xs
xsm
sm
md
lg

เคาะข่าวริมโขง ถกปมคลิปเสียงดิสเครดิต “มาร์ค” เชื่อ “แดงถ่อย” ปล่อย หวังจุดชนวนรุนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เคาะข่าวริมโขง ถกปมคลิปเสียงดิสเครดิต “มาร์ค” เชื่อ “แดงถ่อย” ตัวการปล่อย หวังจุดชนวนรุนแรง โทษรัฐบาล ออก “พ.ร.บ.มั่นคง” เปิดทางทหารจัดการคนเสื้อแดง แฉ พิรุธคลิปเสียงขัดกับบุคลิกและนิสัย เชื่อ “มาร์ค” ไม่ชอบรุนแรง เหมือน “นช.แม้ว” ที่สั่งฆ่าตัดตอนผู้บริสุทธิ์อย่างไร้เหตุผล ตอก "สมุนหน้าเหลี่ยม" 30 ส.ค.นี้ หากชุมนุมอย่างสงบ-ปราศจากอาวุธจริง ไม่ต้องกลัว เพราะ กม.มีไว้ลงโทษคนชั่ว คนดีไม่เป็นไร

ชมรายการ เคาะข่าวริมโขง ช่วงที่ 1 (คลิกที่จอภาพ เพื่อเข้าสู่หน้า วีดีโอย้อนหลัง)






คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”

รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทางช่องอีสานทีวี-ทีวีเพื่อคนอีสาน วันที่ 27 สิงหาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นายประพันธ์ คูณมี เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้มีการหยิบยกประเด็นข่าวเด็นในรอบวันมาเติมความรู้ให้แก่พี่น้องชาวอีสานเหมือนเช่นเคย โดยในวันนี้ มีการพูดถึงคลิปที่อ้างว่าเป็นเสียง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งให้จัดการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะนัดชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกรณีเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดปรากฏการณ์ฟ้าผ่าบริเวณเวทีคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง รวมถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้ง ยังมีการวิเคราะห์กรณีเขาพระวิหาร รวมทั้งประเด็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553

นายชัชวาลย์ เปิดประเด็นด้วยเรื่องกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าเวทีคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง ต้องดูเจตนาว่าชุมนุมด้วยจุดประสงค์ใด โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้นัดรวมตัวกันแต่งชุดดำ เพื่อไว้อาลัยให้แก่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องในวันเกิดวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การที่ฟ้าผ่าลงมา คงไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเหตุการณ์ความวุ่นวายต่างๆ โกลาหลมากในเวลาประมาณ 20.15 น.ที่ฝนเทกระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก ประกอบกับมีลมกระโชกแรง ทำให้เต็นท์ของกลุ่มคนเสื้อแดงล้มระเนระนาด โดยกลุ่มคนเสื้อแดงถึงกลับเอ่ยปากบ่นออกมาว่า “มันน่าน้อยใจเกิดมาเป็นคนเสื้อแดงเนี่ย” “คนเสื้อแดงชุมนุมทีไรเป็นอย่างงี้ทุกที” “ฟ้าไม่ชอบคนดีหรือไง ฟ้าชอบ เห..ี้ย หรือเปล่า?”

นายประพันธ์ กล่าวเสริมในประเด็นนี้ ว่า คนเสื้อแดงน่าจะรู้อยู่แล้วว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการก้าวล่วงสถาบัน นับเป็นความเสียหายของประเทศ ที่รับจ้างมาชุมนุมก่อความวุ่นวาย รู้อยู่แล้วว่าฟ้าดินไม่ชอบคนไม่ดี ฟ้าฝนถึงไม่เป็นใจ ตนคิดว่า ฟ้าดินรู้ดีว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดี กลุ่มคนเสื้อแดงจัดกิจกรรมที่ไหน ไม่เห็นมีคนกรุงเทพฯ เข้าร่วมชุมนุมด้วยเลย เพราะคนกรุงเทพฯ รู้พฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงดีว่าปั่นป่วนแค่ไหน อย่างกรณีการนัดชุมนุมยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งที่ผ่านมา ฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ เพราะมีการปลุกปั่นให้ผู้คนเกิดความเข้าใจผิด โดยใช้เงินเป็นตัวล่อ ชักจูงคนมาร่วมชุมนุม ทั้งที่จริงๆ ไม่มีเหตุผลอันควร

