“เคาะข่าวริมโขง” เปิดเวทีชำแหละแผน “แดงชั่ว” คิดชุมนุมล้มรัฐบาล เปิดทาง “พ่อแม้ว” กลับบ้าน “ชัชวาลย์” จุดประเด็น “ป๊อก” ไม่ไปร่วมอวยพรวันเกิด “ป๋า” มีนัยเคลือบแฝง ด้าน “ประพันธ์” เสริม ประเด็นนี้น่าสงสัย ทีตอนวันเกิด บิ๊กป้อม” ทำไมโผล่หัวนำทีมทหารไปด้วยตัวเอง แฉชนวนยิง “สนธิ” เพราะเข้าไปขวางแผนทหารบ้าอำนาจขึ้นเป็นใหญ่ในบ้านเมือง ฉะนิรโทษกรรมแบบฉบับภูมิใจไทย แค่ กม.ช่วยพวกนักการเมืองชั่วตัวฉกาจให้พ้นผิด
ชมรายการ เคาะข่าวริมโขง ช่วงที่ 1
(คลิกที่จอภาพเพื่อเข้าสู่หน้าหลัก ชมวีดีโอย้อนหลัง)
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ทางช่องอีสานทีวี-ทีวีเพื่อคนอีสาน วันที่ 25 ส.ค. นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นายประพันธ์ คูณมี และนายเทิดภูมิ ใจดี (แทน น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก) ร่วมดำเนินรายการ โดยได้นำประเด็นข่าวคราวสำคัญๆ มีนำเสนอต่อผู้ชมทางภาคอีสาน เริ่มด้วยกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย.ซึ่งจะมีการชุมนุมของคนเสื้อแดง
นายประพันธ์กล่าวว่า สาเหตุที่มีการประกาศให้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่ดังกล่าว เพราะฝ่ายรัฐบาลคงได้ข้อมูลว่าการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ไม่ปกติ เพราะเหตุผลที่จะชุมนุมนั้นฟังไม่ขึ้น รัฐบาลไมได้ทำความเลวร้ายถึงขั้นจะต้องขับไสไล่ส่ง และคนเสื้อแดงก็ได้ยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรไปแล้ว ไม่รอฟังเลย เวลายังไม่ถึงสัปดาห์ก็หาว่ารัฐบาลถ่วงเรื่องแล้ว จึงเห็นว่าเหตุผลในการชุมนุมไม่เข้าท่า และมีการติดตามทางลึกพบว่าไม่ใช่การชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตย
นอกจากนี้ยังเคยมีบทเรียนจากช่วงสงกรานต์ซึ่งคนเสื้อแดงได้เผาบ้านเผาเมืองมาแล้ว รัฐบาลจึงเตรียมการรับมือ และมีมติให้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงดังกล่าว แต่ใช้เฉพาะพื้นที่เขตดุสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล แลวังสวนจิตรลดา ตลอดจนเขตพระราชฐาน ซึ่งถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงจากการชุมนุมหรือการจลาจลจากคนเสื้อแดง รัฐบาลก็มีอำนาจเข้าไปจัดการได้
นายเทิดภูมิกล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้คนเสื้อแดงมีเป้าหมายแฝงเร้นและลับลวงพรางที่รัฐบาลพอรู้อยู่ จึงเอากฎหมายนี้ออกมาใช้บังคับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นรัฐบาลที่อ่อนแอหากไม่มีมาตรการบังคับคนที่จะมาก่อความวุ่นวาย และการเอากฎหมายนี้ออกมาใช้ ไม่ถือว่ารัฐบาลกลัวเกินไป เพราะเป้าหมายของคนเสื้อแดงคือสร้างความวุ่นวาย ไม่ต้องการให้รัฐบาลชุดนี้ทำงานได้ ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยาแล้ว และก็จะบอกว่าสู้ทักษิณของพวกเขาไม่ได้
นายเทิดภูมิกล่าวต่อว่า ตนเคยวิเคราะห์ไว้แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการสร้างความวุ่นวาย เพื่อไม่ให้มีกฎหมายไปเล่นงานเขาได้ ซึ่งเป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เขากลับมาและพ้นจากความผิด เพราะถ้ามาต่อสู้คดีเขาไม่มีทางชนะแน่นอน
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนพูดโกหกตลอด เช่นบอกว่าการคอร์รัปชันนั้น ต้องเป็นการเอาเงินไปจากหลวง แต่กรณีของเขาหลวงเป็นฝ่ายจะเอาเงินเขาที่หามาแทบเป็นแทบตาย ซึ่งคนอีสานที่ไม่รู้ข้อมูลอาจคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดถูก แต่ต้องถามว่าเงิน 7.6 หมื่นล้าน หรือแสนล้านของเขานั้น หามาได้ด้วยวิธีไหน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณไม่พูด มีแต่พูดข้ามไปเลยว่าเงินของเขาถูกยึดไป ซึ่งเป็นการพูดตัดตอนไปมา
