นายกฯ แจงความคืบหน้าผลตรวจสอบ “แก๊งอัปรีย์” ปล่อยข่าวลือถล่มตลาดหุ้นไทย ยันเริ่มเห็นเค้าลางแล้ว โยงใยกับบริษัทแห่งหนึ่งที่ถูกพาดพิงจริง แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องยังให้การปฏิเสธ “กรณ์” รับมอบดาบพร้อมฟัน มั่นใจฝีมือ ตลท.-ก.ล.ต.สาวถึงต้นตอเพื่อกระชากหน้ากากไอ้โม่งออกมาตีแผ่ความชั่ว เตือนเป็นอุทาหรณ์บทเรียน เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการค้นหาต้นตอผู้ปล่อยข่าวลือถล่มตลาดหุ้นไทย โดยระบุว่าขณะนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงของต้นตอการปล่อยข่าวลือในด้านลบในตลาดหลักทรัพย์จนทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ ซึ่งเบื้องต้นพบข้อมูลว่ามีการพาดพิงถึงบริษัทแห่งหนึ่ง
“เมื่อวานนี้ผมได้พูดคุยกับทางรัฐมนตรีคลังแล้ว ก็มีการพาดพิงถึงบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังตรวจสอบกันอยู่ โดยเบื้องต้นพบว่า ส่วนใหญ่คนที่ถูกพาดพิงถึง ก็จะปฏิเสธว่าไม่ได้ดำเนินการลักษณะนั้น”
ส่วนประเด็นเหล่านี้จะกระทบกับภาพรวมตลาดหลักกทรัพย์ต่อเนื่องถึงในสัปดาห์หน้าหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่า ยังตอบยาก เพราะเรื่องอย่างนี้มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา แต่ก็อยากให้ทุกคนเก็บเกี่ยวไว้เป็นบทเรียน
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีฝากย้ำว่า อยากให้ผู้รับฟังข่าวสารต่างๆ ใช้วิจารณญาณกลั่นกรอง และทุกคนควรจะมีความหนักแน่น แม้จะมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะห้ามไม่ให้ใครคิดตามข่าวที่ได้รับ
ขณะที่ รมว.คลัง กล่าวว่า ตลท.และสำนักงาน ก.ล.ต.กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น หลังจากมีกระแสข่าวว่า โบรกเกอร์ปล่อยข่าวลือด้านลบ เพื่อปั่นหุ้นหรือเก็งกำไร ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นร่วงอย่างหนักกว่า 60 จุด
ทั้งนี้ การตรวจสอบจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกินขอบเขตของกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้
รมว.คลัง กล่าวว่า การปรับราคาหุ้นเป็นกลไกปกติ แต่การตรวจสอบแหล่งที่มาของข่าวเป็นเรื่องที่ ตลท. และสำนักงาน ก.ล.ต.กำลังตรวจสอบอยู่ คงไม่จำเป็นต้องออกมาตรการพิเศษ เพราะหากตัดสินใจเกินกฎเกณฑ์จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในแง่ลบ ทุกคนต้องใช้ดุลพินิจและมั่นคงในการพิจารณาความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม การปล่อยข่าวเพื่อปั่นหุ้นเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยจึงเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องพิจารณาให้ดี เพราะพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทยมีความแข็งแกร่งดีอยู่ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติมีเพิ่มมากขึ้น และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเกือบทุกหมวด ดังนั้น นักลงทุนต้องใช้วิจารณญาณว่าปัจจัยต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปจากสมมุติฐานเดิมหรือไม่ เพราะการปล่อยข่าวลือมีทุกยุคทุกสมัย
การที่ตลาดหุ้นไทยมีการปรับฐานลดลงอย่างหนักในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากแรงเทขายทำกำไร แต่หากนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงก่อนหน้านี้ดัชนีตลาดหุ้นขยายตัวถึง 65% เป็นการขยายตัวในเชิงบวกมาโดยตลอด และถือว่าเป็นตลาดหุ้นไทยดีที่สุดในโลก โดยหากเปรียบเทียบราคาหุ้นกับกำไรก่อนที่จะจดทะเบียนอยู่ที่ 13-13.5 เท่า ขณะที่ภาพรวมตลาดเอเซียอยู่ที่ 15 เท่า สะท้อนให้เห็นว่าราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยไม่ได้จนสูงเกินไป