นายชัชวาลย์ กล่าวต่อถึงกรณีแกนนำคนเสื้อแดงที่เริ่มแตกคอกันเอง ว่า วันนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งหัวขวด ออกมาตอบโต้ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (เดิมนามสกุล แซ่ด่าน) ที่ขณะนี้ไปสมคบคิดกับ นายจักรภพ เพ็ญแข ว่า ตนเองไม่ใช่ควายให้ใครมาจูงไปกินหญ้า เพราะก่อนหน้านี้ นายจักรภพ เขียนบทความมาด่ากระทบแก๊งหัวขวดว่าดีแต่หลอกเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน กรณีนี้ตนอยากวิเคราะห์ว่า แนวทางของทั้งสองพวกนี้ต่างกัน พวกแก๊งหัวขวด แค่ต้องการเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ มาเคลื่อนไหวด้วยการจัดการชุมนุมเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แต่สำหรับฝ่าย นายสุรชัย และ นายจักรภพ ต้องการขับไล่รัฐบาลและล้มระบอบอำมาตย์ด้วยวิธีที่เบ็ดเสร็จ เด็ดขาด จึงเกิดความแตกแยกกันทางความคิด

นายประพันธ์ เสริมประเด็นนี้ว่า เมื่อสมัยก่อนวีรกรรมของ นายสุรชัย ก็ไม่ใช่ย่อย เคยเผาจวนผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช และปล้นรถไฟมาแล้ว แต่ได้รับการอภัยโทษจึงหลุดรอดออกมา โดยที่ไม่เคยสำนึกว่าตัวเองได้รับการอภัยโทษมา น่าจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ตอนนี้ยังมีหน้าไปคิดแผนล้มสถาบัน พยายามล้มระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งแนวทางขัดกับแก๊งหัวขวด ที่ชอบเอาแต่เงิน อยากได้เงินมาเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสูบเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ ไปเรื่อยๆ โดยจะเห็นได้จากการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีท่อน้ำเลี้ยงส่งตรงมาจากนอกประเทศตลอด

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า เงื่อนไขการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงวันที่ 30 สิงหาคมนี้ เหตุผลค่อนข้างเบาบาง ไม่มีน้ำหนักชัดเจน ดังนั้น จึงมีการปล่อยคลิปที่อ้างว่าเป็นเสียง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมา โดยเนื้อหาในคลิปเสียงดังกล่าว ระบุว่า นายกรัฐมนตรีให้อำนาจทหารในการจัดการกับกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ โดยตนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นแค่คลิปที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างขึ้น เพื่อหาความชอบธรรมในการชุมนุม และต้องการปะทุให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง รวมทั้งเพื่อกระตุ้นให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาชุมนุมกันมากๆ เป็นการต่อต้านอำนาจของรัฐบาล

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า การที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดแต่งชุดดำนั้น ตนคิดว่า เป็นการซ้อมไว้อาลัยไว้ล่วงหน้า เพราะขณะนี้นายใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศกำลังป่วยหนัก ส่วนกรณีคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นของ นายอภิสิทธิ์ ตนไม่เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีจะสั่งให้ทำเช่นนั้น เพราะเท่าที่รู้จัก นายอภิสิทธิ์ มา ต้องการันตีว่าเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถ ถือว่ามีคุณสมบัติในการเป็นผู้นำที่ดี แต่ขอติงเรื่องความกล้าหาญ หากมีมากกว่านี้ จะมีความเด็ดขาดในการจัดการปัญหามากกว่านี้

นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า วันนี้เพื่อนตนซึ่งอยู่สถานีโทรทัศน์บีบีซี ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกันเรื่องคลิปที่อ้างว่าเป็นเสียง นายอภิสิทธิ์ ซึ่งเห็นตรงกันว่าเป็นการตัดต่อ เพราะสังเกตได้จากระดับเสียงในคลิปที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าใครไม่สังเกตหรือไม่มีความรู้ ก็อาจจะหลงเชื่อหรือคล้อยตาม แต่ในวงการตัดต่อเสียงเรื่องนี้ทำไม่ยากเย็นนัก คาดว่า จะใช้คนทำประมาณ 3 คน

