราะคนพวกนี้เอาข่าวเรื่องของสถาบันของชาติมาปล่อย เพื่อหาเงิน ตรงนี้ต้องถามต่อไปว่า เอาเงินไปทำอะไร ต้องยอมรับว่า ตลาดหุ้นแยกไม่ได้จากนักการเมือง นักการเมืองที่ไม่ดีเขาหากเงินจากแหล่งใดบ้าง 1.งบประมาณภาษีของประชาชน ด้วยการทำโปรเจ็กต์โครงการต่างๆ 2.ตลาดหลักทรัพย์ เพราะง่ายไม่ต้องทำเอง เพียงแต่เป็นอินไซด์เดอร์ คอยบอกว่าควรจะซื้อหุ้นตัวไหน 3.การเทรนดิ่ง เอาโครงการต่างๆ มาผูกมัดอยู่กับนักธุรกิจ 4.หาจากการฉ้อฉล เนื่องจากสังคมบ้านเราถือเงินเป็นใหญ่ ดังนั้น นักเล่นหุ้นขาใหญ่ส่วนมากจะ คบกับนักการเมือง รวมหัวหากินกับการปั่นหุ้น
ทั้งนี้หากเหตุการณ์อย่างนี้ เกิดที่ประเทศอังกฤษ เขาถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เพราะกระทบกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สิ่งแรกที่เขาทำคือยึดมือถือ ของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แล้วหาข้อมูลการโทรเข้า- ออก ซึ่งจะนำไปสู่ต้นตอจนสามารถจับได้ทั้งหมด
นายชัชวาลย์ กล่าวถึงสาเหตุการปล่อยข่าว 1.คนสำคัญใน ก.ล.ต. สนิทกับน้องชาย ของคนที่มีอำนาจทางการเมืองในอดีต แล้วทำมาหากินด้วยกัน เมื่อก่อนน้องชายของผู้มีอำนาจคนนี้ แทบจะไม่มีเงิน แต่หลังจากเข้ามาหากินในตลาดหุ้น โดยการซื้อหุ้นเน่าในราคาไม่กี่บาท แล้วเอามาปั่นให้มีราคาสูงขึ้น ตรงนี้ ก.ล.ต. ก็รู้ดี แต่แกล้งทำไม่รู้ 2.มีประโยชน์ซ่อนเร้นกันอยู่ 3.เหตุที่เกิดครั้งนี้เกิดขึ้นจากากรปล่อยข่าว ของเครือข่ายพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่ไปปล่อยข่าวในต่างจังหวัด แล้วตีข่าวกลับเข้ากรุงเทพ แต่คนในกรุงเทพยังไม่กล้าปล่อยข่าวเข้า กลต. ในทันที เลยต้องปล่อยข่าวให้สำนักข่าว บลูมเบิร์ก ในต่างประเทศ แล้วจึงตีข่าวกลับมาในประเทศไทยอีกที
นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย เพราะไม่เคยมีการปล่อยข่าวอัปมงคล ขนาดนี้ นายกฯต้องรับผิดชอบ หากไม่สามารถนำตัวคนผิดมาลงโทษได้ พวกนี้จะเหิมเกริม แล้วจะคอยโอกาสกลับมาทำอีก นายวรินทร์ กล่าวเสริมว่า การทุบตลาดหุ้นครั้งนี้เป็นแค่การโหมโรง เพื่อรอรับพระเอก คนใหม่ เป้าหมายคนพวกนี้ต้องการบีบให้มีการเลือกตั้งใหม่ หากนายกฯไม่รีบจัดการ จะเจอของจริงที่หนักกว่านี้
“น้องชายผู้มีอำนาจคนหนึ่ง เคยพูดกับผมว่า พี่ชายจะลงเลือกตั้ง ไม่ต้องใช้เงินตัวเองเลย เงินที่ใช้เป็นเงินที่ได้จากการเล่นหุ้น ฉะนั้นตลาดหลักทรัพย์ จึงเป็นแหล่งหาเงินที่แนบเนียน ไม่สามารถจับมือใครดมไม่ได้ ประกอบกับคนพวกนี้มีเส้นใหญ่ไม่มีใครกล้าจับ ซึ่งคนหนึ่งในนี้มีคนบอกว่าชื่อ “ยย.” ตนก็ไปดูว่ามีใครบ้างชื่อจริง “ยย.” ก็มี ยิ่งยง ยังยืน ยรรยง ยิ่งยุ่ง ยังอยู่ แต่ ยรรยง มีคนพูดถึงเป็นคนในกลุ่ม 14 ต.ค. ส่วนชื่อ “วช.” มีใครได้บ้าง วิ่งชน วิชุ่ย วิชิต วิชัย วิชิน แต่เขาก็บอกว่าน่าจะเป็น “วิชัย” นอกเหนือจากนี้ตนขอเติมไปอีกว่ามีคนชื่อ “พย.” ด้วย ซึ่งก็มี พายน พาย้าย พายับ พายัด ตรงนี้ก็ไปวิเคราะห์กันเอา” นายชัชวาลย์ กล่าว
นายชัชวาลย์ กล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์บ้านเรา มีลักษณะเป็นการพนันสูง เพราะไม่เคยมีการจับพวกปั่นหุ้น คนที่ตนเอ่ยชื่อไป คนพวกนี้เวลาให้สัมภาษณ์เขาภูมิใจมาก จากเคยเป็นคนจนอยู่บ้านนอก มาขับรถเฟอร์รารี่ นี่คือชีวิตใหม่ของพวกเขา ในขณะเดียวกัน ตนมองว่าคนพวกนี้ใช้ไม่ได้ ไม่คำนึงถึงความยับเยินของบ้านเมืองและสถาบัน และการทุบหุ้นครั้งนี้เป็นการกระทืบหัวใจคนไทยทั้งชาติ ที่เอาเรื่องอย่างนี้มาปล่อยข่าวอัปมงคล
