xs
xsm
sm
md
lg

“จิ๋ว”ไม่สำเหนียกเข้าคอก “แม้ว”- “เฉลิม” แฮปปี้ลูกพี่ซบเพื่อไทย- “ประวิตร”แยกทาง “พัชรวาท”เพื่ออนาคต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
“นอกแฟ้มข่าว” โดย กริชเพ็ชร

00 มองกันว่าหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาคดีทุจริตกล้ายาง เมื่อวันที่ 21 กันยายน ตามมาด้วยคดีการออกสลาก เลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว หรือหวยบนดิน เมื่อวันที่ 30 กันยายน จะเกิดปรากฎการณ์ใหม่ในวงการการเมืองทันที คณะรัฐมนตรี ในยุค “ทักษิณ ชินวัตร” ครองเมืองที่เคยเก็บตัวเงียบจากการต้องคดีทุจริตต่างๆ จะเริ่มทยอยเปิดตัว เคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้น เพราะเริ่มมองเห็นแนวทางการวินิจฉัยคดีของศาลกันบ้างแล้วว่าจะออกมาในลักษณะใด

00 ขณะเดียวกันหากการเข้ามามีบทบาทของกระบวนการยุติธรรมในการขจัดสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นในแผ่นดินก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นลักษณะ “ตุลาการภิวัฒน์” ตามที่หลายฝ่ายมองกัน เมื่อผ่านพ้นยุคทุจริตครองเมือง มาสู่ยุคปัจจุบันที่สังคมกำลังแสวงหาความรัก ความสมัครสมานสามัคคี มีความสมานฉันท์ “ตุลาการภิวัฒน์” อาจต้องทำหน้าที่เพื่อให้สังคมกลับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

00 แต่ดูเหมือนว่าความพยายามที่จะ “แยกดินแยกน้ำ” ออกจากกันจะไม่เป็นผลเท่าไหร่ นักการเมืองประเภททาสยังคงไม่สำเหนียงต่อความปรารถนาของคนส่วนใหญ่ในประเทศว่าต้องการอะไร เพียงไม่นานหลังจากหลุดพ่วง ก็แสดงธาตุแท้ด้วยการหมุดเขารูของผู้ที่สร้างปัญหาให้แผ่นดินเสียแล้ว

00 ว่ากันตามความจริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรกับคนที่ชื่อ “ชวลิต ยงใจยุทธ” ที่จะมุดเข้าคอก “นช.แม้ว” หลังศาลฎีกาฯ ให้พ้นผิดในคดีหวยบนดิน เพราะคนชื่อ “จิ๋ว” มีท่าทีที่จะสวามิภักดิ์นักโทษหนีคดีคนนี้ตั้งแต่ช่วงที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ แต่ “นช.แม้ว” ยังไม่วางใจ และมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า หวยเลยไปออกที่ “สมัคร สุนทรเวช” แต่ก็มิวายแหย่หางด้วยการยอมเป็นรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลยุค “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” จนต้องคดี “7ตุลาเลือด” ร่วมกับ “สมัคร สุนทรเวช” และ “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ในที่สุด

00 การเริ่มเข้าไปอยู่พรรคเพื่อไทยของ “จิ๋ว” ด้วยการเป็นสมาชิกพรรค ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นประธานพรรค ตามที่ “พล.ท.พิรัช สวามิวัสดิ์” นายทหารคนสนิทคุยไว้ ส่วนจะถึงขั้นก้าวขึ้นสวมเก้าอี้หัวหน้าพรรคได้หรือไม่ อยู่ที่ต้องสร้างความไว้วางใจให้กับ “นช.แม้ว” เป็นสำคัญ เพราะถ้าไม่ใช่เถือกเถาเหล่ากอแล้ว “ทักษิณ” จะหวั่นเช่นกันว่าจะเกิดปัญหาเหมือน “สมัคร สุนทรเวช” ที่พอได้ดิบได้ดีก็ไม่อยู่ในโอวาท สั่งอะไรไม่ได้ดังใจ ยิ่งพฤติกรรมของ “จิ๋ว” เป็นประเภทรวนเร ไม่แน่นอน มั่นคง การจะให้ขึ้นมากุมบังเหียนพรรคเพื่อไทย เจ้าของพรรคตัวจริงก็ต้องคิดหนักเป็นธรรมดา

00 ไม่ว่า “จิ๋ว” จะเข้าไปมีตำแหน่งหน้าที่อะไร ใหญ่โตแค่ไหน สำคัญอยู่ที่ว่า จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาบ้านเมืองให้พ้นวิกฤต ให้คนในชาติหันมาสมัคร สมานสามัคคีอย่างที่บอกไว้จริงหรือไม่ สถาบันพระมหากษัตริย์จะไม่ถูกกระทบลบหลู่จากลิ่วล้อบางส่วนที่เคลื่อนไหวอยู่ได้หรือ เพราะบทบาทการนำที่แท้จริงในพรรคไม่ได้อยู่ที่ “จิ๋ว” ทั้งอำนาจ บารมีที่จะควบคุมลูกพรรคและลิ่วล้อภายในนอกก็ไม่มี เป็นได้แค่เพียงนอมินีคนใหม่ของ “ทักษิณ” เท่านั้น การประกาศจะเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมือง ก็คงเป็นแค่การคุยโวโอ่อวดเท่านั้น ในเมื่อคนที่กุมการนำทั้งหมดของพรรคยังเคลื่อนไหวป่วนประเทศตลอดเวลาและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

