"ผ่าประเด็นร้อน"
หลายคนพยายามเงี่ยหูฟัง นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าจะนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ตช.) เพื่อเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ ก่อนเดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติและในที่ประชุมกลุ่มประเทศ จี 20 ระหว่างวันที่ 20-27 กันยายน
เพราะหากดำเนินการได้เร็ว และผลออกมาเรียบร้อยดีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสะท้อนภาพความเป็นผู้นำมากขึ้นเท่านั้น
และที่สำคัญคราวนี้จะพลาดแบบคราวที่แล้วไม่ได้เป็นอันขาด
อย่างไรก็ดีล่าสุดเมื่อเย็นวานนี้ (14 กันยายน) มีรายงานยืนยันว่านายกรัฐมนตรีได้นัดประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ตช.) เพื่อโหวตเลือกผู้บัญชาการตำรวจคนใหม่ในวันพุธที่ 16 กันยายนนี้
ทั้งที่เมื่อถูกถามเมื่อตอนเช้าวันเดียวกันว่า จะเรียกประชุมในสัปดาห์นี้เลยหรือเปล่า ก็ได้รับคำตอบว่า “จะพยายาม” และยังกล่าวอีกว่าตอนนี้ “กำลังทำให้ข้อมูลตรงกันและมีความราบรื่นมากขึ้นก่อน”
ดังนั้นเมื่อนัดประชุม ก.ตช.วันพุธก็ย่อมหมายความว่าทุกอย่างพร้อม มีการประสานข้อมูลกับ ก.ตช.คนอื่นๆได้ตรงกันและทุกอย่างคงราบรื่นแล้วนั่นเอง
ขณะเดียวกันยังเคยเปิดเผยว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) เพื่อแต่งตั้ง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิคนใหม่แทน พล.ต.อ.สุเทพ ธรรมรักษ์ ที่ลาออกไป ซึ่งตามกฎหมายในที่นี้ก็จะเป็น พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเป็นคนเสนอรายชื่อให้ที่ประชุมพิจารณา
อย่างไรก็ดีหากพิจารณามาตามลำดับจะเป็นว่าสถานการณ์ของฝ่ายนายกรัฐมนตรีเริ่มตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ หลังจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดจากกรณีเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 จนถูกสั่งมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯชั่วคราวเพื่อรอพิจารณาโทษ “ปลดออก” หรือ “ไล่ออก” ทำให้สภาพความเป็น “ตอ” ใน ก.ตช.ผ่อนคลายลงไปได้มาก
การแต่งตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เข้ามารักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและกลายเป็นอีกหนึ่งเสียงใน ก.ตช.ที่อยู่ฝ่ายนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ก่อนหน้าที่ พล.ต.อ.พัชรวาท เลือกยืนอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม
และยิ่ง พล.ต.อ.สุเทพ ธรรมรักษ์ ก.ตช.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เคยโหวตสวนทางก็มายื่นใบลาออกในช่วงนี้พอดี ซึ่งตามกฎหมายแม้ว่าหากจะรอให้มีการแต่งตั้งคนใหม่มาแทนและมีความเป็นไปได้สูงที่จะมาเพิ่มเสียงให้อีก เพราะ พล.ต.อ.ธานี เป็นคนเสนอให้ ก.ตร.พิจารณา แต่ต้องใช้เวลานาน อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่ได้รับโปรดเกล้าฯจะไปเร่งรัดขั้นตอนไม่ได้ เป็นเรื่องมิบังควร
ดังนั้นถ้าพิจารณากันเฉพาะที่เหลืออยู่เวลานี้ ไล่นับกันทีละเสียงก็จะเห็นว่าฝ่ายนายกรัฐมนตรีเริ่มจะมีเปรียบขึ้นมาค่อนข้างชัดเจนแล้ว
แม้ว่าหากพิจารณาอีกมุมหนึ่งจากองค์ประกอบทางด้านบรรยากาศทางการเมือง กำลังมีการเคลื่อนไหวของพวก “เด็กๆ” ของ ทักษิณ ชินวัตร กลุ่มคนเสื้อแดงที่นัดยกขบวนมาชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน หากผลการโหวตเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ย่อมส่งผลไปถึงอีกฝ่ายหนึ่ง อาจทำให้เกิดแรงกระเพื่อมขึ้นมาก็เป็นได้
แต่ในทางตรงกันข้ามในช่วงเวลาอันสำคัญและช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มหากมีความชัดเจนในตำแหน่งเบอร์หนึ่ง คือได้ตัวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ให้เป็นเรื่องเป็นราว บรรดา “ตำรวจนักวิ่ง” หรือพวกเขี้ยวลากดินต่างๆทั้งหลายก็อาจหยุด หรือประเมินท่าทีกันใหม่ หรือกลับลำวิ่งเข้าหาขั้วอำนาจใหม่
เริ่มทำงานกระฉับกระเฉงมากขึ้น ไม่กล้าตีรวน งอแงอีกต่อไป
อีกทั้งนายกรัฐมนตรียังสามารถใช้บริการของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ที่กำลังฟิตจัดในช่วงเวลาที่เหลือในราชการอีกสิบกว่าวัน กำลังโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเข้าตาพอสมควร ยังทำหน้าที่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อได้จนจบ เสริมความแน่นปึ๊กเข้าไปอีก
เมื่อดูตามตารางปฏิทินแล้วนายกรัฐมนตรีมีกำหนดเดินทางไปสหรัฐอเมริกาและยุโรปตั้งแต่วันที่ 20-27 กันยายน ข้างหลังก็คงจะพอไว้วางใจได้บ้าง
อย่างไรก็ตามนี่เป็นการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์จากข้อมูลและท่าทีล่าสุดของนายกรัฐมนตรี ทุกอย่างอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา เพราะยังเหลือเวลาอีก 4-5 วันที่จะถึงกำหนดเดินทางไปต่างประเทศ อีกทั้งยังไม่ได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุมของพวกเสื้อแดงก่อนถึงวันที่ 19 กันยายน อะไรก็เกิดขึ้นได้
แต่นาทีนี้คิดว่าหากนายกฯไม่ชัวร์ ก็คงไม่นัดประชุมเลือกผู้บัญชาการตำรวจคนใหม่ในวันพุธนี้ เพื่อเร่งปิดเกมป่วนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแน่นอน !!