นายชัชวาลย์ กล่าวถึงขบวนการสร้างข่าวลือมีสองฝ่าย 1.พวกที่ไม่ได้เล่นการเมือง แต่มีผลประโยชน์ตลาดหุ้น พยายามบั่นทอนสถาบันหลักของชาติ โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการรัฐใหม่ ส่วนอีกพวก เป็นกลุ่มที่ต้องการหาเงิน เตรียมเอาไปใช้ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งนี้แม้ข่าวลือจะไม่เกี่ยวกับการเมืองโดยตรง แต่ก็มีแนวโน้มโยงกับการเมือง เช่นกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง พูดถึงเรื่องถวายฎีกากล่าวหาว่า รัฐบาลยื้อเวลาเอาไว้ พร้อมอ้างว่าหากฎีกานี้ไปถึงในหลวง ก่อนวันที่ 4 ธ.ค. จะทรงอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มันจะเชื่อมโยงตรงที่ว่า หากฎีกาไม่ถึงพระองค์ ก็จะโจมตีรัฐบาล ว่ากลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่หากไม่มีการอภัยโทษ พวกนี้ก็อาจนำไปพูดใส่ร้าย ว่า พระองค์สองมาตรฐาน จากนั้นพวกนี้ก็จะฟูมฟายติติงว่า นักโทษชายทักษิณ ทำคุณให้แผ่นดินมากมาย ทำไม่ไม่อภัยโทษ ขณะที่นักโทษทั่วไปยังให้อภัยได้
นายวรินทร์ กล่าวเสริมว่า ความน่ากลัวของสังคมไทยวันนี้คือ การแพร่ข้อมูลข่าวสาร หากสื่อมวลชนไม่ซื่อสัตย์ เอา พระที่พูดไม่เก่ง มาออกเวทีพูดตอบโต้กับโจรที่พูดเก่งกว่า ชาวบ้านก็ต้องเชื่อโจร ดังนั้นรัฐบาลต้องทำให้ประชาชนรู้ อะไรคือเสรีภาพ อะไรคือการโกหก อะไรคือการทำลายสถาบันความมั่นคง หากนายกฯ พูดว่าเข้าไปยุ่งไม่ได้ แล้วจะเป็นนายกฯทำไม
นายชัชวาลย์ กล่าวว่าคนที่ทุบหุ้น ไม่ได้มีแต่พรรคฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาลหลายคนก็เล่นหุ้น โดยคนบางคนเป็นพรรคที่มีอำนาจ ชื่อ “อ” หากเอาโทรศัพท์เขามาได้ ก็จะรู้ว่าได้โทรไปต่างประเทศบอกให้ใครทิ้งหุ้นและบอกให้ใครซื้อหุ้น ตนถึงบอกว่า ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า ในขณะที่นายกฯ ทำหน้าที่ไม่ได้ดีเท่าที่ควร โดยส่วนตัวตนคาดว่า นายกฯอาจไม่รู้จริงก็ได้ ว่าจะจักการอย่างไรกับขบวนการทุบหุ้น หรืออาจจะไม่ให้ความสำคัญ แล้วโยนให้ ก.คลัง อย่างนี้มันใช้ไม่ได้ เพราะกรณีนี้เกี่ยวกับในหลวง ผู้ซึ่งคนไทยรักเทิดทูลทั้งชาติ คนที่คนไทยรักยิ่งกว่าพ่อ หากินบนความเจ็บปวดของคนไทยทั้งชาติ ทั้งนี้จากที่ตนดูท่าทีของนายกฯ หากเปรียบเทียบกับนักมวย ชกไม่สมศักดิ์ศรี นายกฯพูดเก่งแต่ทำคนละเรื่องกับที่พูด ไม่ผิดที่ เปลวสีเงินเขียนว่า นี่คือนายกเสียงจริง แต่นายกฯตัวจริงอยู่สุราษฎร์
นายชัชวาลย์ กล่าวอีกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีหลายอย่างที่จะต้องรีบแก้ ได้แก่ 1. เงิน 7.6 หมื่นล้าน ที่ศาลจะตัดสินในเร็วๆนี้ 2.สุขภาพ และ3.อยากกลับมาเป็นใหญ่โดยไม่มีความผิด เวลาเขาน้อยจึงต้องเร่ง ทั้งนี้แนวทางที่อาจทำได้ก็มีแค่ การรัฐประหาร ด้วยการจ้างคนบางคนในกองทัพหรือล้มรัฐบาลให้ได้แล้วเลือกตั้งใหม่ เพราะเขาเชื่อว่า เงินยังสามารถซื้อคนได้และสามารถทำให้เขาได้ ส.ส. เกินกึ่งหนึ่งในสภา อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดมีอยู่อย่างเดียว คือ ทำอย่างไรให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ต่อกรกับ เนื่องจากเขารู้ว่าพันธมิตรฯไม่ยอมให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นแน่