00 ฉะนั้นการเข้ามาอยู่ในพรรคเพื่อไทยคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือ “จิ๋ว” เท่านั้น รองลงมาคงจะเป็น “เฉลิม อยู่บำรุง” ที่อยู่ในพรรคลักษณะ “หัวเดียวกระเทียบลีบ” เพราะไม่มี ส.ส.ในสังกัด เด่นในเรื่องการพ่นลมปากปกป้องนายใหญ่จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธาน ส.ส.พรรค แต่สร้างความหมั่นใส่ให้กับ ส.ส.ส่วนใหญ่ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นพวก “ชุบมือเปิบ” ไม่เคยต่อสู้อะไรให้กับพรรคและลูกพี่ อยู่ๆ ก็มาสมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.สัดส่วน จนได้รับเลือกจากฐานเสียงของพรรคให้เป็น ส.ส. หลังจากตายไปจากวงการเมืองนานแล้ว แถมได้ดิบได้ดีเป็นถึง มท.1 ในยุค“สมัคร”

00 ที่ยืนอยู่ได้ด้วยการคำจุนของ ส.ส.สาย “จิ๋ว” 20-30 คน ภายใต้การดูแลของ “พล.ต.ศรชัย มนตริวัต” ส.ส.สัดส่วน คนสนิท “จิ๋ว” และ “ไพจิตร ศรีวรขาน” ส.ส.นครพนม การเข้ามาของ “จิ๋ว” ลูกพี่เก่าจึงทำให้ “เฉลิม” คึกคักยิ่ง แต่ก็คงจะสร้างความไม่พอใจให้กับ ส.ส.กลุ่มอื่นไม่น้อย ด้วยบุคลิกของ “เฉลิม” ดีไม่ดีอาจนำไปสู่สิ่งที่คิดไม่ถึงก็ได้ ฉะนั้นการเข้ามาของ “จิ๋ว” จึงเสมือนเป็นดาบสองคมได้เหมือนกัน

00 การขยับขับเคลื่อนของนักการเมืองหลังหลุดคดีทุจริตคงไม่เกิดขึ้นแค่ “พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” เท่านั้น หลังจากนี้น่าจะเห็นนักการเมืองที่หลบซ่อนอยู่ ใต้ร่มเงาต่างๆ เริ่มเปิดตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันข้าราชการระดับสูงที่มีปัญหากับรัฐบาล ก็คงไม่สงวนตัวที่จะแสดงออกถึงความต้องการที่จะกระโดดลงสู่ถนนการเมืองด้วยเช่นกัน คำกล่าวของ “สุชาติ ลายน้ำเงิน” ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย คนบ้านเดียวกับ“พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ” ที่แย้มว่า มีความเป็นไปได้ที่ “เสึ่ยป๊อด” จะเข้ารังเพื่อไทยนั้นก็ไม่อาจมองข้ามได้

00 วันนี้เป็นที่รู้กันโดยนัยว่า “พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ” รมว.กลาโหม พี่ชาย “พล.ต.อ.พัชรวาท” นั้น มีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ของ “เนวิน ชิดชอบ”แม้ยังไม่ก้าวเข้าไปในพรรคเต็มตัว แต่ในอนาคตเขาจะไปนั่งในตำแหน่งแทน “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” แน่นอน

00 ในทางการเมืองนั้น คนที่เล่นเป็นย่อมรู้ว่าพี่กับน้องไม่จำเป็นต้องอยู่พรรคเดียวกัน ยิ่งขยายฐาน วางสายสัมพันธ์ในพรรคต่างๆ ได้มากเท่าไหร่ ย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อการเดิมเกมการเมืองได้มากเท่านั้น แน่นอนว่าทั้ง “ประวิตร-เนวิน” ก็คงจะเดินเกมนี้เช่นนั้น เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยได้ร่วมทำงานด้วย หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง หรือเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เป็นแกนนำ ก็ยังมี “พัชรวาท” เป็นตัวเชื่อม หรืออย่างน้อยได้ช่วยเหลือเจือจานกันบ้างไม่มากก็น้อย

00 ฉะนั้นโอกาสที่ “พัชรวาท วงศ์สุวรรณ” จะสอดเข้าไปอีกซีกหนึ่งของการเมืองจึงเป็นไปได้สูง และสมประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ “นช.แม้ว” อาจต้องการสานประโยชน์บางอย่างจาก “พัชรวาท” ที่จะเชื่อมไปถึง “ประวิตร-เนวิน” ขณะที่ปรัชญาการทำงานการเมืองของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ “เนวิน ชิดชอบ” ก็คือ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจ ได้เป็นรัฐบาล เพราะนั่นจะเป็นโอกาสได้แสวงหาประโยชน์มากเท่านั้น ฉะนั้น “พัชรวาท” จึงลงตัวที่สุด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
กำลังโหลดความคิดเห็น