“โดยปกติแล้วเวลาคนเราพูดจากัน จะมีระดับเสียงขึ้นๆ ลงๆ แต่ในคลิปหากสังเกตจะราบรื่น นอกจากนี้ หากฟังดีๆ จะเห็นว่ามีการใช้เทคนิคขยายช่องเสียงใส่คำว่า ผมว่า... ไว้หน้าประโยคตลอด ซึ่งในเรื่องนี้ อยากให้รัฐบาลหาตัวคนทำมาจัดการให้ได้ โดยขณะนี้เท่าที่ทราบ มีการประกาศตั้งรางวัลให้แก่ผู้ยอมรับว่าเป็นคนทำ โดยทางรัฐบาลจะกันไว้เป็นพยาน เพื่อสืบหาต้นตอคนสั่งการที่แท้จริง แต่ตนขอนั่งยัน ยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่สั่งให้ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมแน่นอน” นายชัชวาลย์ กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวต่อถึงประเด็นนี้ ว่า ตนอยากให้พี่น้องชาวอีสานลองใช้วิจารณญาณตรองดูว่า ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ มีนิสัยก้าวร้าว หรือชอบใช้ความรุนแรงหรือไม่ การที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่ได้มีจุดประสงค์ เพื่อให้อำนาจทหารมาจัดการกับผู้ชุมนุม แต่ต้องการออกกฎหมายมาเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ ตนอยากให้รัฐบาลชี้แจงต่อประชาชน นักธุรกิจ รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าในสถานการณ์ดังกล่าว ว่าเหตุผลการประกาศใช้กฏหมายฉบับนี้เพื่ออะไร

“ลองคิดดูที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี มีนิสัยนักเลง หรือเคยใช้ความรุนแรงหรือไม่ ตนอยากฝากให้รัฐบาลเร่งสืบหาต้นตอคนปล่อยคลิป ทำให้เรื่องดังกล่าวเกิดความกระจ่าง ประชาชนจะได้หูตาสว่าง เข้าใจสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจน โดยต้องใช้การพิสูจน์ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ที่สามารถเปิดโปงว่าคลิปนี้เป็นการตัดต่อเสียง นอกจากนี้ ยังควรหาต้นตอคนปล่อยคลิปว่าเป็นใคร จริงหรือไม่ที่ดีสเตชั่นหรือโทรทัศน์ของคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายเอาคลิปมาเผยแพร่เป็นที่แรก ต้องสืบให้ชัดเจน ประชาชนจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเรื่องนี้” นายประพันธ์ กล่าว

นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมว่า คลิปดังกล่าวมีเจตนาเพื่อดิสเครดิตนายกรัฐมนตรี ว่า สั่งฆ่าประชาชน ถ้าหากย้อนหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายในอดีต ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการปล่อยคลิปเสียงดิสเครดิตผู้นำประเทศ ที่ผ่านมาก็เคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ ในฐานะที่เป็นผู้นำประเทศขณะนี้ ต้องทำทุกอย่างให้ชัดเจน

“การปล่อยคลิปนี้ต้องการทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในตัว นายอภิสิทธิ์ ซึ่งขัดกับลักษณะนิสัยที่เห็น เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ใครกันแน่ที่ชอบใช้ความรุนแรง นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่เคยสั่งฆ่าใคร ไม่เหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เคยพัวพันคดีฆ่าตัดตอนยาเสพติดที่ภาคใต้ จนทำให้ไฟใต้ลุกลามใหญ่โต” นายชัชวาลย์ กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่า กฎหมายฉบับดังกล่าวถือว่าเป็นดาบสองคม คือ มีทั้งคุณและโทษ ด้านคุณ ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น แต่ด้านโทษเป็นเรื่องความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ดังนั้น จะเห็นได้ว่าเป็นกฏหมายที่ละเอียดอ่อน แต่ตนเชื่อว่า หากรัฐบาลแสดงความชัดเจนว่าต้องการประกาศใช้ เพื่อรักษาความสงบของประเทศ ทุกฝ่ายก็จะเข้าใจ ไม่เช่นนั้น หากรัฐบาลไม่ออกมาชี้แจง พวกสื่อต่างประเทศ ที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม อาจหยิบยกประเด็นนี้มาโจมตีรัฐบาลด้วยความไม่เข้าใจสถานการณ์ภายในประเทศของไทยอย่างแท้จริง

นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า การเดินหน้าชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อต้องการตั้งแง่กับรัฐบาล เยาะเย้ยว่าไม่กลัวอำนาจของ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งสำหรับตนแล้วเห็นว่า หากรัฐบาลต้องการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนเสื้อแดงจริง คงทำไปตั้งแต่เมื่อช่วงสงกรานต์ที่มีการชุมนุมป่วนเมืองครั้งนั้นแล้ว ดังนั้น ถ้าหากกลุ่มคนเสื้อแดงมีความบริสุทธิ์ใจที่จะชุมนุม ไม่มีการขนอาวุธ หรือก่อความวุ่นวาย ก็ไม่มีเหตุผลใดต้องคัดค้านกับการที่รัฐบาลจะออกกฏหมายฉบับนี้ เพื่อดูแลรักษาความสงบของประเทศ

