“ชุมพล-ชวรัตน์” หนุนแก้ รธน.อ้างผลสำรวจโพลเป็นดัชนีชี้วัด ปชช.เสียงใหญ่ต้องการให้แก้ไข ชี้ เมื่อผิดก็ต้องทำให้ถูก และเหมาะสมกับสถานการณ์ ยัน ส.ส.ไม่ได้มีส่วนได้เสีย แต่ประชาชนเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์
วันนี้ (7 ก.ย.) นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ความเห็นของพรรคชาติไทยพัฒนา ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตรงกับที่คณะกรรมการสมานฉันท์ สรุปว่า ควรแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นในบ้าง แต่จะแก้ทั้งหมดหรือไม่ แล้วแต่รัฐบาลจะตัดสินใจ
เมื่อถามว่า มี ส.ส.และ ส.ว.บางส่วนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับตัวเองแบบนี้ จะทำให้สามารถถูกยื่นถอดถอนได้หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเป็นการทำเพื่ออนาคต คิดได้อย่างไรว่าตัวเองจะได้รับเลือกตั้ง ไม่มีปัญหาจะถอดถอนได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวกระแสต่อต้านหรือ นายชุมพล กล่าวว่า ใครจะต่อต้าน อะไรที่มันผิดอยู่ก็ต้องทำให้ถูก อะไรที่ไม่เป็นธรรมก็ต้องทำให้มันเป็นธรรม เรื่องต่างๆ จะได้บรรเทาลง อย่างน้อยก็เป็นพื้นฐานที่จะเป็นบรรทัดฐานให้บ้านเมือง เพื่อที่จะพูดคุยกัน หากคนหนึ่งยังคิดว่าตัวเองไม่ผิด อีกคนยังคิดว่าตัวเองถูก ก็ไม่มีทางพูดจากันรู้เรื่อง
เมื่อถามว่า บางกลุ่มค้านตั้งแต่ยังไม่เริ่มแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชุมพล กล่าวว่า ช่างเขา บ้านเมืองไม่ใช่ของเขาคนเดียว แต่เป็นเรื่องของทุกคน ถึงจะถูกหรือผิดก็ขึ้นอยู่กับความเห็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ถูกแน่ ถ้าถูกคงไม่มีกระแสต่อต้านมากมายแบบนี้ ขนาดโพลยังเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แสดงว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ถูกต้อง การทำประชามติครั้งที่แล้ว ก็ไม่ใช่การทำประชามติจริง
เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองใหม่ จะยื่นว่า การแก้รัฐธรรมนูญมีเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิที่เขาจะยื่น ไม่มีปัญหา และตนดูเรื่องรัฐธรรมนูญมานาน หากทับซ้อนจริง บ้านเมืองคงไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว เพียงแต่ว่าไปขัดผลประโยชน์ของตัวเอง จึงบอกไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ดังนั้น สังคมจะตัดสินเอง เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส.ไม่ได้ประโยชน์ แต่ประชาชนเป็นผู้ได้ประโยชน์ แล้วมันผิดไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ก็ปรับปรุงให้เหมาะสม กับสถานการณ์มันผิดตรงไหน เพราะฉะนั้นถ้าผิดรัฐธรรมนูญปี 2540 ก็ต้องผิดด้วย ส่วนเรื่องการทำประชามตินั้น ตนเห็นว่า ไม่จำเป็นเพราะมีเพียง 6-7 ประเด็น ถ้าจะให้ดี ต้องแยกเป็นประเด็นๆ ใครไม่เห็นด้วย ประเด็นไหนก็แยกกันไป ไม่ใช่รวมกันเป็นกลุ่มแล้ว โหวตไม่รับทั้งฉบับ
เมื่อถามต่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในรัฐบาลหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไม่มีอะไรถึงขนาดนั้น เป็นเรื่องที่แก้แล้วผลประโยชน์ส่วนบุคคลอาจเข้ามาเกี่ยวข้อง ส.ส.ในพรรคเดียวกันผลประโยชน์ก็ไม่เหมือนกัน อย่างเขตเดียวเบอร์เดียวมีบางคนได้ประโยชน์บางคนเสียประโยชน์ การที่นายกฯเปิดรัฐสภาให้มีการอภิปรายเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ถือว่าเป็นการยื้อเวลา แต่ต้องการฟังความเห็นที่กว้างขวางก่อนที่จะมีการเสนอเข้าสู่ระเบียบวาระต่อไป ส่วนระยะเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ยังไม่มีเวลาที่แน่นอนแต่ควรทำก่อนเลือกตั้ง
ด้าน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า น่าจะมีจุดเริ่มต้น หากไม่มีจุดเริ่มต้นจะเริ่มได้อย่างไร โผล่มาจากใต้น้ำจะได้หรือ เมื่อถามว่าควรที่จะเสนอแก้ไขนอกเหนือจาก 6 ประเด็นที่เสนอแก้ไขหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ถ้าเห็นว่าประเด็นอื่นจำเป็นต้องแก้ ก็แก้ เมื่อเสียเวลาแล้วทำให้มันดีที่สุด ซึ่งตอนนี้ทีมงานของพรรคภูมิใจไทยกำลังดูอยู่ว่า ควรแก้ไขประเด็นไหนเพิ่มเติมหรือไม่
เมื่อถามว่า จะพ่วงกฎหมายนิรโทษเข้าไปด้วยหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เราเสนอเข้าสภาแล้ว ตอนนี้มันนอนอยู่ในสภา