00 เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา มีเรื่องใหญ่ๆ และเรื่องที่น่าสนใจหลายเรื่อง ทั้งที่มาจากผลการประชุมครม. ที่มีการอนุมัติโครงการและแต่งตั้งข้าราชการบางตำแหน่งที่ถูกสังคมจับตามอง ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นในวันเดียวกัน ประดังมารวดเดียว
00 เริ่มจากป.ป.ช.ชี้มูลความผิดร้ายแรง สมัคร สุนทรเวช และนพดล ปัทมะ สอง “นอมินีคนหน้าเหลี่ยม” กรณีเป็นเจ้ากี้เจ้าการสนับสนุน กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว และที่เป็นนัยสำคัญก็คือ พฤติกรรมของคนทั้งคู่มีลักษณะ “ขายชาติ” เพราะในคำวินิจฉัยยังระบุว่า ยังเอื้อประโยชน์ทางการเมืองเพื่อหวังให้ “ฮุนเซน” ชนะเลือกตั้งอีกด้วย
00 ในคำวินิจฉัยบอกว่า ได้พบหลักฐานดังกล่าว นั่นก็หมายความว่างานนี้ นอกจากมีรายการขายชาติแล้ว ยังเป็นการดำเนินนโยบายเพื่อผลประโยชน์ของต่างชาติ หรือทำตาม “ใบสั่ง” หวังผลทางธุรกิจบางอย่างเท่านั้น ถือเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ แต่กลับเอาอธิปไตย และดินแดนของชาติไปแลก คนประเภทนี้ต้องเองไปประหารชีวิตสถานเดียว อ้อ ล่าสุดที่ “ฮุนเซน” ออกมากร้าวใส่ไทย ขู่จะยิงคนนั้นยิงคนนี้ ก็เป็นเพราะได้รับสัญญาณจากใครหรือไม่
00 แต่ที่น่าสนใจก็คือ คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนั้นกลับไม่โดนร่างแห ซึ่งรวมไปถึง 4 รัฐมนตรี ที่มาร่วมอยูในรัฐบาลปัจจุบัน หลุดรอดไปได้ เนื่องจากป.ป.ช.ปราณีเห็นว่าไม่ได้จงใจกระทำผิด แม้จะเป็นเรื่องที่ต้องวิจารณ์ตามมา แต่เมื่อมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว ก็ต้องเคารพ ถึงจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
00 ส่วนความเปลี่ยนแปลงที่น่าแปลกใจก็คือ การย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พ้นจากอธิบดีดีเอสไอได้เสียที ทั้งที่สมควรทำมาตั้งนานแล้ว แต่นี่ต้องรอนานถึง 8-9 เดือน เป็นเพราะมีรายการ “กำข้อมูล” บางอย่างเพื่อแบล็กเมล์หรือไม่ หรือเกี่ยวข้องกับคดีเงินบริจาค ของพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้าน หรือไม่
00 นี่ก็เหมือนกับต่างตอบแทนไม่มีผิด กับการอนุมัติให้ ขสมก. เช่ารถเมล์ 4 พันคัน มูลค่าเบ็ดเสร็จ 6.3 หมื่นล้านบาท ที่ดูแล้วเหมือนการเล่นละคร ยื้อกันไปกันมาเหมือนการดองเค็มเอาไว้ก่อนเมื่อถูกกระแสสังคมต่อต้าน แต่พอทุกอย่างเริ่มซาลง ก็รวบรัดเดินหน้าแบบปัจจุบันทันด่วน และงานนี้ก็ “หวานหมู” สมประโยชน์ “ภูมิใจห้อย-ปชป.”
00 เมื่อเรื่องนี้ยอมให้ผ่านแล้ว ดังนั้นเมื่อถึงคิวคนอื่นบ้างก็อย่าขวางแล้วกัน ดังนั้นก็อย่าได้แปลกใจ ที่ในช่วงเวลาเดียวกันก็มีรายการแต่งตั้งรักษาราชการ ผบ.ตร. เป็น พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ หรือ การยอมถอยยอมให้มีการประชามติก่อนแก้ไขรธน.ตามความปราถนาของนายกฯมาร์ค เรื่องมันก็เอวังด้วยประการฉะนี้แล พี่น้อง !!
