xs
xsm
sm
md
lg

40 ส.ว.จี้รัฐเปิดผลศึกษาเมล์เอ็นจีวี เตือนระวังเจอฟ้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไพบูลย์ นิติตะวัน
“ไพบูลย์” แฉ ครม.มาร์ค ยกผลศึกษาสภาพัฒน์เสนอเช่าเมล์เอ็นจีวีผ่านมติใช้ แต่ไม่ได้นำผลเรื่องการซ่อมบำรุงมาดู ทำกำหนดราคากลางไม่ถูกต้อง เข่าข่ายล็อกราคา เตือนระวังอาจเจอฟ้องศาลฎีกาจนต้องโดนฟ้องศาลฏีกานักการเมือง ทั้ง ครม.จะอ้างไม่รู้ไม่ได้ พร้อมจี้เปิดผลการศึกษารถเมล์เอ็นจีวี

วันนี้ (15 ต.ค.) ที่รัฐสภา กลุ่ม 40 ส.ว.นำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ แถลงข่าว โดย นายไพบูลย์ กล่าวว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันแล้วนั้น กลุ่ม 40 ส.ว.ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวแล้ว พบว่า มติครม.นำความเห็นของสภาพัฒน์มาอ้างโดยไม่ครบถ้วน เพราะสภาพัฒน์ เห็นว่า การให้สัมปทานแก่เอกชนดีกว่าเช่าหรือซื้อ เพราะมีความเสี่ยงต่ำ ครม.กลับอ้างเฉพาะเช่าดีกว่าซื้อทั้งที่สภาพัฒน์พิจารณาเพียงราคารถบวกกับดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ไม่ได้นำเรื่องค่าซ่อมบำรุงวันละ 2,250 บาท มาพิจารณาประกอบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่หมกเม็ดไว้ ซึ่งจะแก้ไขได้โดยวิธีให้สัมปทานแก่เอกชนจะยุติปัญหาเรื่องนี้ ครม.กลับไม่นำมาพิจารณา เพราะโดยหลักการแล้วคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางทั้งหมดขึ้นมาใหม่ ซึ่ง ครม.เห็นชอบ ดังนั้น การไปกำหนดวงเงิน 63,000 ล้านบาทไว้ก่อนที่จะมีราคากลางนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะคณะกรรมการอาจจะต้องปรับลดเงินลงอีกเป็นหมื่นล้าน จึงขอคัดค้านการให้ข่าวดังกล่าวเพราะอาจเข้าข่าย ล็อกราคากลางไว้ล่วงหน้า

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า จึงขอเรียกร้องให้ ครม.ที่ร่วมประชุมอนุมัติหลักการนี้ หากภายภาคหน้าเกิดมีคดีที่นำไปสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รัฐมนตรีจะไปอ้างกับศาลว่าไม่ได้อ่านรายละเอียด ลงมติไปตามประเพณีเพื่อให้พ้นผิดเหมือนคดีหวยบนดินไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ได้มีการทักท้วงกันอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีทุกคนจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

ด้าน นางสาวสุมล กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้นายกฯจริงใจในการแก้ปัญหาเอ็นจีวี เหมือนครั้งแรกที่รับปากกับประชาชน แต่ท่านก็ซื้อเวลาเหมือนแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยโยนให้สภาพัฒน์ฯไปศึกษา ซึ่งสุดท้ายก็มีมติ ครม.อนุมัติ ให้มีรถเมล์เอ็นจีวี นำมาใช้ ซึ่งตนอยากให้รัฐบาลนำผลการศึกษาของสภาพัฒน์มาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้ทำให้ประชาชนสงสัยว่า การอนุมัติรถเมล์ 4 พันคัน ครั้งนี้เป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น