“สุนันท์” แฉเพิ่ม “ยย.” และ “วช.” คนใกล้ชิด “น้องชายนักการเมือง” ปล่อยข่าวอัปมงคลทำตลาดหุ้นดิ่งเหว จวกตลาดหลักทรัพย์ดีแต่สร้างภาพ รู้เต็มอกมีแก๊งมิจฉาชีพปั่นหุ้นแต่ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน เหตุเกรงบารมีนักการเมือง แนะตรวจสอบการซื้อขายหุ้น ยึดคืนให้หมดหากได้ไปโดยผิดกฎหมาย
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คอคนคอข่าว"
นายสุนันท์ ศรีจันทรา ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้น กล่าวระหว่างดำเนินรายการ “คอคนคอข่าว” ช่วง “คอข่าวเศรษฐกิจ” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ในวันที่ 19 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา กรณีที่มีผู้ปล่อยข่าวลือในทางอัปมงคลที่ทำให้ตลาดหุ้นดิ่งเหวว่า ข่าวลือดังกล่าวเกิดขึ้นในวันพุธ (14 ต.ค.) ช่วงบ่ายๆ ซึ่งตามปกติที่ควรจะเป็น เจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ ต้องชี้แจงทันทีหรืออย่างช้าก็ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีว่า ข่าวลืออัปมงคลมันไม่ใช่ความจริง แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย จนทำให้ดัชนีหุ้นลงไปถึง 60 จุด ตรงนี้เป็นการสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม วันๆ เอาแต่สร้างภาพ โฆษณาชวนเชื่อให้คนมาลงทุน ซึ่งไม่ต่างจากการเล่นการพนัน
นายสุนันท์กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดข่าวลือขึ้นเพราะว่าข่าวลือที่เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่ผ่านมาไม่เคยจับตัวได้ เวลาทำงานตลาดหลักทรัพย์ก็นอนหลับ และไม่ได้หลับแค่วันเดียวแต่หลับตลอดเจ็ดวัน ข่าวลือนี้เขาลือกันเล่น จนประกาศเป็นข่าวจริง นักลงทุนรายใหญ่ปั่นหุ้นจนได้เงินไปแล้ว ตลาดหลักทรัพย์เพิ่งตื่น ไปสอบถามว่ามีข่าวลืออะไร ชาวบ้านเขารู้กันหมด ข่าวลือนี้ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่วันพุธแล้ว แต่ตลาดหลักทรัพย์ไม่รู้
“มีผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ก็เหมือนมีรัฐบาล ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบันเหมือนมีรัฐบาลที่ผ่านมา ทำงานแค่ต้องการสร้างภาพ ให้ดัชนีดูสวยหรู แต่ไม่เคยแก้ปัญหา ข่าวลือที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นเพราะคนทำได้ใจ ด้วยเหตุที่ว่าทำแล้วไม่มีใครตรวจสอบ ไม่มีใครเอาจริงเอาจังฟ้องร้องคดี ทุกวันนี้หุ้นในหลายร้อยบริษัทเป็นหุ้นปั่นหรือที่เขาเรียกกันว่าหุ้นเน่า ก็ยังไม่ทำอะไร ยังเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์อีก” นายสุนันท์กล่าว
นายสุนันท์กล่าวถึงชื่อย่อคนที่ปล่อยข่าวลือทำให้ดัชนีราคาหุ้นดิ่งเหวว่า ตามที่ ส.ว.สรรหาได้เปิดเผยชื่อย่อไปก่อนหน้านี้ว่า ชื่อ ย. และ ว.นั้น เพื่อความชัดเจนตนขอเพิ่มเป็น ยย. และ วช. ซึ่งนักลงทุนในตลาดรู้ดี ตามสายข่าวบอกว่ามีความสนิทสนมกับน้องชายนักการเมือง ไม่ใช่ใครที่ไหน ซึ่งก็คือ พา....ยับ ชินวัตร กลุ่มนี้เคยร่วมขบวนการทำมิดีมิร้ายในตลาดหุ้น ทั้งนี้ นายพา...ยับ เมื่อครั้งกลับมาจากต่างประเทศ เงินไม่คอยมี พี่ชายก็ไม่ค่อยช่วย แต่พอพี่ชายเป็นนักการเมือง ก็รวยขึ้นในพริบตา จนมีเงินเป็นพันล้าน่จากการเล่นหุ้น เช่นเดียวกับ “ยย.” และ “วช.” ก็มีพฤติกรรมในการปั่นหุ่น โดยสร้างข่าวเทียม เป็นขบวนการใหญ่ และเมื่อมารวมตัวกับนายพา..ยับ ก็ยิ่งมีอิทธิพล แต่ตลาดหลักทรัพย์ไม่มีใครกล้าเล่นงานตามกฎหมาย เพราะอยู่ในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กุมอำนาจ มิหนำซ้ำนอกจากนี้ ทั้งๆ ที่ตลาดหลักทรัพย์ รู้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นนักปั่นหุ้น ดันเชิญไปเป็นวิทยากรให้ความรู้กับผู้ลงทุนอีก แล้วอย่างนี้ตลาดหุ้นจะไม่เจ๊งได้อย่างไร เอาโจรไปสอนคน
นายสุนันท์กล่าวว่า หากจะตรวจสอบเรื่องนี้ทำได้ไม่ยาก เพราะมันจะมีรายการซื้อขายกันอยู่ สามารถตรวจสอบการซื้อขายได้ ขายออกก่อนหุ้นตกด้วยเหตุผลใด ในวันที่หุ้นตกมากๆ มีข่าวลือแล้ว แต่คุณเข้าไปซื้อไว้ หรือตรวจสอบรายการจากโทรศัพท์ของหมอ “ยย.” และ “วช.” เพราะคดีนี้ไม่ใช่เรื่องการปั้นหุ่นอย่างเดียว แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ ความมั่นคงและสถาบัน ที่สำคัญเงินที่นักลงทุนสองคนนี้ปล้นไปจากตลาดหุ้น มีกฎหมายใดบ้างที่จะยึดคืนได้ ให้ยึดคืนมาให้หมด อย่ามาอ้างว่า เดี๋ยวนักลงทุนรายใหญ่ตกใจไม่มาเล่นหุ้น เพราะขณะนี่มันมีลักษณะเป็นบ่อน มีแก๊งเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่ของเอกชน แถมยังไม่เคยเสียภาษีอีกต่างหาก คนเล่นหุ้นที่ผ่านมามีเป็นล้านคน หายไป 7 แสนคน เพราะหมดเนื้อหมดตัว และที่เหลือเดี๋ยวก็จะตามไป เพราะยังปล่อยให้มีกลุ่มคนอย่าง “ยย.”และ “วช.” พวกนี้อยู่