ASTVผู้จัดการรายวัน - พบกล้องวงจรปิดปัตตานีทั้งหมด 1,070 ตัว แต่ไม่สามารถใช้การได้กว่า 900 ตัว ขณะที่เกิดเหตุรายวันต่อเนื่องคนร้ายวางระเบิดร้านขายของชำในเมืองปัตตานีบาดเกือบ 30 คน เสียชีวิตอีก 1
หลังเกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 รัฐได้มีนโยบายให้นำกล้องวงจรปิด หรือ ซีซีทีวี มาติดตั้งตามเส้นทางและพื้นที่ชุมชนที่เป็นจุดล่อแหลม เพื่อป้องกันเหตุต่างๆ รวมทั้งง่ายต่อการติดตาม ซึ่งในส่วนของเขต อ.เมือง จ.ปัตตานี มี 328 ตัว กรมการปกครองเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ใช้การได้ไม่ถึง 10 ตัว มีเพียงของเทศบาลเมืองปัตตานี ที่ยังใช้การได้ทั้งหมดจำนวน 38 ตัว แต่ยังไม่เพียงพอ
ในขณะที่ทั้ง ศอ.บต. กรมการปกครอง และสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีการทุ่มงบประมาณเพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ จ.ปัตตานี รวมแล้วกว่า 1,070 ตัว ซึ่งตลอดปี 51-52 ที่ผ่านมาการก่อเหตุ ยิง เผาสถานที่ราชการ หรือลอบวางระเบิดหน้า สภ.เมืองปัตตานี สภ.สายบุรี ย่านชุมชน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาใช้การได้เลย สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกล้องส่วนใหญ่กว่า 900 ตัว ไม่สามารถใช้การได้ เนื่องจากใช้งานมาตั้งแต่ปี 2547 โดยไม่มีการจัดงบประมาณซ่อมแซมจากส่วนกลางถึงจะมีการร้องขอไปแล้วก็ตาม
ส่วนกล้องที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีแผนติดตั้งทั่วทั้ง จ.ปัตตานี ในรอบใหม่จำนวน 990 ตัว โดยในสัญญาจ้างกับบริษัทที่รับไปดำเนินการต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 พ.ย.51 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้พบว่าการติดตั้งเสร็จแล้ว แต่กล้องทั้งหมดยังคงใช้การไม่ได้ จึงเป็นปัญหาให้กลุ่มที่ก่อเหตุ ทั้งฉกชิงวิ่งราว หรือเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ยังคงก่อเหตุโดยไม่หวั่นต่อการถูกติดตามจากเจ้าหน้าที่เลย
เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) เวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุระเบิดที่ร้านขายของชำ เลขที่ 71/124 ภายใน ซอย 6 ถ.นาเกลือ ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดมาตรวจสอบในร้านเสียหายเล็กน้อย ปรากฏว่าขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบร้านขายของชำดังกล่าวก็ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร มีกลุ่มควันลอยคลุ้ง และมีเสียงร้องของชาวบ้านขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อส.และหน่วยกู้ภัย ซึ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ได้วิ่งเข้าไปช่วยเหลือลำเลียงผู้รับบาดเจ็บนำส่ง รพ.ปัตตานี พร้อมขอกำลังเสริม ปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้มีเกือบ 30 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย โดยเหตุระเบิดครั้งนี้กล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถใช้งานได้.
หลังเกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 รัฐได้มีนโยบายให้นำกล้องวงจรปิด หรือ ซีซีทีวี มาติดตั้งตามเส้นทางและพื้นที่ชุมชนที่เป็นจุดล่อแหลม เพื่อป้องกันเหตุต่างๆ รวมทั้งง่ายต่อการติดตาม ซึ่งในส่วนของเขต อ.เมือง จ.ปัตตานี มี 328 ตัว กรมการปกครองเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ใช้การได้ไม่ถึง 10 ตัว มีเพียงของเทศบาลเมืองปัตตานี ที่ยังใช้การได้ทั้งหมดจำนวน 38 ตัว แต่ยังไม่เพียงพอ
ในขณะที่ทั้ง ศอ.บต. กรมการปกครอง และสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีการทุ่มงบประมาณเพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ จ.ปัตตานี รวมแล้วกว่า 1,070 ตัว ซึ่งตลอดปี 51-52 ที่ผ่านมาการก่อเหตุ ยิง เผาสถานที่ราชการ หรือลอบวางระเบิดหน้า สภ.เมืองปัตตานี สภ.สายบุรี ย่านชุมชน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาใช้การได้เลย สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกล้องส่วนใหญ่กว่า 900 ตัว ไม่สามารถใช้การได้ เนื่องจากใช้งานมาตั้งแต่ปี 2547 โดยไม่มีการจัดงบประมาณซ่อมแซมจากส่วนกลางถึงจะมีการร้องขอไปแล้วก็ตาม
ส่วนกล้องที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีแผนติดตั้งทั่วทั้ง จ.ปัตตานี ในรอบใหม่จำนวน 990 ตัว โดยในสัญญาจ้างกับบริษัทที่รับไปดำเนินการต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 พ.ย.51 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้พบว่าการติดตั้งเสร็จแล้ว แต่กล้องทั้งหมดยังคงใช้การไม่ได้ จึงเป็นปัญหาให้กลุ่มที่ก่อเหตุ ทั้งฉกชิงวิ่งราว หรือเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ยังคงก่อเหตุโดยไม่หวั่นต่อการถูกติดตามจากเจ้าหน้าที่เลย
เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) เวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุระเบิดที่ร้านขายของชำ เลขที่ 71/124 ภายใน ซอย 6 ถ.นาเกลือ ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดมาตรวจสอบในร้านเสียหายเล็กน้อย ปรากฏว่าขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบร้านขายของชำดังกล่าวก็ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร มีกลุ่มควันลอยคลุ้ง และมีเสียงร้องของชาวบ้านขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อส.และหน่วยกู้ภัย ซึ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ได้วิ่งเข้าไปช่วยเหลือลำเลียงผู้รับบาดเจ็บนำส่ง รพ.ปัตตานี พร้อมขอกำลังเสริม ปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้มีเกือบ 30 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย โดยเหตุระเบิดครั้งนี้กล้องวงจรปิดก็ไม่สามารถใช้งานได้.
