นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าพี่น้องคน จ.บุรีรัมย์ มีความภูมิใจ และยินดีต้อนรับนายกฯในครั้งนี้ และชาวบ้านที่เข้าร่วมต้อนรับนายกฯ เองก็พึงพอใจที่รัฐบาลได้ผลักดันโครงการหลายด้านเพื่อผลประโยชน์ของชาวบุรีรัมย์ แต่อาจสร้างไม่พอใจให้กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ที่พยายามจัดตั้งและขัดขวางความเจริญที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ของตัวเอง
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการใช้เจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยให้นายกฯเป็นจำนวนมากนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย ไม่ปลุกระดมให้คนเสื้อแดงมาต่อต้านนายกฯ การลงพื้นที่ของนายกฯ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้ารที่ รปภ.มากมาย ซึ่งในครั้งต่อไปที่นายกฯ มีแผนการจะลงพื้นที่ต่างๆทั่วทุกภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ ลำพูน อุบลฯ พรรคเพื่อไทย ควรส่งสัญญาณให้คนเสื้อแดง ยุติความเคลื่อนไหวในลักษณะขัดขวางการทำหน้าที่ของนายกฯ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากมาย
ส่วนที่ฝ่ายค้าน กล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ เล่นบทพระเอก ลอยตัวจากทุกปัญหา โดยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ เป็นเพียงการเล่นลิเกทางการเมืองนั้น นายเทพไท กล่าวว่า นายกฯ เป็นนักการเมืองที่มีความรับผิดชอบ และกล้าตัดสินใจทุกปัญหา ไม่เคยปฏิเสธ ความรับผิดชอบใดๆ เห็นได้ว่าตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา นายกฯใช้วิธีการทำงานแบบตัดสินใจในลักษณะฟันธงทุกปัญหา ไม่เคยหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามจากสื่อมวลชน และที่กล่าวหาว่านายกฯ เล่นบทพระเอกการเมืองนั้น ก็ยอมรับว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นพระเอกการเมืองตัวจริงที่จะนำพาประเทศชาติพ้นวิกฤตต่างๆไปให้ได้ แต่ที่กล่าวว่าเป็นภาพลิเก การเมืองนั้น ขอปฏิเสธว่า นายกฯไม่ใช่ลิเกการเมือง แต่ที่ออกมากล่าวหาต่างหากที่เป็นลิเก หรือจำอวดการเมืองข้างถนน
นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่เลือกตั้งในภาคอีสานตอนล่าง กล่าวว่า ชาวอีสานให้ความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีสูงมาก จัดได้ว่าสูงกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียอีก เพราะทุกคนได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาล และสนับสนุนให้มีนโยบายดังกล่าวต่อไป เช่น นโยบายเรียนฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ อสม. เป็นต้น
"หากสังเกตจะพบว่า บริเวณข้างทางที่นายกรัฐมนตรีเดินทางผ่านมีชาวบ้านจำนวนมากออกมาต้อนรับ ส่งเสียงกรี๊ด ยิ่งกว่าเจอไมเคิล แจ็กสัน เสียอีก ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวจะทำให้คนเสื้อแดงฝ่อไปในที่สุด เพราะถ้าออกมาต่อต้าน จะถูกคนที่ไม่เห็นด้วยโห่ไล่ จึงเป็นสัญญาณที่ดี ที่นายกรัฐมนตรีจะออกไปเยี่ยมเยียนประชาชน"
ทั้งนี้ในวันที่ 23 ก.ค.นี้ตนได้เชิญนายกฯ ลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี แต่นายกฯติดภารกิจ จึงได้เลื่อนกำหนดการออกไป คาดว่าจะสามารถไปจ.อุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ ได้ในเดือนส.ค.นี้
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า จุดขายของพรรคประชาธิปัตย์ ในการหาเสียงของพรรคในพื้นที่อีสาน คือ นโยบายรัฐบาล และการทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ส.ส.ในภาคอีสานเพิ่มขึ้น เพราะคะแนนสัดส่วนของพรรคดีอยู่แล้ว แต่จุดอ่อนอยู่ที่ผู้สมัคร ซึ่งต้องคัดคนที่โดดเด่นพอ ซึ่งขณะนี้มีรายชื่ออยู่ประมาณ 10 กว่าชื่อ ที่คาดว่าหากลงพื้นที่จะได้เข้ามาเป็นส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างแน่นอน