00 เริ่มจากป.ป.ช.ชี้มูลความผิดร้ายแรง สมัคร สุนทรเวช และนพดล ปัทมะ สอง “นอมินีคนหน้าเหลี่ยม” กรณีเป็นเจ้ากี้เจ้าการสนับสนุน กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว และที่เป็นนัยสำคัญก็คือ พฤติกรรมของคนทั้งคู่มีลักษณะ “ขายชาติ” เพราะในคำวินิจฉัยยังระบุว่า ยังเอื้อประโยชน์ทางการเมืองเพื่อหวังให้ “ฮุนเซน” ชนะเลือกตั้งอีกด้วย
00 ในคำวินิจฉัยบอกว่า ได้พบหลักฐานดังกล่าว นั่นก็หมายความว่างานนี้ นอกจากมีรายการขายชาติแล้ว ยังเป็นการดำเนินนโยบายเพื่อผลประโยชน์ของต่างชาติ หรือทำตาม “ใบสั่ง” หวังผลทางธุรกิจบางอย่างเท่านั้น ถือเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ แต่กลับเอาอธิปไตย และดินแดนของชาติไปแลก คนประเภทนี้ต้องเองไปประหารชีวิตสถานเดียว อ้อ ล่าสุดที่ “ฮุนเซน” ออกมากร้าวใส่ไทย ขู่จะยิงคนนั้นยิงคนนี้ ก็เป็นเพราะได้รับสัญญาณจากใครหรือไม่
00 แต่ที่น่าสนใจก็คือ คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนั้นกลับไม่โดนร่างแห ซึ่งรวมไปถึง 4 รัฐมนตรี ที่มาร่วมอยูในรัฐบาลปัจจุบัน หลุดรอดไปได้ เนื่องจากป.ป.ช.ปราณีเห็นว่าไม่ได้จงใจกระทำผิด แม้จะเป็นเรื่องที่ต้องวิจารณ์ตามมา แต่เมื่อมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว ก็ต้องเคารพ ถึงจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
00 ส่วนความเปลี่ยนแปลงที่น่าแปลกใจก็คือ การย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พ้นจากอธิบดีดีเอสไอได้เสียที ทั้งที่สมควรทำมาตั้งนานแล้ว แต่นี่ต้องรอนานถึง 8-9 เดือน เป็นเพราะมีรายการ “กำข้อมูล” บางอย่างเพื่อแบล็กเมล์หรือไม่ หรือเกี่ยวข้องกับคดีเงินบริจาค ของพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้าน หรือไม่
00 นี่ก็เหมือนกับต่างตอบแทนไม่มีผิด กับการอนุมัติให้ ขสมก. เช่ารถเมล์ 4 พันคัน มูลค่าเบ็ดเสร็จ 6.3 หมื่นล้านบาท ที่ดูแล้วเหมือนการเล่นละคร ยื้อกันไปกันมาเหมือนการดองเค็มเอาไว้ก่อนเมื่อถูกกระแสสังคมต่อต้าน แต่พอทุกอย่างเริ่มซาลง ก็รวบรัดเดินหน้าแบบปัจจุบันทันด่วน และงานนี้ก็ “หวานหมู” สมประโยชน์ “ภูมิใจห้อย-ปชป.”
00 เมื่อเรื่องนี้ยอมให้ผ่านแล้ว ดังนั้นเมื่อถึงคิวคนอื่นบ้างก็อย่าขวางแล้วกัน ดังนั้นก็อย่าได้แปลกใจ ที่ในช่วงเวลาเดียวกันก็มีรายการแต่งตั้งรักษาราชการ ผบ.ตร. เป็น พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ หรือ การยอมถอยยอมให้มีการประชามติก่อนแก้ไขรธน.ตามความปราถนาของนายกฯมาร์ค เรื่องมันก็เอวังด้วยประการฉะนี้แล พี่น้อง !!
