xs
xsm
sm
md
lg

“คำนูณ” เปิดแผลเครือข่ายแก๊ง ยย.-วช.ทุบหุ้น เรียก “เทือก-ก.ล.ต.” แจง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คำนูณ สิทธิสมาน
กมธ.พิทักษ์สถาบัน แฉซ้ำ 3 ขบวนการเครือข่ายอดีตผู้นำประเทศ อยู่เบื้องหลังแก๊งอัปรีย์ปั้นข่าวอัปมงคลทุบตลาดหุ้นไทย เตรียมเรียก “เทพเทือก-ก.ล.ต.” แจง กมธ. จี้รัฐบาลลงมาจัดการด้วยตนเอง ชี้หากยังเพิกเฉยเหตุการณ์เลวร้ายจะยิ่งซ้ำเติม ราชนิกุลวอนประชาชนอย่าเชื่อข่าวลือพระอาการประชวร ให้ฟังแถลงการณ์สำนักพระราชวังอย่างเดียว

วันนี้ (20 ต.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมาย และมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา นำโดยนายคำนูณ สิทธิสมาน เลขานุการคณะกรรมาธิการ ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ออกมาเปิดชื่อย่อของบุคคลที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องในการทุบตลาดหุ้นในวันที่ 13-14 ต.ค.ว่า จากการหารือของคณะกรรมิการร่วม 2 ชั่วโมง มีการขยายผลต่อไปว่าชื่อย่อของบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้คือ ชื่อ “ยย. และวช.” โดยทั้ง 2 คนเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่คนในตลาดหลักทรัพย์รู้จักดี กรรมธิการเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญการปั่นหุ้นตามปกติ แต่เป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศทั้งเศรษฐกิจและการเมือง และเห็นว่าจะต้องพิจารณาเรื่องนี้โดยด่วน โดยในการประชุมครั้งหน้าจะเชิญ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และผู้ใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงนายสุนันท์ ศรีจันทรา สื่อมวลชนอาวุโสที่เชี่ยวชาญในเรื่องหุ้นมาให้ข้อมูล

นายคำนูณกล่าวอีกว่า จากการหารือเบื้องต้นของคณะกรรมาธิการฯ พบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมี 3 ขบวนการร่วมกัน คือ 1.เครือข่ายเครือญาติของอดีตผู้นำประเทศ 2.เครือข่ายเครือญาติของนักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล ที่เป็นนักลงทุนกลุ่มใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ และ 3.เครือข่ายกลุ่มเดือนตุลาสายบ่อนทำลายสถาบัน ซึ่งมีตัวการสำคัญบางคนร่วมอยู่ใน 2 ขบวนการแรก ซึ่ง “ยย. และวช.” ล้วนเกี่ยวพันกับ 3 ขบวนการนี้ และขณะนี้ทั้งคู่ยังอยู่ในเมืองไทย โดยขบวนการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ คือ บ่อนทำลายสถาบัน และหาทุนเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในช่วงปลายปี

นายคำนูณกล่าวอีกว่า นอกจากนี้กรรมาธิการพบว่ามีขบวนการปล่อยข่าวตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.-1 ต.ค. โดยมีการปล่อยข่าวในเว็บไซต์ต่างๆ (เช่น เสรีชน ประชาไท และไทยอีนิวส์ )และขบวนการนี้ยังได้ฟอร์เวิดเมลล์ข้อความต่างๆ ไปยังกลุ่มบุคคลทั้งในเชียงใหม่และกรุงเทพ ซึ่งกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตว่า ขบวนการดังกล่าวอาจต้องการให้ เกิดเรื่องนี้ขึ้นในวันที่ 14 ต.ค. โดยโยงไปให้คิดในเชิงสัญลักษณ์พ้องกับเหตุการณ์ 14 ตุลาในอดีต ซึ่งส่งผลเสียหายต่อประเทศไทย โดยผ่านเครือข่ายนักเล่นหุ้น เชื่อมต่อไปยังสำนักข่าวต่างประเทศจึงได้กำหนดดีเดย์ในวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งเชื่อว่าหากมีการสืบสวนตามกฎหมายที่มีอยู่อย่างจริงจัง รัฐบาลจะหาผู้เกี่ยวข้องในขบวนการได้

ด้าน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ และ กรรมาธิการฯ กล่าวว่า การสืบสวนหาผู้กระทำผิดหากพิจารณาจากข้อมูลตามที่ปรากฏทำได้ไม่ยาก แต่รัฐบาลต้องลงมาบูรณาการจัดการปัญหาด้วยตนเอง สำหรับกรรมาธิการมุ่งหวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก เพราะการนำสถาบันมาเป็นเครื่องหาประโยชน์ทางการเงินและการเมือง ไม่สมควรอย่างยิ่ง หากปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปเชื่อว่าอีก 4-5 เดือนก็จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีก

ด้าน ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ส.ว.สรรหา รองประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ประชาชนเฝ้าติดตามพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามแถลงการณ์ของสำนักพระราชวัง เพราะถือว่าถูกต้องที่สุด ไม่ควรคิดเกินเลยกว่านั้น และไม่ควรเชื่อข่าวลือ
กำลังโหลดความคิดเห็น