แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว.จี้ ทีโอที เปิดประมูลคลื่น 3จี มูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท อย่าทำเอง เพราะมีแต่จะขาดทุน เสนอแนะเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูล ด้าน “ส.ว.ประสาร” เผย กมธ.สิทธิมนุษยชน วุฒิสภา หวั่นต่างชาติฮุบประมูล 3จี ฝากรัฐบาลคำนึงต่อความมั่นคงชาติ
วันนี้ (7 ต.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว.เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและพนักงานบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ขอให้ตรวจสอบโครงการจัดซื้ออุปกรณ์เพื่อดำเนินโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี มูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท ของบริษัท ทีโอที ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยจะมีการใช้วงเงินกู้จากโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งมีความไม่ชอบมาพากล โดยเรื่องนี้มีต่อเนื่องมาตั้งแต่ทีโอทีดำเนินโครงการในนามบริษัท เอซีทีโมบายล์ ซึ่งในขณะนั้นมีปัญหาการจัดซื้ออุปกรณ์มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท และบริษัท ไทยโมบายล์ ก็มีปัญหาการตลาดจนขาดทุนย่อยยับ และล่าสุด ทราบว่า มีการเซ็นเช็คจ่ายให้บริษัทที่รับจ้างบริหารด้านการตลาดเป็นเช็คใบเดียว 1,500 ล้านบาทด้วยความเร่งรัดผิดปกติ ทั้งที่บริษัทนี้มีแต่จะทำให้ทีโอทีขาดทุนมากมาย
“พอเห็นข้อมูลก็รู้สึกว่า คล้ายๆ กับเรื่องรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ที่มีการจัดซื้อจัดจ้างมหาศาลและอาจมีการได้ประโยชน์จากส่วนต่างของราคา ซึ่งเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ 3จี ของทีโอที ไม่ควรจะใช้เงินกู้ไปซื้อมาดำเนินการตลาดเอง เพราะจะมีแต่ขาดทุน แต่ควรเอาสิทธิในคลื่น 3จี จำนวน 30 เมกะไบต์ มาแบ่งเป็น 3 สัญญา แล้วเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลคลื่นเพื่อไปดำเนินการ เพราะจะทำให้ทีโอที มีรายได้ทันทีเป็นหมื่นๆล้านบาท ซึ่งกลุ่ม 40 ส.ว.จะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไปในวันที่ 8 ตุลาคมนี้” นายไพบูลย์ กล่าว
ด้าน นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน เสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภควุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯกำลังศึกษาเรื่องที่ กสท.จะทำการเปิดประมูลระบบ 3จี ในเร็วๆ นี้ ซึ่ง กมธ.เกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อประเทศไทยในหลายมิติ เช่นด้านความมั่นคงของชาติ และรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เกรงว่า การเปิดประมูลครั้งนี้จะทำให้บริษัทเครือข่ายสื่อสารยักษ์ใหญ่ของต่างชาติ จะได้รับสัมปทานไปทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ตัดโอกาสธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมของไทย รวมทั้งจะทำให้ กสท และ ทศท.ถูกแย่งชิงทรัพยากรนี้ไปด้วย อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงรัฐบาลต้องคำนึงถึงการสร้างรายได้จากการประมูลครั้งนี้ด้วย เข้าใจว่า การประมูลครั้งนี้ก็เป็นการหารายได้เข้าประเทศก็จริง แต่ต้องคำนึงถึงความมั่นคงของชาติเป็นหลัก และคิดถึงโอกาสภาคเอกชนไทยด้วย