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ไม่มีปัญหา ส่วนจะลงพื้นที่ในลักษณะนี้ด้วยหรือไม่ ยังไม่มีการพิจารณา แต่พรรคจะพยายามหาเสียงอย่างประหยัด ไม่พยายามใช้งบประมาณมาก อย่างไรก็ตาม ที่ไม่พบว่านายเนวิน ชิดชอบ มาต้อนรับด้วยนั้น เชื่อว่านายเนวิน คงติดภารกิจอื่นๆ
"การลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ได้ไปกับพรรคภูมิใจไทย เพียงแต่พรรคภูมิใจไทย ให้การสนับสนุนเท่านั้น เพราะพื้นที่ จ.บุรีรัมย์เป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้เป็นการให้ความร่วมมือตามวิถีทางของนักการเมือง ซึ่งภาพรวมที่ออกมา ก็เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกัน เป็นการสื่อให้เห็นว่า เราได้ทำงานร่วมกัน และเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศได้" นายชวรัตน์ กล่าว
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีนั้น รัฐบาลได้ประโยชน์ 2 ทาง คือ 1. ได้ไปติดตามโครงการต่างๆของรัฐบาล และ 2. ผู้นำประเทศได้เห็นสถานการณ์ของปัญหาอย่างแท้จริง เพื่อสามารถนำมาทำงาน แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ในทางการเมืองนั้นอย่างน้อยถือเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชอบที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ลงพื้นที่ไปด้วยตัวเอง โดยสัมผัสได้จากการที่ประชาชนรู้สึกแสดงความยินดีให้การต้อนรับอย่างจริงใจ
**เพื่อไทยชี้ม.ค.ปีหน้ารัฐบาลไปแน่
ด้านพรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุม คณะกรรมการการเมืองของพรรค โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเข้าร่วมประชุมด้วย และมีการประเมินถึงการลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์ของนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเพียงการสร้างภาพ ให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ สามารถลงพื้นที่อีสานได้ ซึ่งความจริงแล้วมีการเกณฑ์คน และจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทั้งทหารและตำรวจ กว่า 5 พันนาย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และมั่นใจว่า ไม่มีทางที่รัฐบาลชุดนี้ จะได้คะแนนที่อีสาน ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย จะจับมือกันจมน้ำแน่ พร้อมประเมินว่า รัฐบาลจะไปในเดือนมกราคมปีหน้า
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการใช้เจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยให้นายกฯเป็นจำนวนมากนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย ไม่ปลุกระดมให้คนเสื้อแดงมาต่อต้านนายกฯ การลงพื้นที่ของนายกฯ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้ารที่ รปภ.มากมาย ซึ่งในครั้งต่อไปที่นายกฯ มีแผนการจะลงพื้นที่ต่างๆทั่วทุกภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ ลำพูน อุบลฯ พรรคเพื่อไทย ควรส่งสัญญาณให้คนเสื้อแดง ยุติความเคลื่อนไหวในลักษณะขัดขวางการทำหน้าที่ของนายกฯ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากมาย
ส่วนที่ฝ่ายค้าน กล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ เล่นบทพระเอก ลอยตัวจากทุกปัญหา โดยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ เป็นเพียงการเล่นลิเกทางการเมืองนั้น นายเทพไท กล่าวว่า นายกฯ เป็นนักการเมืองที่มีความรับผิดชอบ และกล้าตัดสินใจทุกปัญหา ไม่เคยปฏิเสธ ความรับผิดชอบใดๆ เห็นได้ว่าตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา นายกฯใช้วิธีการทำงานแบบตัดสินใจในลักษณะฟันธงทุกปัญหา ไม่เคยหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามจากสื่อมวลชน และที่กล่าวหาว่านายกฯ เล่นบทพระเอกการเมืองนั้น ก็ยอมรับว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นพระเอกการเมืองตัวจริงที่จะนำพาประเทศชาติพ้นวิกฤตต่างๆไปให้ได้ แต่ที่กล่าวว่าเป็นภาพลิเก การเมืองนั้น ขอปฏิเสธว่า นายกฯไม่ใช่ลิเกการเมือง แต่ที่ออกมากล่าวหาต่างหากที่เป็นลิเก หรือจำอวดการเมืองข้างถนน
นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่เลือกตั้งในภาคอีสานตอนล่าง กล่าวว่า ชาวอีสานให้ความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีสูงมาก จัดได้ว่าสูงกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียอีก เพราะทุกคนได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาล และสนับสนุนให้มีนโยบายดังกล่าวต่อไป เช่น นโยบายเรียนฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ อสม. เป็นต้น
"หากสังเกตจะพบว่า บริเวณข้างทางที่นายกรัฐมนตรีเดินทางผ่านมีชาวบ้านจำนวนมากออกมาต้อนรับ ส่งเสียงกรี๊ด ยิ่งกว่าเจอไมเคิล แจ็กสัน เสียอีก ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวจะทำให้คนเสื้อแดงฝ่อไปในที่สุด เพราะถ้าออกมาต่อต้าน จะถูกคนที่ไม่เห็นด้วยโห่ไล่ จึงเป็นสัญญาณที่ดี ที่นายกรัฐมนตรีจะออกไปเยี่ยมเยียนประชาชน"
ทั้งนี้ในวันที่ 23 ก.ค.นี้ตนได้เชิญนายกฯ ลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี แต่นายกฯติดภารกิจ จึงได้เลื่อนกำหนดการออกไป คาดว่าจะสามารถไปจ.อุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ ได้ในเดือนส.ค.นี้
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า จุดขายของพรรคประชาธิปัตย์ ในการหาเสียงของพรรคในพื้นที่อีสาน คือ นโยบายรัฐบาล และการทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ส.ส.ในภาคอีสานเพิ่มขึ้น เพราะคะแนนสัดส่วนของพรรคดีอยู่แล้ว แต่จุดอ่อนอยู่ที่ผู้สมัคร ซึ่งต้องคัดคนที่โดดเด่นพอ ซึ่งขณะนี้มีรายชื่ออยู่ประมาณ 10 กว่าชื่อ ที่คาดว่าหากลงพื้นที่จะได้เข้ามาเป็นส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างแน่นอน
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ไม่มีปัญหา ส่วนจะลงพื้นที่ในลักษณะนี้ด้วยหรือไม่ ยังไม่มีการพิจารณา แต่พรรคจะพยายามหาเสียงอย่างประหยัด ไม่พยายามใช้งบประมาณมาก อย่างไรก็ตาม ที่ไม่พบว่านายเนวิน ชิดชอบ มาต้อนรับด้วยนั้น เชื่อว่านายเนวิน คงติดภารกิจอื่นๆ
"การลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ได้ไปกับพรรคภูมิใจไทย เพียงแต่พรรคภูมิใจไทย ให้การสนับสนุนเท่านั้น เพราะพื้นที่ จ.บุรีรัมย์เป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้เป็นการให้ความร่วมมือตามวิถีทางของนักการเมือง ซึ่งภาพรวมที่ออกมา ก็เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกัน เป็นการสื่อให้เห็นว่า เราได้ทำงานร่วมกัน และเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศได้" นายชวรัตน์ กล่าว
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีนั้น รัฐบาลได้ประโยชน์ 2 ทาง คือ 1. ได้ไปติดตามโครงการต่างๆของรัฐบาล และ 2. ผู้นำประเทศได้เห็นสถานการณ์ของปัญหาอย่างแท้จริง เพื่อสามารถนำมาทำงาน แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ในทางการเมืองนั้นอย่างน้อยถือเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ชื่นชอบที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ลงพื้นที่ไปด้วยตัวเอง โดยสัมผัสได้จากการที่ประชาชนรู้สึกแสดงความยินดีให้การต้อนรับอย่างจริงใจ
**เพื่อไทยชี้ม.ค.ปีหน้ารัฐบาลไปแน่
ด้านพรรคเพื่อไทย ได้มีการประชุม คณะกรรมการการเมืองของพรรค โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเข้าร่วมประชุมด้วย และมีการประเมินถึงการลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์ของนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเพียงการสร้างภาพ ให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ สามารถลงพื้นที่อีสานได้ ซึ่งความจริงแล้วมีการเกณฑ์คน และจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทั้งทหารและตำรวจ กว่า 5 พันนาย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และมั่นใจว่า ไม่มีทางที่รัฐบาลชุดนี้ จะได้คะแนนที่อีสาน ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย จะจับมือกันจมน้ำแน่ พร้อมประเมินว่า รัฐบาลจะไปในเดือนมกราคมปีหน้า