ในช่วงต่อมา นายประพันธ์ ในกล่าวถึงกรณีความวุ่นวายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ซึ่งบรรดา ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ได้ใช้ถ้อยคำหยาบคาย และแจกของลับกลางที่ประชุม ว่า หลังจากเลื่อนมาจากเมื่อวาน วันนี้ได้เป็นการพิจารณาวาระดังกล่าวเป็นวันแรก ซึ่งกรณีนี้น่าสนใจ เพราะเป็นกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ที่เป็นภาษีของประชาชน ดังนั้น ควรมีการแจกแจงให้ชัดเจนว่า จะนำเอาไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมด้านใดบ้าง เพราะที่ผ่านมา เหล่านักการเมือง มักจ้องแต่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของตนเอง จนลืมไปว่าเข้าไปนั่งในสภาได้ เพราะเสียงของประชาชน

จากนั้นได้มีการนำกรณีเขาพระวิหาร ขึ้นมาวิเคราะห์ โดย นายประพันธ์ กล่าวว่า ข้อพิพาทกรณีเขาพระวิหารเกิดขึ้นมาช้านาน แต่ที่มาประทุอีกครั้งในรัฐบาลชุดนี้ เพราะดูเหมือนมีความจงใจจะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร ให้แก่กัมพูชา ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นสิทธิของประเทศไทยโดยชอบธรรม กรณีนี้ มีความผิดพลาดหลายครั้ง ตั้งแต่ที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งทางรัฐบาลชุดนี้ ก็ไม่ได้โต้แย้งอย่างชัดเจน เพื่อคัดค้านหรือแสดงท่าทีไม่เห็นด้วย นับว่าเป็นการยอมรับกลายๆ ทำให้ทางกัมพูชา คิดจะฮุบพื้นที่ทับซ้อนที่เป็นของไทยด้วย โดยในความเป็นจริง ศาลโลกตัดสินให้แค่ตัวปราสาทพระวิหารเท่านั้นที่เป็นของกัมพูชา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า ไทยกำลังจะเสียดินแดนอีก 4.6 ตารางกิโลเมตรให้แก่กัมพูชาด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า ไทยไม่ได้เสียดินแดน แต่ก็ไม่แสดงท่าทีใดๆ หรือออกมาอธิบายว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า หมายความว่าอย่างไร

นายประพันธ์ กล่าวต่อประเด็นนี้ ว่า เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร ยังเป็นของไทยจริง นายวีระ สมความคิด แกนนำภาคีเครือข่ายผู้ติดตามสถานการณ์ปราสาทพระวิหาร จะนำทีมเดินทางลงพื้นที่ ในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) ตอน 10 โมงเช้า โดยมีการนัดกันที่อุทยานเขาพระวิหาร และเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งถ้าหากเป็นสิทธิหรือเป็นพื้นที่ของไทยจริง ในฐานะที่เป็นคนไทย ต้องเข้าไปเหยียบพื้นที่ดังกล่าวได้

นายชัชวาลย์ กล่าวเสริมในประเด็นนี้ ว่า มีคนบอกว่าประเทศไทยกลายเป็นชาตินิยม ตนเห็นว่าไม่ใช่เช่นนั้น การออกไปทำแบบนี้ เพราะทุกประเทศย่อมมีดินแดนของตัวเองที่ชัดเจน และคงไม่มีประเทศไหนที่อยากให้ใครมารุกล้ำอาณาเขตประเทศตน แต่ดันมีอดีตผู้นำประเทศบางคน เห็นแก่ผลประโยชน์ในกัมพูชา ไปเจรจาแลกเปลี่ยนโดยเอาผืนแผ่นดินไทยเป็นตัวประกัน ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันหาวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะทางรัฐบาลต้องแสดงท่าทีที่แข็งขันและชัดเจนในการคัดค้านกัมพูชา ไม่ใช่ใช้วิธีตั้งรับและถอยร่นมาเรื่อยๆ อย่าทำให้เสียประวัติว่า ประเทศไทยเสียดินแดนในสมัยรัฐบาลชุดนี้

ต่อจากนั้น มีการนำคำพูดของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อสมัย ปี 2505 มาเปิดเผย โดยมีเนื้อหาระบุเรียกร้องให้คนไทยรักและหวงแหนแผ่นดินบ้านเกิด พร้อมทั้งต้องการให้คนไทยร่วมกันเอาประสาทพระวิหารกลับมาเป็นสมบัติของชาติไทยให้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น