บริษัทกล้องซีซีทีวี ผู้ชนะการประกวดราคาติดต้องกล้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนทางภาคใต้ ฟ้องศาลปกครองสั่งกระทรวงมหาดไทยคืนกล้อง-ชดใช้ค่าเสียหาย 2,500 ล้านหลัง ครม.เลิกสัญญา
วันนี้ (7 ต.ค.) นายภาวิน วงศ์อารี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลทิง จำกัด ที่มีนายชาญ กุลถาวรากร เป็นกรรมการบริษัท ได้ยื่นฟ้องสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย กรณีมีพฤติการณ์ทำให้เกิดความเดือดร้อนเสียหาย เนื่องจากยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพ ในการป้องกัน ควบคุม รักษาความปลอดภัย แก่ประชาชน และชุมชน สถานที่ราชการ สาธารณสถาน
ทั้งนี้ คำฟ้องระบุว่าบริษัทเป็นผู้ชนะการประกวดราคา และได้ดำเนินการไป ระยะหนึ่งแล้ว แต่มีเหตุขัดข้องบางประการ ทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจและการหาผู้เชี่ยวชาญวิศวกรผู้รับอนุญาต ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิคที่สลับซับซ้อน ยุ่งยาก ทางบริษัทจึงได้ทำเรื่องของขยายระยะเวลาออกไป โดยระหว่างรอ ครม.อนุมัติ ทางบริษัทก็ได้ดำเนินการตามสัญญาโดยไม่ได้มีการหยุดชะงัก กว่าจะทราบผลมติ ครม.อีกครั้งก็ผ่านไปกว่า 6 เดือน จึงทราบว่า ครม.ไม่อนุญาตให้มีการขยายเวลา จนเป็นเหตุให้ทางบริษัทเกิดความเสียหายและได้ฟ้องต่อศาลปกครองมาแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งตามคดีหมายเลขดำที่ 820/2552 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาไต่สวนของศาล
อย่างไรก็ตาม เหตุแห่งการฟ้องคดีเพิ่มเติมในครั้งนี้ก็เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้กระทรวงมหาดไทย ส่งมองคืนบรรดาอุปกรณ์ในพื้นที่และจุดต่างๆที่ได้ติดตั้งไว้แล้ว และค่าเสียหายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งค่าเสียหายตามความเป็นจริงในอนาคตเป็นรายเดือน ซึ่งรวมถึงค่าเสื่อมและค่าปฎิบัติงานต่างๆ พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฟ้องคดี จำนวนกว่า 2,500 ล้านบาท
วันนี้ (7 ต.ค.) นายภาวิน วงศ์อารี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ดิจิตอล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลทิง จำกัด ที่มีนายชาญ กุลถาวรากร เป็นกรรมการบริษัท ได้ยื่นฟ้องสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย กรณีมีพฤติการณ์ทำให้เกิดความเดือดร้อนเสียหาย เนื่องจากยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพ ในการป้องกัน ควบคุม รักษาความปลอดภัย แก่ประชาชน และชุมชน สถานที่ราชการ สาธารณสถาน
ทั้งนี้ คำฟ้องระบุว่าบริษัทเป็นผู้ชนะการประกวดราคา และได้ดำเนินการไป ระยะหนึ่งแล้ว แต่มีเหตุขัดข้องบางประการ ทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจและการหาผู้เชี่ยวชาญวิศวกรผู้รับอนุญาต ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิคที่สลับซับซ้อน ยุ่งยาก ทางบริษัทจึงได้ทำเรื่องของขยายระยะเวลาออกไป โดยระหว่างรอ ครม.อนุมัติ ทางบริษัทก็ได้ดำเนินการตามสัญญาโดยไม่ได้มีการหยุดชะงัก กว่าจะทราบผลมติ ครม.อีกครั้งก็ผ่านไปกว่า 6 เดือน จึงทราบว่า ครม.ไม่อนุญาตให้มีการขยายเวลา จนเป็นเหตุให้ทางบริษัทเกิดความเสียหายและได้ฟ้องต่อศาลปกครองมาแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งตามคดีหมายเลขดำที่ 820/2552 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาไต่สวนของศาล
อย่างไรก็ตาม เหตุแห่งการฟ้องคดีเพิ่มเติมในครั้งนี้ก็เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้กระทรวงมหาดไทย ส่งมองคืนบรรดาอุปกรณ์ในพื้นที่และจุดต่างๆที่ได้ติดตั้งไว้แล้ว และค่าเสียหายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งค่าเสียหายตามความเป็นจริงในอนาคตเป็นรายเดือน ซึ่งรวมถึงค่าเสื่อมและค่าปฎิบัติงานต่างๆ พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฟ้องคดี จำนวนกว่า 2,500 ล้านบาท