ต่อมานายเทิดภูมิได้กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีข้อสรุปว่า ข้อกล่าวหาที่มีต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กรณีการทุจริตงบประชาสัมพันธ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 18 ล้านบาท ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.เคยตั้งกรรมการสอบสวนไว้นั้น ยังมีผลอยู่ และให้นายกรัฐมนตรีตั้งกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.พัชรวาทต่อไป โดยนายเทิดภูมิระบุว่า เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะต้องตั้งกรรมการสอบสวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือจะย้าย พล.ต.อ.พัชรวาททันทีก็ได้ แต่นายอภิสิทธิ์ อาจจะเกรงใจคนที่ทำให้ได้เป็นนายกฯ ทำให้ยังไม่กล้า แต่เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลออกมาให้ประชาชนรู้แล้ว ก็คงจะต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนข้าราชการที่ทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงนั้น จะต้องย้ายข้าราชการคนนั้นออกจากหน่วยงานที่ดูแลอยู่ และถึงเวลาที่นายกฯ ต้องเลือกเอาว่าจะยอมผิดใจเขา หรือจะยอมติดคุก แต่เชื่อว่านายกฯ คนนี้คงไม่ยอมติดคุกแน่นอน
นายประพันธ์กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ออกมาเร่งให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบ และย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่เช่นนั้นจะฟ้องนายกฯ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ทันที เพราะในสมัยที่เขาถูกกล่าวหาโดยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชนั้น แค่วันเดียวก็ถูกย้ายทันที เพราะฉะนั้นจึงถือว่า การย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทเป็นไฟต์บังคับ จะเฉไฉลับล่อๆ ต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กัดไม่ปล่อยแน่
นายชัชวาลย์กล่าวถึงกรณี เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เปิดบ้านต้อนรับ ผบ.เหล่าทัพ ที่ตบเท้ามาร่วมอวยพร ว่า เมื่อวานเหล่า ผบ. ได้เข้าร่วมอวยพร พล.อ.เปรม ขาดแต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ระบุว่าได้เดินทางมาอวยพรล่วงหน้าแล้ว เพราะติดภารกิจต้องบินไปประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้นำเหล่าทหารมาร่วมอวยพร ทำให้หลายฝ่ายอดวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ว่า เหตุใด พล.อ.อนุพงษ์ จึงไม่เดินทางมาพร้อม พล.อ.ประวิตร
นายประพันธ์กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า วันเกิด พล.อ.เปรม ปีนี้ ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ดูจากเมื่อวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ ยังนำเหล่าทหารจำนวนมากตบเท้าไปร่วมอวยพร แต่ทำไมวันเกิด พล.อ.เปรม กลับอ้างว่าไปอวยพรล่วงหน้ามาแล้ว ไม่ยอมไปพร้อม ผบ.เหล่าทัพอื่น ส่วนสาเหตุที่ พล.อ.ประวิตร เข้าอวยพร พล.อ.เปรม นั้น ตนคิดว่าน่าจะมาจากความต้องการที่อยากให้ทุกฝ่ายเห็นว่ายังมีความเคารพ พล.อ.เปรม อยู่ รวมทั้งคงยังไม่อยากประกาศเป็นศัตรู พล.อ.เปรม ตอนนี้ ขณะที่ พล.อ.เปรม ได้ให้โอวาทว่า ในที่สุดแล้วทหารและตำรวจต้องมาร่วมกันทำประโยชน์เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยจากคำพูดของ พล.อ.เปรม คงรู้สึกว่า ขณะนี้มีความพยายามทำลายสถาบันและบ้านเมืองด้วยฝีมือของกลุ่มคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตนเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อควบคุมสถานการณ์ในวันที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมกัน โดยอยากฝากพี่น้องชาวอีสาน อย่าตกเป็นเครื่องมือโดยไปร่วมการกระทำดังกล่าว ถ้าอยากให้บ้านเมืองสงบ แค่ไม่ไปร่วมกับหางแดงเพื่อก่อความวุ่นวายก็พอ
