“เทพไท” ปัดรัฐต่างตอบแทน “ภูมิใจห้อย” ผ่านรถเมล์เอ็นจีวี แลกแก้ไข รธน.

“เทพไท” ลั่น ใครขวางประชามติแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่นักประชาธิปไตย ปัด “ภูมิใจห้อย” กลับลำเข้าข้างทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ไม่เกี่ยวแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อนุมัติโครงการรถเมล์ต่างตอบแทน เหน็บ “เพื่อแม้ว” ทำค้านโครงการรถเมล์ทั้งที่เริ่มต้นจากตัวเอง

วันนี้ (30 ก.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวหา ว่า รัฐบาลอนุมัติโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน และงบจัดซื้ออาวุธของกองทัพ ว่า เป็นเรื่องของผลประโยชน์ต่างตอบแทนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่เป็นความจริง การอนุมัติโครงการต่างๆ ของ ครม.อยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของชาติและประชาชนซึ่งมีการพิจารณาโดยรอบคอบแล้ว จึงได้อนุมัติโครงการนั้นๆ ยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ยึดถือหลักความถูกต้อง ความจำเป็นของโครงการมากกว่ากระแสทางการเมือง ดังนั้น การอนุมัติโครงการกับเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงเป็นคนละประเด็นกัน และการที่พรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนท่าทีสนับสนุนแนวคิดของนายกฯโดยการทำประชามติถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพราะเป็นหนทางเดียวที่จะใช้เป็นเหตุผลในการอธิบายต่อสังคมได้ ในวันนี้หากใครก็ตามที่ขัดขวางการทำประชามติ ถือว่าไม่ใช่นักประชาธิปไตยที่ไม่ยอมรับความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ ในขณะนี้ยังมีบางพรรคการเมืองที่ยังมีความคิดสวนกระแสสังคมเช่นนี้อยู่ และเชื่อว่า หากยังมีจุดยืนเช่นนี้ต่อไปก็จะเป็นพรรคการเมืองที่ตกกระแสสังคมไปเองในที่สุด

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อกล่าวหาของพรรคเพื่อไทยที่พยายามโยงโครงการทั้งสอง ว่า เป็นเรื่องผลประโยชน์ที่จะมีการทุจริตคอร์รัปชันนั้น ขอชี้แจงว่า โครงการทั้งสองไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ การจัดซื้ออาวุธของกองทัพเริ่มต้นจากรัฐบาลทักษิณ โครงการรถเมล์เอ็นจีวี ก็เริ่มต้นมาจากรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เพียงแต่โครงการดังกล่าวได้ผูกพันมาถึงรัฐบาลชุดนี้ และการอนุมัติรถเมล์ก็ผ่านการกลั่นกรองจากสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาแล้ว โดย ครม.มีเงื่อนไข 3 ข้อ ให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาและเชื่อว่า ถ้ามีการปฏิบัติตามมติ ครม.อย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้โครงการนี้โปร่งใสและผลประโยชน์ตกอยู่กับประชาชนอย่างแท้จริง จึงไม่เข้าใจว่า โครงการทั้งสองนี้ ถ้าผ่าน ครม.ในยุคที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล โดยไม่มีการปรับปรุงและตรวจสอบโดยรัฐบาลนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยจะนิยมชมชอบโครงการนี้มากน้อยเพียงใด และทำไมวันนี้จึงมาแสดงท่าทีคัดค้านและรังเกียจกับโครงการที่ตนเองเคยสนับสนุนและผลักดันมาก่อน หรือเพียงแต่มีความคิดว่า อะไรที่เป็นของตนเองก็จะดีไปหมด แต่สำหรับของคนอื่นแล้วเลวทุกอย่างใช่หรือไม่