นายชัชวาลย์เปิดประเด็นถึงกรณี ความคืบหน้าคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ขณะนี้เริ่มไม่มีความเคลื่อนไหว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจเคยออกหมายจับมาแล้ว 2 ระลอก เป็นทหาร 2 นาย และตำรวจ 1 นาย จากนั้น ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอื่นๆเพิ่มอีก กรณีนี้ นายประพันธ์ กล่าวว่า ต้องเริ่มดูก่อนว่า ทำไม นายสนธิ ถึงถูกลอบยิง ทั้งที่ต่อสู้เพื่อสถาบันมาตลอด เพราะเห็นว่าคนกลุ่มหนึ่งกำลังพยายามคิดล้มล้างราชบังลังก์ ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่เชื่อ แต่พอเริ่มเห็นอะไรหลายอย่าง ขณะนี้ชัดเจนแล้ว ศัตรูของ นายสนธิ คือ คนโกงบ้านโกงเมือง โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า แต่ขณะนี้เริ่มมีสิ่งที่น่าเป็นห่วง เพราะมีทหารบางคนเริ่มอยากเป็นใหญ่ในบ้านเมือง พยายามเรียนรู้พฤติกรรมโกงกินจากเหล่านักการเมือง ซึ่งเป็นสาเหตุให้ นายสนธิ ถูกลอบยิง เนื่องจากเป็นก้างชิ้นใหญ่ที่คอยขวางคออยู่ โดยจากผลการสอบสวนของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผู้ดูแลคดีนี้ เป็นที่ชี้ชัดแล้วว่า ทหารเป็นคนยิง และมีคนสั่งการเป็นนายผู้มีอำนาจ ทั้งอาวุธ และทหารกรมกองที่ยิงชัดเจน ดังนั้น ถ้าหากกองทัพบริสุทธิ์ใจเรื่องนี้จริง ต้องจับตัวคนร้ายออกมาส่งให้ตำรวจ
นายประพันธ์กล่าวต่อถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย เสนอกม.นิรโทษกรรม ว่า เรื่องนี้ประเด็นอยู่ที่มีความพยายามจะช่วย พล.ต.อ.พัชรวาทและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน ที่ไปร่วมชุมนุม ซึ่งรัฐบาลขณะนั้น มี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศชัดเจนให้จัดการกับผู้ชุมนุมด้วยความเด็ดขาด ทำให้มีประชาชนล้มตาย และได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีนักการเมืองหลายคนเข้าไปเกี่ยวพัน อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ดังนั้น การเสนอ กม.นิรโทษกรรม ถือเป็นการช่วยคนพวกนี้ให้พ้นจากความผิด ทั้งที่พันธมิตรฯ และกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ต้องการให้กฏหมายฉบับนี้เกิดขึ้น
นายชัชวาลย์กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า สาเหตุที่ต้องรีบเสนอ กม.นิรโทษกรรม เพราะขณะนี้ใกล้งวดเข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับการตัดสินคดีต่างๆ ทั้งคดีกล้ายางและคดีหวยบนดิน โดยนักการเมืองที่เกี่ยวข้องเป็นที่รู้จักดี อาทิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายเนวิน ชิดชอบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นายประชา พรหมนอก รวมทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รวมทั้งสิ้น 47 คน ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยจึงเสนอ กม.ดังกล่าว เพื่อช่วยพวกพ้องของตนเอง รวมไปถึงหากตำรวจที่พ้นผิดจากการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม ก็จะช่วยซื้อใจให้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นเข้ามาเป็นพวกตนเอง จะได้ส่งไปเป็นไม้เป็นมือเอื้อการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสานต่อไป